อวสานคนทำคอนเทนต์ ถ้าคนเลิกแคร์ว่า ‘มนุษย์’ หรือ ‘เอไอ’ เป็นคนสร้างมันขึ้นมา

เวลาเสพ ‘คอนเทนต์’ ทุกวันนี้ คุณแคร์ไหมว่า คอนเทนต์นั้นใครเป็นคนสร้าง 

ใครที่ว่า เรากำลังหมายถึง ‘คน’ หรือ ‘เอไอ’ 

บทความ Audiences Don’t Care If AI Created Your Brand’s Content ตั้งข้อสังเกตได้น่าสนใจว่า คำตอบขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่คุณเสพ เป็นคอนเทนต์ประเภทไหน 

ถ้าคอนเทนต์นั้นสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญหรือคนมีชื่อเสียง (โดยเฉพาะบรรดาสื่อที่หากินกับยอดเอนเกจ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับคนมีชื่อเสียง) คน ‘อาจจะ’ สนใจ 

แต่ถ้าเป็นคอนเทนต์ดาดๆ ทั่วไป (เช่น ข่าว บทความ ฮาวทู ฯลฯ--ผู้เขียน) คนก็คงไม่สนใจ (หรือมานั่งคิด) หรอกว่า คนหรือเอไอเป็นคนสร้างมันขึ้นมา 

แอน จิน (Ann Gynn) ผู้เขียนบทความดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า ยิ่งคอนเทนต์นั้นเป็นคอนเทนต์ขายของหรือคอนเทนต์เชิงการตลาด (Content Marketing) ไม่มีใครมาใส่ใจหรอกว่า ใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา 

เพราะเป้าหมายการทำคอนเทนต์ประเภทนี้โฟกัสที่การจูงใจให้คนมาซื้อของ ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นมิตรกับระบบนิเวศบนโลกออนไลน์ (เช่น keywords, titles, meta descriptions ฯลฯ) ผ่านท่าทีการให้ข้อมูลหรือจูงใจด้วยความบันเทิง โดยหวังผลสูงสุดให้คนคลิ๊กซื้อของ 

ในทางกลับกัน การใช้ ‘เอไอ’ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตได้ด้วย (นายทุนย่อมอ้าแขนรับ ถ้ามันช่วยลดต้นทุนในการผลิต แต่ยังรักษาประสิทธิภาพการทำงานไว้ได้) 

ลองนึกภาพการผลิตคอนเทนต์สักชิ้น กว่าจะผลิตจนเสร็จ ต้องใช้คนอย่างน้อยถึง 3-4 คน ตั้งแต่คนเขียนต้นฉบับ บรรณาธิการตรวจต้นฉบับ พนักงานพิสูจน์อักษร กราฟิกดีไซเนอร์ ถ้าคุณอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตสื่อจะรู้ว่า ทุกวันนี้มีคอนเทนต์ครีเอเตอร์หนึ่งคนอาจ 'เหมา' งานเกือบทั้งหมด แน่นอน ไม่เฟอร์เฟกหรอก อย่างน้อยความเรียบร้อยของต้นฉบับก็น้อยลง มีคำถูกผิดหลุดมากกว่าในอดีต 

แต่ถ้า ‘เอไอ’ สามารถทำเกือบทั้งหมดนี้ได้ (ที่แน่ๆ มันพิสูจน์อักษรได้ค่อนข้างแม่นยำทีเดียว) และทำได้ค่อนข้างดี แรงงานมนุษย์อาจมีความจำเป็นน้อยลง
 

ข่าว Bild หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของเยอรมนีส่งอีเมลเลิกจ้างพนักงานกว่า 200 คน เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือเสียงกระซิบให้โลกรู้ว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว และมีแนวโน้มจะเกิดมากขึ้นในอนาคต 

“น่าเสียดายที่ต้องแยกทางกับเพื่อนร่วมงานหลายคน เพราะงานหลายอย่างในโลกดิจิทัล เอไอและระบบอัตโนมัติสามารถทำได้” -- ข้อความบางส่วนจากอีเมลที่ Bild ส่งถึงพนักงาน 

