ศึกหยวน vs ดอลลาร์ดันราคาทองสูงสุดในประวัติการณ์

5 เม.ย. 2566 - 10:28

  • จีน-รัสเซียจับมือตีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

  • สถาบันการเงินประมาณการราคาทองคำเป็นขาขึ้น

  • เหตุผลสนับสนุนมูลค่าทองขาขึ้น

Business-Gold-newhigh-Yuan-Dollar-currencywar-SPACEBAR-Thumbnail
ศึกการเงินหยวน-ดอลลาร์สหรัฐ ดันราคาทองคำทำ high ใหม่ไม่หยุด ล่าสุดราคาในไทยวันที่ 5 เมษายน สูงถึง 32400 บาท หรือ เกือบ 2050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แล้ว 

การพุ่งขึ้นของราคาทองคำครั้งนี้อยู่ท่ามกลางสงครามการเงินที่ฝั่งจีน-รัสเซีย พยายามถล่มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจะดันเงินหยวนขึ้นมาเป็นสกุลเงินสำรองใหม่ของโลก แม้ว่าสัดส่วนการใช้เงินหยวนในโลกจะอยู่ที่ราวๆ 4% เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีสัดส่วนใช้ในโลกถึง 88% 

มีสถาบันการเงินหลายสำนักออกมาประมาณการณ์ราคาทองในระยะสั้น Citigroup บอกว่าราคาทองอาจจะขึ้นถึง 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/Oz Saxo Bank บอกว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/Oz หรือ บวก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาปัจจุบันภายในปีนี้ 

ทำไมขึ้นเยอะขนาดนั้น เพราะ 
  1. จีน-รัสเซียโจมตีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ได้ทำกันแค่ 2 ประเทศ ยังมี OPEC ล่าสุดลดการผลิตน้ำมันลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตรงนี้จะไปเพิ่มปัญหาเงินเฟ้อ แล้วยังมีแนวโน้มร่วมมือกับอินเดีย ถอนตัวออกจากกองทุน IMF  สร้างกองทุนใหม่ที่ไม่ใช้ดอลลาร์สหรัฐ
  2. ภาวะสงคราม และวิกฤตการเงิน จะทำให้ความต้องทองคำยิ่งสูงขึ้นๆ เพราะคนมองทองเป็น Safe Haven ที่รักษามูลค่าในตัวเองมาได้นานกว่า 5000 ปีแล้ว 
  3. เรื่องสำคัญจีน-รัสเซียจะหนุนระบบมาตรฐานทองคำขึ้นมาใหม่ คือ ให้ใช้ทองคำหนุนค่าเงินเต็มจำนวน ไม่ใช่แค่บางส่วนแบบปัจจุบัน ทำให้จีนซื้อทองคำไป 400 ตันเมื่อปีที่แล้ว รัสเซียเองก็มีรายงานซื้อทองจำนวนมากแต่ไม่เปิดเผยตัวเลขตั้งแต่ทำสงครามกับยูเครนและถ้ามีประเทศไหนเห็นด้วย รัฐบาลของประเทศนั้นก็ต้องซื้อทองคำเพิ่มเพื่อไปหนุนค่าเงิน  
  4. ก็มีความเป็นไปได้ว่าทั้งหมดจะดันราคาทองได้ แต่การลงทุนมีความเสี่ยง  
ตอนนี้ใครมีทองราคาขึ้นมาสูงขนาดนี้ก็ต้องวัดใจว่าจะกำไว้แน่นๆ หรือเทขายเอากำไรดี 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์