CEO Binance TH ชี้ คริปโทฯ ยังแกร่ง แม้เจอวิกฤตสงคราม–ดอกเบี้ยโลก ชูไทยขึ้นแท่นผู้นำ ‘Digital Asset Hub’

18 มิ.ย. 2568 - 07:52

  • ไทยทำประวัติศาสตร์โลก ประเทศแรกที่ยกเว้นภาษีกำไรคริปโทฯ 5 ปี พร้อมก้าวสู่ Digital Asset Hub

  • Bitcoin ยืนหยัดท่ามกลางวิกฤต ปรับลงเพียง 3-5% แม้เจอสงคราม คาดเคลื่อนไหวในกรอบ $100K-$110K อีก 2-3 เดือนข้างหน้า

  • แนะนำโฟกัส BTC-ETH ลดความเสี่ยง พร้อมโครงการภูเก็ต Sandbox สนับสนุนการใช้คริปโทฯ จริง

CEO Binance TH ชี้ คริปโทฯ ยังแกร่ง แม้เจอวิกฤตสงคราม–ดอกเบี้ยโลก ชูไทยขึ้นแท่นผู้นำ ‘Digital Asset Hub’

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล CEO บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Binance Thailand) มองสถานการณ์ตลาดคริปโตท่ามกลางความผันผวนระดับโลกว่า แม้จะเผชิญปัจจัยลบ ทั้งสงคราม อิสราเอล–อิหร่าน, ความไม่แน่นอนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), ไปจนถึงแรงกดดันทางการเมือง แต่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ บิทคอยน์ (Bitcoin) ยังคง “ยืนระยะ” ได้ดี พร้อมชูศักยภาพของไทยสู่การเป็น Digital Asset Hub ด้วยมาตรการยกเว้นภาษีคริปโต 5 ปี

บิตคอยน์ทรงตัวแม้เกิดความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

CEO Binance TH เผยว่า แม้ตลาดกังวลกับความเสี่ยงจากสงครามในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะหากเกิดความขัดแย้งโดยตรงระหว่าง อิสราเอลและอิหร่าน แต่ราคาบิทคอยน์กลับปรับฐานเพียงเล็กน้อย

“ถ้าเกิดสงครามเต็มรูปแบบ ตลาดหุ้นอาจร่วง 10% ส่วนบิทคอยน์อาจลงถึง 20% แต่รอบนี้บิตคอยน์แค่ปรับลงจาก $108,000 เหลือราว $104,000 หรือแค่ 3–5% เท่านั้น ถือว่า ‘แข็งแกร่ง’ มากในภาวะเช่นนี้”

CEO Binance TH คาดว่า BTC จะเคลื่อนไหวในกรอบ $100,000–$110,000 ช่วง 2–3 เดือนข้างหน้า พร้อมแนะให้นักลงทุนเน้น “สินทรัพย์หลัก” ที่มีเสถียรภาพสูง

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล CEO บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Binance Thailand)
นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล CEO บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Binance Thailand)

Fed คงดอกเบี้ย แต่แรงกดดันเริ่มสะสม

แม้ตลาดมั่นใจว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น แต่แรงกดดันจากการเมือง โดยเฉพาะจาก โดนัลด์ ทรัมป์ และนโยบายเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน อาจส่งผลต่อทิศทางในระยะถัดไป

“Fed ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะตัวเลขเงินเฟ้อช่วง 2 เดือนก่อนยังไม่แย่ และยังต้องดูนโยบายภาษีของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน ส่วนตัวเชื่อว่า Fed จะยังคงไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้”

GENIUS Act ดัน Stablecoin เข้าระบบการเงินโลก

อีกหนึ่งปัจจัยบวก คือ ร่างกฎหมาย GENIUS Act ของสหรัฐฯ ซึ่งจะวางกรอบกำกับดูแล Stablecoin เช่น USDC และ USDT อย่างเป็นระบบ

“นี่คือสัญญาณที่ดีมาก การที่สหรัฐฯ เริ่มวางกฎหมายชัดเจน จะทำให้นักลงทุนมั่นใจว่า Stablecoin จะถูกใช้งานในระบบการเงินจริงจังได้”

ขณะเดียวกัน ประเทศอื่นอย่าง ญี่ปุ่น ยังไม่อนุญาตให้ใช้ Stablecoin ในวงกว้าง แต่การเริ่มต้นจากสหรัฐฯ อาจเป็นโมเดลให้ทั่วโลกปรับตาม รวมถึง ประเทศไทยในอนาคต

