















‘นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ’ หรือ ‘Eternal Spring City’ คือ สมญานามที่ใช้อธิบายความงามของ ‘นครคุนหมิง’ เมืองเอกของมณฑลยูนนาน (อวิ๋นหนาน) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและมวลบุปผา โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ด้วยภูมิศาสตร์นี้เองที่ทำให้นครคุนหมิง เป็นเมืองที่มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ฤดูหนาวไม่หนาวจัด และฤดูร้อนไม่ร้อนมาก อุณหภูมิเฉลี่ย 15 -18 องศาเซลเซียส ทำให้นครคุนหมิงสามารถผลิตดอกไม้ออกสู่ตลาดโลกได้ตลอดทั้งปี
‘นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ’ จุดเริ่มต้น ‘ตลาดดอกไม้สด’ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ ตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่เดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรยากจน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกผักและดอกไม้ แต่ในช่วงระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมา หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมดอกไม้นานาชาติโต่วหนานคุนหมิง ที่มีขนาดใหญ่ถึง 425 ไร่ โดยดอกไม้ส่วนใหญ่มาจากมณฑลยูนนาน และบางส่วนมาจากมณฑลใกล้เคียงและประเทศรอบข้าง เช่น ประเทศไทย ประเทศไต้หวัน ประเทศเวียดนาม และประเทศแถบแอฟริกา มีมูลค่าการซื้อขายหลายหมื่นล้านหยวนต่อปี และส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ ยังเป็นตลาดดอกไม้ระดับชาติเพียงแห่งเดียวของจีนด้วย
มาดูพื้นที่ภายในของ ‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ กันบ้าง นอกจากจำหน่ายดอกไม้สดตัดดอกแล้ว ยังมีพื้นที่จำหน่ายต้นไม้นานาชนิด เช่น ไม้อวบน้ำ (Succulent) อุปกรณ์ปลูกดอกไม้ วัสดุตกแต่งดอกไม้ เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ และผลิตภัณฑ์ดอกไม้แปรรูป ที่มีทั้งรูปอาหารการกิน และเครื่องประดับต่างๆ ทำให้ตลาดแห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ซื้อขายดอกไม้และสินค้าที่เกี่ยวข้อง แต่ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็คอินแห่งใหม่ของนครคุนหมิง
อีกไฮไลท์ของที่นี่ คือ ‘ศูนย์ประมูลดอกไม้นานาชาตินครคุนหมิง’ หรือ ‘Kunming International Flora Auction Trading Center : KIFA’ ศูนย์ประมูลดอกไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตลาดประมูลดอกไม้ Aalsmeer ของประเทศเนเธอร์แลนด์
โดยช่วงเช้าของแต่ละวัน เกษตรกรและผู้ค้าจะนำดอกไม้สดตัดดอกที่คัดเลือกคุณภาพและแบ่งบรรจุเรียบร้อยแล้วทยอยส่งเข้ามายังศูนย์ประมูล เพื่อรอการประมูล โดยระหว่างนี้ผู้เข้าประมูลสามารถตรวจสอบคุณภาพของดอกไม้ แต่ละล็อตก่อนเริ่มการประมูลได้ ทำให้ผู้เข้าประมูลสามารถตัดสินใจเลือกดอกไม้ล็อตที่ตัวเองต้องการได้ง่ายขึ้น เมื่อเล็งล็อตที่ตัวเองต้องการได้แล้ว ผู้เข้าประมูลจะจดหมายเลขประจำตัวดอกไม้ล็อตนั้นไว้ในกระดาษ เพื่อเตรียมประมูลในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. โดยการประมูลจะมีแค่วันละครั้ง และผู้เข้าประมูลจะต้องเป็นสมาชิกก่อนถึงจะมีสิทธิร่วมประมูล
เมื่อใกล้ถึงเวลาประมูล ผู้เข้าประมูลจะเข้ามาจับจองที่นั่ง ที่จำกัดแค่ 306 ที่นั่งเท่านั้น โดยบนโต๊ะที่นั่งจะมีเครื่องประมูลอัตโนมัติวางอยู่ 1 เครื่อง เมื่อเสียงสัญญาณเปิดตลาดประมูลดังขึ้น ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ จำนวน 5 จอ โดยแต่ละจอจะแสดงข้อมูลและราคาของดอกไม้แต่ละชนิดอย่างต่อเนื่อง และแต่ละล็อตจะมีเวลาให้ผู้ประมูลตัดสินใจและเคาะราคาแย่งซื้อดอกไม้ล็อตที่เล็งไว้ เพียง 4 วินาทีเท่านั้น ซึ่งการประมูลแต่ละครั้งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้วจะมีดอกไม้ถูกประมูล 2-3 ล้านดอกต่อวัน
หลังจากประมูลเสร็จแล้ว ดอกไม้ทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการจัดส่งไปยังผู้บริโภคทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศ ผ่านการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อรักษาความสดใหม่ของดอกไม้ให้คงความสวยงามไว้เหมือนเดิม
สำหรับระบบการประมูลของ KIFA จะใช้เทคโนโลยีการจัดการเดียวกันกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ระบบการประมูลทันสมัย ครบวงจร และมีมาตรฐานสากล แต่ของระบบของจีนจะมีจุดต่างตรงที่มีรูปดอกไม้ที่ซื้อขายจริงโชว์ให้ผู้เข้าประมูลได้เห็นด้วย ขณะที่ระบบของเนเธอร์แลนด์ มีเพียงรูปมาตรฐานที่โชว์ให้ผู้เข้าประมูลเห็นเท่านั้น
