การขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม ออกจาก 3 จังหวัด คือ สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพฯ ที่ถูกย้ายเข้ามาก่อนหน้า เป็นเรื่องน่าจับตา โดยจากการเป็นแร่โลหะพิษอันตรายกับสุขภาพ ที่มีความเสี่ยงฟุ้งกระจาย ปนเปื้อนได้ทั้งในน้ำและอากาศ จึงต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ-รัดกุม
ในการขนย้ายกลับไปฝังกลบ ณ จุดเดิม ที่โรงงาน บมจ.เบาด์แอนด์บียอนด์ จังหวัดตาก ซึ่งขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตฯ ‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’ ประกาศดีเดย์วันขนย้าย เป็นพรุ่งนี้ (29 เมษายน 2567) เป็นเที่ยวแรก ยังถึงกับประกาศ ลงพื้นที่คุมหน้างาน ณ บริษัทเจแอนด์บี เมททอล ด้วยตนเอง เพราะต้องการเห็นกับตาว่า การขนย้ายเป็นไปอย่างปลอดภัย ได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง
(ขบวนในเที่ยวแรก เป็นการขนทั้งกากแคดเมียมจากสมุทรสาคร และกรุงเทพ จะออกจากจุดนัดหมายพร้อมกันในเวลา 19.00 น. นำโดยตำรวจทางหลวง และคาดว่าจะถึงจุดหมายปลายทางจังหวัดตาก ช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 เมษายน)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในวันนี้ช่วงบ่าย (13.00 น.) ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม จึงนัดหมายจัดประชุมเตรียมการขนย้าย และการจำลองสถานการณ์การย้ายเสมือนจริง พร้อมแจง ‘แผนขนย้ายฯ’ อย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่วันเริ่มต้น จนถึงวันสิ้นสุด และรวมถึงการดำเนินการในระยะต่อไป ซึ่งจะมีผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมด้วย
หลังจากนั้น ในช่วงเวลา 14.30 น. จะร่วมซักซ้อม ทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้อง ในการเตรียมการขนย้าย และการสุ่มตรวจตัวอย่างกากตะกอนแคดเมียม ที่ บริษัท ล้อโลหะไทยเมททอล บางซื่อ ต่อไป
สรุปแผนขนย้ายกากแคดเมียม
สำหรับแผนการขนย้ายกากแคดเมียม ที่เสนอโดย บมจ.เบาด์แอนด์บียอนด์ กำหนดให้เริ่มการขนย้ายกากแคดเมียมจากโรงงานเจแอนด์บี เมททอล สมุทรสาคร และโรงงานล้อโลหะไทย กรุงเทพ ในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2567 ตามแนวทางและวิธีการที่คณะกรรมการอำนวยการ และคณะทำงานขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสี กำหนด
โดยที่ บริษัทเจแอนด์บี สมุทรสาคร จะเริ่มขนเที่ยวแรก ด้วยรถเทรลเลอร์ท้ายเรียบ จำนวน 4 คัน สามารถบรรทุกได้ทั้งหมด 80 ถุง น้ำหนักรวม 120 ตัน และที่ บริษัทล้อโลหะไทย กรุงเทพ จะใช้รถ 10 ล้อพ่วงล้อมคอก จำนวน 6 คัน เพื่อขนย้ายกากจำนวน 100 ถุง น้ำหนักรวม 150 ตัน โดยรถทุกคันจะมีการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลฟุ้งกระจายของกากแคดเมียมก่อนออกเดินทาง
หลังจากนั้น จะเริ่มทยอยขนที่เหลืออีกเกือบ 12,800 ตัน จากสมุทรสาคร และชลบุรีทุกวัน โดยใช้รถขนส่งที่เตรียมไว้จำนวน 30 คัน จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ซึ่งกากแคดเมียมทั้งหมดจะถูกนำไปพักไว้ที่โรงพักคอยของ เบาด์แอนด์บียอนด์ จังหวัดตาก เพื่อรอการซ่อมแซมบ่อฝังกลบ หมายเลข 5 ให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจึงนำกากทั้งหมดมาฝังกลบ และทำการปิดบ่อภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
สำหรับความพร้อมของโรงพักคอยของเบาด์แอนด์บียอนด์ที่จังหวัดตาก ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 2,200 ตารางเมตร สามารถรองรับกากแคดเมียมได้กว่า 14,000 ตันนั้น ปัจจุบันได้ทำการปรับพื้นด้วยดินลูกรังสูง 30 เซนติเมตร และปูทับด้วยแผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ (Geosynthetic Clay Liner) กันซึมเปื้อน ตลอดจนเตรียมร่องระบายน้ำ ปั๊มน้ำ บ่อรองรับน้ำฝน และวัสดุปิดคลุม เรียบร้อยแล้ว
ด้านรถขนส่งกากแคดเมียมจำนวน 30 คัน ได้เตรียมการขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ด้านระบบติดตามตรวจสอบการขนย้ายและการสุ่มตัวอย่างตรวจสอบ (Manifest) ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางดำเนินการเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน
