กรมพัฒน์-สมาคมธนาคารไทย เข้มแก้ ‘บัญชีม้านิติบุคคล’

7 มี.ค. 2568 - 04:12

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถกสมาคมธนาคารไทย หาแนวทางการป้องกัน-แก้ไขปัญหา ‘บัญชีม้านิติบุคคล’

  • วางแนวทางช่วยเข้าถึงแหล่งเงินทุน ใช้ทรัพย์สินทางปัญญา มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ

  • หวังสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักลงทุน

dbd_thai_bankers_association_fake_corporate_accounts_SPACEBAR_Hero_cf1ec4feb2.jpg

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผย ได้พบกับ นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการแก้ปัญหามิจฉาชีพใช้บัญชีม้านิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งครอบคลุม 4 ประเด็นสำคัญ คือ 

1) การเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับสมาคมธนาคารไทย โดยเฉพาะข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ที่ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบนิติบุคคลที่มีผู้ก่อการหรือกรรมการอยู่ในบัญชีรายชื่อ HR–03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชน โดยเมื่อกรมฯ ตรวจสอบพบและส่งกลับไปให้ศูนย์ AOC แล้ว เมื่อธนาคารทราบจากการเชื่อมโยงข้อมูลจะได้ไปดำเนินการต่อ เพื่อระงับการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว 

2) กรมฯ อยู่ระหว่างพัฒนา “ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล” หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ ติดตามพฤติกรรมของนิติบุคคลว่ามีแนวโน้มจะกระทำความผิดหรือไม่ โดยเน้นนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี ซึ่งสมาคมธนาคารไทยสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบนี้ให้มีประสิทธิภาพต่อไป

3) กรมฯ มีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการออนไลน์มาขึ้นทะเบียนกับกรมฯ เพื่อขอใช้ตราสัญลักษณ์ DBD Registered ในการดำเนินธุรกิจ โดยเครื่องหมายนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ว่า ผู้ประกอบการออนไลน์เหล่านี้มีตัวตน สามารถติดตามตรวจสอบได้ เนื่องจากผู้ประกอบการที่จะได้ตราเครื่องหมายนี้ต้องเป็นนิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนพาณิชย์ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยประสงค์จะเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการออนไลน์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ DBD Registered กับกรมฯ เพื่อเกิดความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมและร่วมกันแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น

4) การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างความเข้าใจ และเสริมความรู้กับธนาคารเรื่องการนำทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ (IP Finance) เนื่องจากนับตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 มีการรับให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหลักประกันเป็นสัดส่วนเพียง 0.07% จากมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 19.33 ล้านล้านบาท ที่สถาบันการเงินรับเป็นหลักประกัน

dbd_thai_bankers_association_fake_corporate_accounts_SPACEBAR_Photo01_b91ff32d68.jpg

ทั้งนี้ ประเภททรัพย์ที่สถาบันการเงินรับเป็นหลักประกันส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปสิทธิเรียกร้อง เช่นบัญชีเงินฝาก สัญญาซื้อขาย และอยู่ในรูปสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ เป็นต้น โดยกรมฯ เตรียมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกมาให้ความรู้แก่สถาบันการเงินที่สนใจ เพื่อสร้างความมั่นใจในการรับทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ รวมถึงเฟ้นหา SME ที่มีศักยภาพทางด้านทรัพย์สินทางปัญญามาเพื่อให้สถาบันการเงินพิจารณาเรื่องการรับเป็นหลักประกัน ซึ่งหากความร่วมมือนี้เกิดผลเป็นรูปธรรมจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้เป็นหลักประกันในการขอเงินทุนจากสถาบันการเงินมากขึ้น

อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ยังได้แจ้งให้สมาคมธนาคารไทยทราบว่า ปัจจุบัน กรมฯ มีการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานพันธมิตร เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ปปง. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาและปราบปรามมิจฉาชีพบัญชีม้านิติบุคคลหลอกลวงประชาชน ซึ่งสมาคมธนาคารไทยก็พร้อมจะทำงานร่วมกับกรมฯ และหน่วยงานพันธมิตร เพื่อจับมือกันแก้ปัญหาภัยจากมิจฉาชีพดังกล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์