เงินมันกระจายอยู่ทุกที่จริงไหม จริงค่ะมันกระจายอยู่ทุกที่ แต่มันกองแบบหนักๆแค่บางที่เท่านั้น ข้อมูลจาก Global wealth report รายงานว่าสหรัฐอเมริกา บวก จีนก็กินส่วนแบ่งทางการเงินไปครึ่งโลกแล้ว
สาธารณรัฐประชาชนจีนครอบครองเงินเกือบ 3 หมื่นล้านล้านบาท หรือ 18.4% ของโลก
ประเทศที่รวยอันดับ 3 - 20 รวม 18 ประเทศ ได้ครอบครองเงิน 34% ของโลก
และประเทศที่ไม่ติดอันดับ Top 20 รวมกัน 175 ประเทศทั่วโลก ได้ครอบครองเงินแค่ 15% ของโลกเท่านั้น ประเทศไทยเราก็อยู่ในจำนวนนี้ที่ได้ครอบครองส่วนแบ่งทางการเงินไม่ถึง 1% ของโลก
ระดับโลกเงินกองอยู่ที่ไหน
สหรัฐอเมริกาครอบครองเงินเกือบ 5 หมื่นล้านล้านบาท หรือ 31.5% ของโลกสาธารณรัฐประชาชนจีนครอบครองเงินเกือบ 3 หมื่นล้านล้านบาท หรือ 18.4% ของโลก
ประเทศที่รวยอันดับ 3 - 20 รวม 18 ประเทศ ได้ครอบครองเงิน 34% ของโลก
และประเทศที่ไม่ติดอันดับ Top 20 รวมกัน 175 ประเทศทั่วโลก ได้ครอบครองเงินแค่ 15% ของโลกเท่านั้น ประเทศไทยเราก็อยู่ในจำนวนนี้ที่ได้ครอบครองส่วนแบ่งทางการเงินไม่ถึง 1% ของโลก

ข้อมูลนี้วัดจากการรวบรวมปริมาณทรัพย์สินส่วนบุคคลและครัวเรือน ต่างจากการวัดด้วย GDP เล็กน้อย ถ้าใช้ตัวเลข GDP สหรัฐอเมริกาครองตลาดอยู่ 24% และจีนครอง 19%
ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าการกระจายความมั่งคั่งนั้น ห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
ความมั่งคั่งมักกระจุกตัวอยู่ในโซนที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ในตัวเลขนี้เรายังเห็นความหวังในความเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว ประเทศจีนครอบครองความมั่งคั่งไว้ราว 9% ของโลกเท่านั้น และใช้เวลาแค่ทศวรรษเดียวในการขยายความมั่งคั่งของประชากรได้มากถึง 2 เท่า ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนก็พุ่งสูงขึ้นจากราว 100,000 บาทต่อครัวเรือนในปี 2000 เป็นเกือบ 900,000 บาทต่อครัวเรือนในปี 2021 [1]
อันดับ 1 ปีนี้ Bernard Arnault และครอบครัว ครอบครองทรัพย์สินมากกว่า 6.6 ล้านล้านบาท
ผู้เป็นเจ้าของอาณาจักสินค้าซูเปอร์แบรนด์ทั้ง Christian Dior, Louis Vitton อาณาจักร LVMH ซึ่ง SPACEBAR ได้เล่า ความลับที่ทำให้ Bernard Arnault คือมหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งแล้วก่อนหน้านี้
อันดับ 2 Elon Musk นักธุรกิจและนักลงทุน ที่รู้จักกันในนามผู้นำแบรนด์รถ EV อย่าง Tesla เจ้าของ Twitter และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ OpenAI มีทรัพย์สินรวม 6.2 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 Jeff Bezos นักลงทุนและผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Amazon ครอบครองทรัพย์สิน 3.8 ล้านล้านบาท
ใครรู้ก็มาบอกด้วย ขอบคุณค่ะ
ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าการกระจายความมั่งคั่งนั้น ห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
ความมั่งคั่งมักกระจุกตัวอยู่ในโซนที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ในตัวเลขนี้เรายังเห็นความหวังในความเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว ประเทศจีนครอบครองความมั่งคั่งไว้ราว 9% ของโลกเท่านั้น และใช้เวลาแค่ทศวรรษเดียวในการขยายความมั่งคั่งของประชากรได้มากถึง 2 เท่า ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนก็พุ่งสูงขึ้นจากราว 100,000 บาทต่อครัวเรือนในปี 2000 เป็นเกือบ 900,000 บาทต่อครัวเรือนในปี 2021 [1]
ถ้าดูเป็นรายบุคคลเงินกองอยู่อยู่ที่ใคร
ในโลกเรามีเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่ราว 2,700 คน [2] แต่เราจะเน้นๆ คนที่มีมากที่สุดให้ดูที่อยู่ของเงินกัน Forbes รายงานบุคคลที่รวยที่สุดในโลกเงินไปกองอยู่ที่ 3 อันดับนี้ [3]อันดับ 1 ปีนี้ Bernard Arnault และครอบครัว ครอบครองทรัพย์สินมากกว่า 6.6 ล้านล้านบาท
ผู้เป็นเจ้าของอาณาจักสินค้าซูเปอร์แบรนด์ทั้ง Christian Dior, Louis Vitton อาณาจักร LVMH ซึ่ง SPACEBAR ได้เล่า ความลับที่ทำให้ Bernard Arnault คือมหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งแล้วก่อนหน้านี้
อันดับ 2 Elon Musk นักธุรกิจและนักลงทุน ที่รู้จักกันในนามผู้นำแบรนด์รถ EV อย่าง Tesla เจ้าของ Twitter และเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ OpenAI มีทรัพย์สินรวม 6.2 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 Jeff Bezos นักลงทุนและผู้ประกอบการชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Amazon ครอบครองทรัพย์สิน 3.8 ล้านล้านบาท
ทำอย่างไรให้เงินมากองที่ฉัน
ถ้าพูดแบบสวยๆ Warren Buffet และ Bill Gate มหาเศรษฐีอันดับ 5 และ 6 ของโลกปีนี้เคยพูดไว้ตรงกันว่า ถ้าถามถึงวิธีประสบความสำเร็จและร่ำรวยได้อย่างทุกวันนี้ ให้พูดแค่คำเดียววิธีนั้นคืออะไร ทั้ง 2 คนตอบตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายนั้นคือ ‘Focus’ หรือการตั้งใจพุ่งความสนใจไปที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างแน่วแน่ ยาวนาน และสม่ำเสมอมากพอ ฟังดูง่าย แต่ภายใต้คำว่า ‘Focus’ นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวความบากบั่นทุ่มเทอีกมหาศาล ที่มีแต่คนที่ลงมือทำและค้นหาเท่านั้นจะได้รู้ว่ามันคืออะไรใครรู้ก็มาบอกด้วย ขอบคุณค่ะ