ส่วนใครที่สนใจอยากนำเข้าดอกไม้จากจีนหรือจากต่างประเทศเอง ต้องทำหนังสือขออนุญาตนำเข้าต้นไม้หรือไม้ประดับกับกรมศุลกากรให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย หรือหากใครสนใจสั่งต้นไม้จากเว็บไซต์ของจีน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องศึกษากฎหมาย ข้อมูลของดอกไม้ให้ดี และต้องดูว่าเป็นไม้ห้ามนำเข้าหรือไม่
‘นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ’ จุดเริ่มต้น ‘ตลาดดอกไม้สด’ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ ตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่เดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรยากจน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกผักและดอกไม้ แต่ในช่วงระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมา หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมดอกไม้นานาชาติโต่วหนานคุนหมิง ที่มีขนาดใหญ่ถึง 425 ไร่ โดยดอกไม้ส่วนใหญ่มาจากมณฑลยูนนาน และบางส่วนมาจากมณฑลใกล้เคียงและประเทศรอบข้าง เช่น ประเทศไทย ประเทศไต้หวัน ประเทศเวียดนาม และประเทศแถบแอฟริกา มีมูลค่าการซื้อขายหลายหมื่นล้านหยวนต่อปี และส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ ยังเป็นตลาดดอกไม้ระดับชาติเพียงแห่งเดียวของจีนด้วย
มาดูพื้นที่ภายในของ ‘ตลาดดอกไม้โต่วหนาน’ กันบ้าง นอกจากจำหน่ายดอกไม้สดตัดดอกแล้ว ยังมีพื้นที่จำหน่ายต้นไม้นานาชนิด เช่น ไม้อวบน้ำ (Succulent) อุปกรณ์ปลูกดอกไม้ วัสดุตกแต่งดอกไม้ เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ และผลิตภัณฑ์ดอกไม้แปรรูป ที่มีทั้งรูปอาหารการกิน และเครื่องประดับต่างๆ ทำให้ตลาดแห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ซื้อขายดอกไม้และสินค้าที่เกี่ยวข้อง แต่ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็คอินแห่งใหม่ของนครคุนหมิง
อีกไฮไลท์ของที่นี่ คือ ‘ศูนย์ประมูลดอกไม้นานาชาตินครคุนหมิง’ หรือ ‘Kunming International Flora Auction Trading Center : KIFA’ ศูนย์ประมูลดอกไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตลาดประมูลดอกไม้ Aalsmeer ของประเทศเนเธอร์แลนด์
โดยช่วงเช้าของแต่ละวัน เกษตรกรและผู้ค้าจะนำดอกไม้สดตัดดอกที่คัดเลือกคุณภาพและแบ่งบรรจุเรียบร้อยแล้วทยอยส่งเข้ามายังศูนย์ประมูล เพื่อรอการประมูล โดยระหว่างนี้ผู้เข้าประมูลสามารถตรวจสอบคุณภาพของดอกไม้ แต่ละล็อตก่อนเริ่มการประมูลได้ ทำให้ผู้เข้าประมูลสามารถตัดสินใจเลือกดอกไม้ล็อตที่ตัวเองต้องการได้ง่ายขึ้น เมื่อเล็งล็อตที่ตัวเองต้องการได้แล้ว ผู้เข้าประมูลจะจดหมายเลขประจำตัวดอกไม้ล็อตนั้นไว้ในกระดาษ เพื่อเตรียมประมูลในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. โดยการประมูลจะมีแค่วันละครั้ง และผู้เข้าประมูลจะต้องเป็นสมาชิกก่อนถึงจะมีสิทธิร่วมประมูล
เมื่อใกล้ถึงเวลาประมูล ผู้เข้าประมูลจะเข้ามาจับจองที่นั่ง ที่จำกัดแค่ 306 ที่นั่งเท่านั้น โดยบนโต๊ะที่นั่งจะมีเครื่องประมูลอัตโนมัติวางอยู่ 1 เครื่อง เมื่อเสียงสัญญาณเปิดตลาดประมูลดังขึ้น ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ จำนวน 5 จอ โดยแต่ละจอจะแสดงข้อมูลและราคาของดอกไม้แต่ละชนิดอย่างต่อเนื่อง และแต่ละล็อตจะมีเวลาให้ผู้ประมูลตัดสินใจและเคาะราคาแย่งซื้อดอกไม้ล็อตที่เล็งไว้ เพียง 4 วินาทีเท่านั้น ซึ่งการประมูลแต่ละครั้งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้วจะมีดอกไม้ถูกประมูล 2-3 ล้านดอกต่อวัน
หลังจากประมูลเสร็จแล้ว ดอกไม้ทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการจัดส่งไปยังผู้บริโภคทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศ ผ่านการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อรักษาความสดใหม่ของดอกไม้ให้คงความสวยงามไว้เหมือนเดิม
สำหรับระบบการประมูลของ KIFA จะใช้เทคโนโลยีการจัดการเดียวกันกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ระบบการประมูลทันสมัย ครบวงจร และมีมาตรฐานสากล แต่ของระบบของจีนจะมีจุดต่างตรงที่มีรูปดอกไม้ที่ซื้อขายจริงโชว์ให้ผู้เข้าประมูลได้เห็นด้วย ขณะที่ระบบของเนเธอร์แลนด์ มีเพียงรูปมาตรฐานที่โชว์ให้ผู้เข้าประมูลเห็นเท่านั้น
ส่วนใครที่สนใจอยากนำเข้าดอกไม้จากจีนหรือจากต่างประเทศเอง ต้องทำหนังสือขออนุญาตนำเข้าต้นไม้หรือไม้ประดับกับกรมศุลกากรให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย หรือหากใครสนใจสั่งต้นไม้จากเว็บไซต์ของจีน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องศึกษากฎหมาย ข้อมูลของดอกไม้ให้ดี และต้องดูว่าเป็นไม้ห้ามนำเข้าหรือไม่