แม้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งคือ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะมีข่าวคราวความไม่สงบเป็นระยะ แต่รู้หรือไม่? ใน 3 จังหวัดนี้ มีศักยภาพที่พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมฮาลาล ที่ขณะนี้ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญสามารถสยายปีกสู่การเติบโตถึงภาคท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว
จุดนี้ก็ทำให้เราจึงได้เห็นการเข้ามาลงทุนของของผู้ประกอบการเป็นระยะ โดยปลายปี 2565 สมาคม ISEDAR, Malaysia ภายใต้ชื่อ ‘USADA ASEAN’ หรือคือ ต่างชาติ 10 ประเทศในอาเซียน แสดงเจตจำนงเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมฮาลาล ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังเชื่อมั่นและเห็นศักยภาพที่พร้อมต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าฮาลาล การท่องเที่ยวรูปแบบฮาลาล ด้านการแพทย์ฮาลาล สุขภาพฮาลาล
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ปัจจุบันใน 3 จังหวัดใต้ดังกล่าว จะยังไม่มีตัวเลขมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แน่ชัด แต่ก็ถือได้ว่า ท่องเที่ยวฮาลาลวันนี้และอนาคต เป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี หากเป็นปึกแผ่นเคลื่อนจนมีตัวเลขเติบโตโดดเด่น ก็ไม่ต่างอะไรกับการสร้างให้ไทยมีกำแพงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นจุดแข็งที่เยี่ยมยอดที่ปลายด้ามขวานไทย นั่นเอง
ฮาลาล และการลงทุน 3 จังหวัดชายแดนใต้
เมื่อพูดถึง ‘ฮาลาล’ ถ้าไม่ใช่ชาวมุสลิมแล้ว อาจนึกถึงเพียงแค่ ‘อาหาร’ แต่แท้ที่จริง ‘ฮาลาล’ ยังมีความยิ่งใหญ่ขึ้นสู่ระดับประเทศ เป็น ‘อุตสาหกรรมฮาลาล’ ที่สามารถผลิตและจำหน่ายสินค้าฮาลาลได้หลากหลาย อันเป็นการเกี่ยวข้องเชื่อมโยงวิถีชาวมุสลิมในหลายมิติ นำสู่การทำรายได้ที่ดีให้ประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ไม่ได้บริการเฉพาะมุสลิมไทย แต่ยังรวมถึงชาวมุสลิมทั่วโลกที่พร้อมจะมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยด้วยรัฐส่งเสริมลงทุน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ทั้งนี้ แม้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะได้ชื่อเป็นพื้นที่เสี่ยง ท่ามกลางศักยภาพสูง ดังนั้น หากผู้ประกอบการรายใด คิดต่อยอดประกอบธุรกิจในพื้นที่เหล่านี้ได้ ก็รับสิทธิประโยชน์ไปเต็มๆ จากมาตรการส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มียุทธศาสตร์ฮาลาบ มาตรการด้านการลงทุนต่างๆ ของ BOI และมาตรการด้านภาษีจุดนี้ก็ทำให้เราจึงได้เห็นการเข้ามาลงทุนของของผู้ประกอบการเป็นระยะ โดยปลายปี 2565 สมาคม ISEDAR, Malaysia ภายใต้ชื่อ ‘USADA ASEAN’ หรือคือ ต่างชาติ 10 ประเทศในอาเซียน แสดงเจตจำนงเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมฮาลาล ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังเชื่อมั่นและเห็นศักยภาพที่พร้อมต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าฮาลาล การท่องเที่ยวรูปแบบฮาลาล ด้านการแพทย์ฮาลาล สุขภาพฮาลาล
มองฮาลาลทั่วโลก แล้วไทยอยู่ตรงไหน?
แม้ว่าสินค้าฮาลาลไทย จะเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก มีภาพความแข็งแกร่ง ทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และรสชาติ โดยไทยส่งออกอาหารฮาลาล เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ซึ่งมีมูลค่าสินค้าของตลาดนี้ตัวเลขของทั่วโลกอยู่ที่ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเงินไทยก็ประมาณกว่า 71 ล้านล้านบาท) โดยส่งออกในกลุ่ม OIC (แถบประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม : Organisation of Islamic Cooperation) 57 ประเทศ มีตัวเลขกลมๆ ต่อปี อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณกว่า 142,000 ล้านบาท) ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงกล่าวได้ว่า นี่คือ ‘โอกาส’ โดยที่สินค้าที่ส่งออก 5 อันดับ ได้แก่- ธัญพืช
- ของปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์ ปลา สัตว์น้ำฯ
- น้ำตาลและขนมทำจากน้ำตาล
- ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง สตาร์ช หรือนม ผลิตภัณฑ์อาหารจำพวกพาย
- ของปรุงแต่งเบ็ดเตล็ด ที่บริโภคได้
3 จังหวัดชายแดนใต้ จุดแข็ง ‘เที่ยวฮาลาล’
นอกจากอาหารฮาลาลไทย อันเป็นที่ยอมรับแล้ว โลเกชันที่สวยงามท่ามกลางวิถีชีวิตมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยังเป็นอีกจุดเด่นสำคัญ นำสู่โปรเจกต์ ‘ท่องเที่ยวฮาลาลชายแดนใต้’ พร้อมยกจังหวัดปัตตานี ให้เป็นศูนย์กลางดำเนินการ เพื่อประชุมขับเคลื่อนธุรกิจ-การค้า-การท่องเที่ยวฮาลาล จังหวัดชายแดนใต้เป็นระยะต่อไปทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ปัจจุบันใน 3 จังหวัดใต้ดังกล่าว จะยังไม่มีตัวเลขมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แน่ชัด แต่ก็ถือได้ว่า ท่องเที่ยวฮาลาลวันนี้และอนาคต เป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี หากเป็นปึกแผ่นเคลื่อนจนมีตัวเลขเติบโตโดดเด่น ก็ไม่ต่างอะไรกับการสร้างให้ไทยมีกำแพงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นจุดแข็งที่เยี่ยมยอดที่ปลายด้ามขวานไทย นั่นเอง




