ใครว่ามนุษย์เกิดมาตัวเปล่าไม่ต้องการเงินหรอก เด็กเล็กๆ ไม่เข้าใจ ไม่รู้หรอกว่าใช้ของระดับไหนอยู่ ใช่ค่ะมันจะเริ่มมาจากไม่รู้ แต่เมื่อเด็กๆ เริ่มถูกแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ารองเท้ามีราคา หรือเด็กบางคนได้แต่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มันจะเริ่มทำให้เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าเบื่อมากที่มีคนซื้อเสื้อผ้ามาให้เยอะแยะ ในขณะที่เด็กอีกคนได้แต่ฝันถึงรองเท้าที่ไม่มีรูขาดสักคู่ และเสื้อผ้าต่างราคานี่เอง ที่ฉีกเด็กสองกลุ่มออกจากกัน
หนังสือ Talking to My Daughter เรียกสิ่งนี้ว่าความเหลื่อมล้ำ ที่เด็กรับรู้ได้ตั้งแต่เล็กๆ แล้ว เด็กหญิงในหนังสือยังยิงคำถามเรื่องนี้ไว้ว่า “พ่อคะ ทำไมมีความเหลื่อมล้ำมากขนาดนี้ มนุษยชาติโง่เขลาขนาดนี้เลยหรือคะ?”
พ่อในเรื่องเล่าว่า ‘เศรษฐกิจ’ คือ สาเหตุว่าทำไมบางคนยากจน ทำไมบางคนรวยล้นเหลือ และเป็นสาเหตุที่มนุษย์ผลาญทรัพยากรโลกด้วย
เศรษฐกิจ พูดแปลความง่ายๆ คือ การมีอะไรไปเสนอขาย ตลาด ถ้าจะย้อนคือยาวมาก แต่จะย่อสุดๆ ว่า เมื่อราว 12,000 ปีที่แล้วที่มนุษย์เริ่มเพาะปลูก จนกระทั้งสามารถมีผลผลิตส่วนเกิน เพื่อเอามาค้าขายได้ คนที่เป็นชนชั้นปกครอง หรือ อภิสิทธิ์ชน จะเป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึง และเก็บสะสมผลผลิตส่วนเกินได้ ทำให้พวกเขามีอำนาจทางเศรษฐกิจ ...คิดตามง่ายๆ ก็คือ มีเงินเยอะ รวยนั่นเอง พอรวยก็มีอำนาจทางการเมือง และพอมีอำนาจ ก็สามารถครอบครองผลผลิตส่วนเกินได้ เพิ่มขึ้นๆ ไปอีก มีอำนาจมากขึ้นๆ ไปอีก
คนรวยรวยขึ้นไม่ยาก เช่นถ้าคุณมีเงินในกระเป๋าแล้ว สิบยี่สิบล้าน จะหาเพิ่มสักล้านก็ง่ายๆ แต่ถ้าคุณกระเป๋าเปล่ามาเลย จะหาเงินสักหมื่น ก็ยังยาก
แล้วตอบคำถามของเด็กน้อย ว่ามนุษยชาติโง่เขลาขนาดนั้นหรือ? Yanis Varoufakis ก็ได้เขียนไว้ว่า “ตามข้อมูลในประวัติศาสตร์ ทุกรัฐที่เกิดมาจากสังคมเกษตรกรรม จะจัดสรรผลผลิตส่วนเกินด้วยความอยุติธรรมอย่างน่าขุ่นเคืองเสมอ”
สำหรับประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งรุนแรงมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยรายงาน KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทรรายงานว่า ทรัพย์สินมากกว่า 77% ในประเทศไทย ถือครองโดยคนรวยเพียง 10% ในประเทศเท่านั้น โดยกลุ่มคน 1% ที่รวยที่สุด มีความมั่งคั่งเฉลี่ย 33 ล้านบาทต่อคน มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มคนจนที่สุด 20% แรกถึง 2500 เท่า [1]
พ่อในเรื่องเล่าว่า ‘เศรษฐกิจ’ คือ สาเหตุว่าทำไมบางคนยากจน ทำไมบางคนรวยล้นเหลือ และเป็นสาเหตุที่มนุษย์ผลาญทรัพยากรโลกด้วย
เศรษฐกิจ พูดแปลความง่ายๆ คือ การมีอะไรไปเสนอขาย ตลาด ถ้าจะย้อนคือยาวมาก แต่จะย่อสุดๆ ว่า เมื่อราว 12,000 ปีที่แล้วที่มนุษย์เริ่มเพาะปลูก จนกระทั้งสามารถมีผลผลิตส่วนเกิน เพื่อเอามาค้าขายได้ คนที่เป็นชนชั้นปกครอง หรือ อภิสิทธิ์ชน จะเป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึง และเก็บสะสมผลผลิตส่วนเกินได้ ทำให้พวกเขามีอำนาจทางเศรษฐกิจ ...คิดตามง่ายๆ ก็คือ มีเงินเยอะ รวยนั่นเอง พอรวยก็มีอำนาจทางการเมือง และพอมีอำนาจ ก็สามารถครอบครองผลผลิตส่วนเกินได้ เพิ่มขึ้นๆ ไปอีก มีอำนาจมากขึ้นๆ ไปอีก
คนรวยรวยขึ้นไม่ยาก เช่นถ้าคุณมีเงินในกระเป๋าแล้ว สิบยี่สิบล้าน จะหาเพิ่มสักล้านก็ง่ายๆ แต่ถ้าคุณกระเป๋าเปล่ามาเลย จะหาเงินสักหมื่น ก็ยังยาก
แล้วตอบคำถามของเด็กน้อย ว่ามนุษยชาติโง่เขลาขนาดนั้นหรือ? Yanis Varoufakis ก็ได้เขียนไว้ว่า “ตามข้อมูลในประวัติศาสตร์ ทุกรัฐที่เกิดมาจากสังคมเกษตรกรรม จะจัดสรรผลผลิตส่วนเกินด้วยความอยุติธรรมอย่างน่าขุ่นเคืองเสมอ”
สำหรับประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งรุนแรงมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยรายงาน KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทรรายงานว่า ทรัพย์สินมากกว่า 77% ในประเทศไทย ถือครองโดยคนรวยเพียง 10% ในประเทศเท่านั้น โดยกลุ่มคน 1% ที่รวยที่สุด มีความมั่งคั่งเฉลี่ย 33 ล้านบาทต่อคน มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มคนจนที่สุด 20% แรกถึง 2500 เท่า [1]
