ไกด์เถื่อนจีน-เมียนมา ไกด์ไทยถูกแย่งงานหวั่นผลเสียระยะยาว

26 ส.ค. 2567 - 03:09

  • หวั่นไกด์เถื่อนต่างชาติแย่งงานคนไทย วอนภาครัฐทำงานแบบบูรณาการเร่งแก้ปัญหา

  • สมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพฯห่วงไกด์เถื่อนเมียนมาเพิ่ม เหตุสงครามในประเทศเมียนมายังไม่สงบ

  • ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ยันทำงานเต็มที่แม้การจับไกด์เถื่อนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เร่งประชุมหาแนวทางป้องกัน

economic_business_tourist_police_guide_SPACEBAR_Hero_91db1a9c40.jpg

หากพูดถึงอาชีพมัคคุเทศก์หรืออาชีพไกด์ ถือเป็นอีกหนึ่งในอาชีพสงวนของคนไทย แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีปัญหาไกด์เถื่อนชาวต่างชาติเข้ามาแย่งงานคนไทยอยู่ บวกกับการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผู้ที่ประกอบอาชีพไกด์ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งในพื้นที่พบปัญหานี้

ทีมข่าว Spacebar Big City ได้พูดคุยสะท้อนปัญหากับ ‘สีหเดช เจียเจษฎา’ รองประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย(ภาคเหนือ) ให้ข้อมูลว่า ปัญหาไกด์เถื่อนที่เข้ามาแย่งงานคนไทยและทำการนำเที่ยวแบบผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่อื่น ๆ ในภาคเหนือ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประกอบอาชีพไกด์ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย

โดยไกด์เถื่อนที่พบว่ามีจำนวนมากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ก็คือ ไกด์เถื่อนชาวจีน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังคงมีจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศไทย

“จังหวัดเชียงใหม่พบไกด์เถื่อนเมียนมาเพิ่มมากขึ้น สาเหตุมาจากปัญหาการเมืองและสงครามภายในประเทศ ทำให้คนเมียนมาที่มีฐานะ มีเงิน อพยพหนีสงครามมาอาศัยที่ไทย และระหว่างนี้ก็ได้เดินทางท่องเที่ยวไปด้วย แต่บริษัททัวร์ของคนไทยยังไม่มีช่องทางประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวเมียนมากลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อสูง”

economic_business_tourist_police_guide_SPACEBAR_Photo01_d71cd0699e.jpg
สีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย(ภาคเหนือ)

“เมื่อบริษัททัวร์ของคนไทยไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาได้ ไกด์ไทยก็ไม่ได้งาน การที่นักท่องเที่ยวเมียนมาเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รายได้จึงตกไปอยู่กับไกด์เถื่อนชาวเมียนมาแทน”

สีหเดช กล่าวอีกว่า ไกด์ชาวไทยที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ หรือภาษาเมียนมาได้ควรจะมีงานทำจากการที่คนเมียนมาเที่ยวที่เชียงใหม่ แต่ก็ถูกไกด์เถื่อนชาวเมียนมาแย่งงาน แย่งอาชีพไปอีก เพราะไกด์เถื่อน มีช่องทางที่เข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาได้ดีกว่าผู้ประกอบการคนไทย

“ที่ผ่านมาปัญหานี้ยังไม่รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากไม่ได้มีการบูรณาการการทำงานจากหลายฝ่าย ซึ่รัฐบาลจะต้องมีมาตรการ ให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน หากปล่อยไว้ต่างชาติทั้งหลาย ก็จะกลายเป็นผู้นำเที่ยวเป็นผู้ประกอบการมีรายได้ และไม่ต้องเสียภาษี ส่งผลให้ผู้ประกอบการบริษัททัวร์ไทย ล้มหายตายจาก และท้ายที่สุดไกด์ไทยหลายหมื่นชีวิตก็จะไม่ได้งาน ก็เป็นสิ่งที่กังวลใจมาก”

จากสถิติการจับกุมไกด์เถื่อน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่การทำงานก็ค่อนข้างยากลำบาก เพราะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ หรือมีการพบเห็นการกระทำผิดซึ่งหน้า ทั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย

พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตสถานีท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการท่องเที่ยว 2 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับไกด์เถื่อนชาวจีนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีการจับกุมไกด์เถื่อนอยู่ตลอด ซึ่งมีสถิติเฉลี่ยเดือนละ 6-10 เคส

“ในส่วนของไกด์เถื่อนชาวเมียนมา แม้ว่าตอนนี้จะยังพบไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่เข้าสู่ช่วงไฮซีซันของเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม หากอยู่ในช่วงนี้การจับกุมจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เคสต่อเดือน เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจะอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งในตอนนี้ได้เพิ่มจำนวนกล้องวงจรปิดเข้ามาช่วยสอดส่องผู้ที่ไม่หวังดี และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน”

economic_business_tourist_police_guide_SPACEBAR_Photo02_8ebf190cdc.jpg
พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สารวัตสถานีท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการท่องเที่ยว 2 เชียงใหม่

และเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการประชุมระหว่างตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่,นายทะเบียน,ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ภาคเหนือ,นิติกรสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว ,มัคคุเทศก์ภาคเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันเสนอแนวทางการดูแลไม่ให้ชาวต่างชาติมาประกอบอาชีพไกด์เถื่อน ทัวร์เถื่อนในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ เพื่อปกป้องอาชีพไกด์และผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวให้กับคนไทยเท่านั้น

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2567) พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวเมียนมา เดินทางเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2567 รวมกว่า 274,927 คน แบ่งเป็นมกราคม 35,742 คน /กุมภาพันธ์ 39,616 คน /มีนาคม 51,358 คน /เมษายน 56,698 คน /พฤษภาคม 47,830 คน /มิถุนายน 43,701 คน

economic_business_tourist_police_guide_SPACEBAR_Photo03_66cb34b15b.jpg

ทั้งนี้ ตำรวจได้ขอความร่วมมือกับประชาชน หากใครพบเจอไกด์เถื่อน ทัวร์เถื่อน สามารถส่งข้อมูลมายังตำรวจท่องเที่ยวได้ โดยมีหลักการณ์ดังนี้

  1. เก็บภาพเคลื่อนไหว(VDO)บรรยายในขณะนั้น และควรให้มี 2 คลิป ขึ้นไป เช่น ดอยสุเทพเจอบรรยายตอนลงรถอัด 1 คลิป ขึ้นไปบนพระธาตุมีบรรยายอีกก็อัดอีก 1 คลิป เพื่อแสดงเจตนาว่าตั้งใจนำเที่ยวจริง
  2. ภาพทะเบียนรถที่ใช้บริการ ซึ่งสำคัญเนื่องจากจะใช้ในการสืบสวนและติดตาม หากเป็นไกด์เถื่อน ทัวร์เถื่อนจริง
  3. สรุปเบื้องต้นว่าพูดว่าอะไรบ้าง เพราะบางทีพูดภาษาอื่น เจ้าหน้าที่ดูอาจไม่เข้าใจ
economic_business_tourist_police_guide_SPACEBAR_Photo04_d5d9342916.jpg

ทั้งนี้หากข้อมูลไม่ครบอาจดำเนินการตามกฏหมายได้ค่อนข้างยาก ซึ่งภาคประชาชนเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยกันปกป้องไม่ให้ต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย

โดยสามารถส่งข้อมูลมาที่ id line : [https://line.me/ti/p/Fjh7B8wB9P](https://line.me/ti/p/Fjh7B8wB9P )

หรือส่งข้อมูลอีกช่องทางได้ที่ id line : https://line.me/ti/p/NLffruLnGi

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์