Bitcoin Strategic Reserve เริ่มเกิดขึ้นในระดับรัฐ

แม้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยังไม่มีแผนถือ Bitcoin Strategic Reserve แต่รัฐต่าง ๆ อย่าง เท็กซัส กำลังผลักดันให้เก็บ Bitcoin ไว้ในทุนสำรองของรัฐ

“นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้บิทคอยน์ยังยืนระยะได้ แม้มีข่าวลบ เพราะเริ่มมี Demand จากภาคสถาบันและรัฐเข้ามาเพิ่มขึ้น”

JP Morgan รุกตลาดคริปโทฯ การแข่งขัน ไม่ใช่ปัญหา ถ้าโฟกัสถูกจุด

ในอีกด้านหนึ่ง แบงก์ยักษ์ใหญ่อย่าง JP Morgan และบริษัทจัดการสินทรัพย์อันดับ 1 ของโลกอย่าง BlackRock ต่างเปิดเกมรุกในตลาดคริปโทฯ แม้ CEO ของ JPM อย่าง Jamie Dimon จะยังไม่เชื่อในบิตคอยน์ก็ตาม

“คุณ Jamie Dimon อาจไม่ชอบบิทคอยน์ส่วนตัว แต่เขามองเห็นดีมานด์และโอกาสทางธุรกิจชัดเจน ตอนนี้ตลาด Traditional Finance อิ่มตัว นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่เติบโตได้ถือเป็นการส่งสัญญาณดีของตลาดคริปโทฯ ”

CEO Binance TH มองว่า ไม่ใช่ปัญหาของการแข่งขันในอุตสหกรรมนี้ เพราะตลาดใหญ่พอที่จะมีที่สำหรับทุกคน แต่เราต้องโฟกัสให้ถูกจุด ส่วนตัวเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ให้บริการเฉพาะ เพราะจะรู้ข้อมูลเชิงลึกกว่า และมองว่าแบงก์ยักษ์ใหญ่ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นการเสริมกันใน ecosystem เดียวกัน

ไทยยกเว้นภาษีกำไรคริปโทฯ 5 ปี - จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ส่งแรงกระเพื่อมในวงการคริปโทฯไทย คือ การยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Capital Gain Tax) ไปจนถึงปี 2572 ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ใช้มาตรการลักษณะนี้

“นี่คือจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมคริปโตของไทย” นิรันดร์กล่าว “หลายประเทศเช่น ดูไบ สิงคโปร์ ฮ่องกง กำลังแข่งกันเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ไทยไม่ควรพลาดโอกาสนี้ เรามีทั้งทรัพยากร สถานที่ และระบบที่พร้อมรองรับ หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพิ่มเติม ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ”

เส้นทางสู่ “Digital Asset Hub” ไทยยังมีโอกาส

แม้ยอมรับว่าไทยยังมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานเมื่อเทียบกับสิงคโปร์หรือฮ่องกง แต่เชื่อว่าด้วยแนวนโยบายที่ชัดเจน และมาตรการจูงใจจากภาครัฐ เช่น โครงการ “ภูเก็ต Sandbox” ที่จะให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายด้วยคริปโทฯ ได้จริง จะช่วยปูทางสู่การเป็น Digital Asset Hub ได้ในอนาคต

“เราเคยเห็นกรณีของดูไบที่ไม่มีอะไรเลยเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นฮับคริปโทฯ ระดับโลก เพราะรัฐบาลมีวิสัยทัศน์และเดินเกมเร็ว ไทยสามารถทำได้เช่นกัน”

แนะนำกลยุทธ์ลงทุน: โฟกัส BTC–ETH ลดความเสี่ยง

ท่ามกลางความผันผวนสูงจากสถานการณ์โลกและเศรษฐกิจ CEO Binance TH แนะนำให้นักลงทุนเน้นถือ Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เป็นหลัก

“บิตคอยน์กับอีเธอร์เรียมเป็นสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานแข็งแรงและความผันผวนต่ำกว่า Altcoin อื่น ๆ แต่ถ้าใครมองหาโอกาส อาจเลือก Altcoin ที่ราคาตกแรงแต่มีพื้นฐานดีได้ แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้เช่นกัน”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์