ใครที่ติดตามข่าวเกี่ยวกับเอไอ จะรู้ว่าในแวดวงคอนเทนต์มีการใช้เอไอในการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน มันเพิ่งเริ่มต้น ถ้านับวันที่ ChatGPT เปิดตัวยังไม่ถึงปีเลย (เปิดตัวเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2565) ยังมีจุดที่บกพร่องให้ตำหนิ แต่ขณะเดียวกัน มันก็พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และมีคนใช้มันมากขึ้นในทุกๆ วัน 

ไม่เชื่อ ลองดูสถิติเหล่านี้... 

รอบหนึ่งปีที่ผ่านมา คนมีแนวโน้มให้ความสนใจคอนเทนต์ที่สร้างโดยเอไอ (วัดจาก Google Trends) เพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด คอนเทนต์ที่พูดถึงก็มีทั้งคอนเทนต์ที่เป็นข้อความ ภาพ และเสียง 

ข้อมูลจาก Forbes Agency Council เมื่อกุมภาพันธ์ระบุว่า นักการตลาด 33% ใช้เอไอในการสร้างคอนเทนต์ ช่วยให้คนทำคอนเทนต์และครีเอทีฟทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าช่วยเพิ่มปริมาณงาน คิดไอเดีย หาข้อมูล และที่สำคัญประหยัดต้นทุน 

ข้อมูลจาก Statista เมื่อพฤษภาคมระบุว่า มีนักเขียนในสหรัฐฯ ถึง 23% ใช้เอไอในการทำงาน ในจำนวนนั้น... 

• 47% ใช้เอไอตรวจไวยากรณ์ 
• 29% ใช้เอไอช่วยในการร่วมกันคิดพล็อตเรื่องและบุคลิกตัวละคร 
• 26% ใช้เอไอช่วยวางแผนทำการตลาด 
• 14% ใช้เอไอวางโครงเรื่องและร่างดราฟ 
• 7% ใช้เอไอเขียนงานให้เลย 

ผลสำรวจโดย AuthorityHacker เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมเผยว่า นักการตลาดดิจิทัล 81.6% คิดว่าคนทำคอนเทนต์ (content writer) จะตกงานเพราะเอไอ ถ้าเอไอสร้างข้อเขียนได้เหมือนมนุษย์มากขึ้น (นอกจากสร้างได้เร็วกว่า มากกว่า และถูกกว่าแล้ว) 

สถิติเกี่ยวกับเอไอยังมีอีกมาก แต่โดยสรุปเอไอจะแย่งงานคนทำคอนเทนต์หรือไม่ มีความคิดเห็นเป็นสองแนวทาง หนึ่งเชื่อว่า ไม่เร็วก็ช้าจะเข้ามาแย่งงานแน่นอน อีกทางหนึ่งมองว่า เอไอจะเข้ามาเป็นบัดดี้ที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม 

ท่ามกลางพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่มีใครคาดเดาถึงผลลัพธ์ได้ แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ธรรมชาติสอนแล้วว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอด คือสิ่งมีชีวิตที่รู้จักปรับตัว 

ในโลกยุคใหม่ ความรู้หาง่าย สิ่งที่ต้องสร้างคือมายด์เซ็ตที่พร้อมทดลอง เรียนรู้ และปรับใช้ (test-learn-adapt mindset) อยู่ตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่ โจดี้ แฮริส (Jodi Harris) ผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์บอกว่า เป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่คนทำคอนเทนต์ต้องมี 

ทดลอง-เรียนรู้-ปรับใช้ คือคาถาที่ไม่ใช่แค่คนทำคอนเทนต์ แต่คนทุกอาชีพอาจต้องท่องไว้ในใจ 

ส่วนคนทำคอนเทนต์จะหมดอายุเมื่อไหร่ ถ้าถึงวันที่คนไม่สนใจว่าคอนเทนต์นั้นใครเป็นคนสร้าง วันนั้นน่าจะเป็นวันที่คนทำคอนเทนต์ (แบบเดิมๆ) ถึงคราวสิ้นอายุขัย expired