คนที่ไม่ได้สิทธิโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลให้สิทธิ e-Refund ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท หวังดึงกำลังซื้อคนรวย กระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับโครงการ e-Refund ให้คนไทยสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคล จากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้ใบกำกับภาษี มาประกอบการยื่นภาษีบุคคล และรัฐจะคืนเงินภาษี ซึ่งประชาชนต้องจับจ่ายสินค้าและบริการรวมมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท จากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และเฉพาะที่ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบ electronics เท่านั้น มุ่งไปสู่การเป็น e-Government ในอนาคต
เป็นโครงการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า มอบสิทธิประโยชน์นี้ให้กับคนที่ไม่ได้รับสิทธิดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการนี้ได้ และจะทำให้ร้านค้าเข้าระบบภาษีดิจิทัลมากขึ้นด้วย โดยโครงการ e-Refund จะเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.67 เป็นต้นไป
ทีมข่าว SPACEBAR ตรวจสอบในอดีตพบว่าที่ผ่านมา การกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนด้วยการบังคับใช้ใช้จ่ายกับร้านที่ใบกำกับภาษีในรูปแบบ electronics หรือ E-Tax invoice รัฐบาลเคยออกมาตรการนี้ในเงื่อนไขของ ‘ช้อปดีมีคืน 2566’ เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่ 1 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อรับค่าลดหย่อนสูงสุด 40,000 บาท
นักวิชาการอาวุโสทีดีอาร์ไอ มอง e-Refund มีแนวโน้ม เอื้อประโยชน์คนรวย มากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า การที่รัฐบาลมอบสิทธิประโยชน์ e-Refund ให้กับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจจะมีเหตุผลในเชิงนโยบายว่า จะมีคนจำนวนหนึ่งที่จะออกมาแสดงความเห็นไม่พอใจ ที่ไม่ได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท รัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องออกนโยบาย e-Refund ออกมา
ซึ่งในมุมมองของ ดร.นณริฏ ยังระบุว่า เงื่อนไขของนโยบายที่ออกมาส่วนตัวมองว่าแย่ลง เพราะ e-Refund ก็มีความคล้ายคลึงกับโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ของรัฐบาลสมัยที่ผ่านมา ซึ่งในอดีตพิสูจน์ได้ว่า e-Refund คุณค่าในเชิงเศรษฐกิจต่ำมาก
ประกอบกับการให้กลุ่มคนที่มีรายได้สูงสามารถลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นได้ 50,000 บาท เมื่อพิจารณาในการปฏิบัติจะพบว่า คนที่มีฐานะ มีรายจ่ายมากกว่า 50,000 บาทอยู่แล้ว ดังนั้น กลุ่มคนรวยก็ใช้จ่ายตามปกติ และขอใบกำกับภาษีในรูปแบบ electronics หรือ E-Tax invoice เพื่อมาใช้ในการลดหย่อนภาษี ไม่ได้ส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยการให้สิทธิประโยชน์ e-Refund ให้กับกลุ่มคนที่มีรายได้ 70,000 ต่อเดือนขึ้นไป ยังถือว่ามีแนวโน้ม เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยอีกด้วย
พูดได้ว่า นโยบายเงินดิจิทัลที่ออกมาไม่ดี มีแนวโน้ม เอื้อประโยชน์ต่อคนรวย ยิ่งรวย ยิ่งได้รับผลประโยชน์
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส ทีดีอาร์ไอ
นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ย้ำว่า การใช้กลไล e-Refund สิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้กับกลุ่มคนมีฐานะ ในทางเศรษฐศาสตร์เม็ดเงินที่จะถูกใช้ในนโยบายนี้เป็นเงินของประชาชนที่จับจ่ายอยู่แล้ว ไม่ได้เม็ดเงินก้อนใหม่ รวมถึงคนที่มีรายได้สูง ฐานภาษีบุคคลเงินได้ธรรมดาสูง ยิ่งได้เงินคืนสูงสุดถึง 30 %
ข่าวที่น่าสนใจ
Photo Story: ‘เศรษฐา’ คืนชีพแอปฯ ‘เป๋าตัง’ แจก ‘เงินดิจิทัล’ ออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน
