คลังเก็บรายได้ครึ่งแรกปีงบ 68 ทะลุกว่า 1.2 ล้านล้าน

5 พ.ค. 2568 - 08:43

  • สูงกว่าประมาณการ 1.8 พันล้านบาท

  • รัฐบาลมั่นใจ บริหารการเงิน-การคลังให้มั่นคง

  • ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกยังคงเป็นไปตามที่ประเมินไว้

economic-business-thai-revenue-repository-SPACEBAR-Hero.jpg

ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่าผลการจัดเก็บรายได้ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568) จากกระทรวงการคลังสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิรวม 1,195,662 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,807 ล้านบาท หรือ 0.2% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26,503 ล้านบาท หรือ 2.3% 

ส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศ และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ อย่างไรตาม รายได้จากภาษีรถยนต์ยังคงต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้อัตราภาษีเฉลี่ยลดลงตามโครงสร้างภาษีใหม่
สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 สามารถจัดเก็บรวมทั้งสิ้น 1,288,536 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 38,263 ล้านบาท หรือ 3.1% โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • กรมสรรพากรจัดเก็บได้ 966,200 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 36,212 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,157 ล้านบาท หรือ 1.1%
  • กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ 264,971 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,160 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 21,321 ล้านบาท หรือ 7.4%
  • กรมศุลกากรจัดเก็บได้ 57,365 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 2,109 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 4,235 ล้านบาท หรือ 6.9%

ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า แม้ว่ารายได้จากบางแหล่งจะต่ำกว่าประมาณการ แต่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกยังคงเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังประเมินไว้ โดยจะมีการติดตามและบริหารการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและสนับสนุนความมั่นคงทางการคลังของประเทศ

สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 1,189,432 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 25,558 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.2) โดยหน่วยงานที่นำส่งรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เป็นหลัก ได้แก่ (1) กรมสรรพากร จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และ (2) ส่วนราชการอื่น จากการนำส่งเงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล เป็นหลัก

ทั้งนี้ รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,114,054 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 543,144 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 34.6) ซึ่งเป็นผลจากมาตรการเร่งรัด การเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2568 ประกอบกับในปี 2567 มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ล่าช้าไปเกือบ 7 เดือน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์