นี่คือคำพูดคำแรกที่ บ๊อบบี้ ดีเจมากความสามารถประจำคลื่น Smile Radio ได้ออกตัวไว้ก่อนเลยในวันที่เราเจอกันเพื่อพูดคุยกันเรื่องเพลงที่เขาชื่นชอบว่า เขาเองเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวนะ ฉะนั้นแล้วเพลย์ลิสต์ของเขาอาจจะเป็นเพลงที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของเขามากกว่า แต่จะให้เล่าทั้งทีจุดเปลี่ยนในชีวิตเจ้าตัวก็อยากจะเล่าในเรื่องของจุดเปลี่ยนผ่านของยุคเฟื่องฟูเพลงแดนซ์ซะมากกว่า และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราขอพาทุกคนไปพบกับ 6 เพลงโปรดสายแดนซ์ของผู้ชายคนนี้กันครับ


Michael Jackson - Billie Jean
ถ้าพูดถึงเพลงแดนซ์ในยุค 80 เท่าที่ผมจำได้ ทุกที่ต้องเปิด Billie Jean ครับ มันเหมือนกับเป็นเพลงชาติของดิสโก้เธคในยุคนั้น เพลงนี้มันเป็นวัฒนธรรมและแม่แบบของดนตรีในยุคต่อๆ เลยก็ว่าได้ เหมือนเป็นเพลงครู เอามาเป็น Sample สร้างวิธีการบิดเสียงร้องต่างๆ ทุกอย่างให้เกิดขึ้น ยุคนั้น แน่นอนเลยถ้าถามผมว่า เพลงไหนฮิตที่สุด ผมนึกถึงเพลงนี้เลยครับ

YES - Owner of a Lonely Heart
ยุคนั้นด้วยความที่ดนตรีแดนซ์มันเฟื่องฟูมากๆ ศิลปินแนวเพลงร็อกหลายๆ วง ที่มีเครื่องสายพวกกีต้าร์ก็ยังจะต้องยอมปรับตัวตนของตัวเอง นำเพลงไป Remix ให้กลายเป็นเพลงแดนซ์ อย่างวง YES ก็เป็นวงโปรเกสซีฟร็อกจากประเทศอังกฤษ ที่ทำเพลงลึกมากๆ และไม่มีวี่แววจะไปทำเพลงแดนซ์เลยแต่พวกเขาก็เลือกที่จะทำ และการมีเพลงนี้จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่อยู่ในความทรงจำของผมเลยว่า ขนาดวงแนวนี้ยังต้องยอมทำเพลงเต้นรำเลย ฉะนั้นมันจึงบอกได้ว่า สมัยนั้นแนวเพลงไหนกันที่ฮิตที่สุดในช่วงเวลานั้น

Genesis - Easy Lover
ถ้าพูดถึงวงดนตรีแนวร็อกโปรเกสซีฟที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อแนวเพลงแดนซ์อีกหนึ่งวงที่ทุกคนเต้นตามได้ ก็ต้องเป็นวงนี้เลย วงเครื่องดนตรีสามชิ้นร็อกจากอังกฤษ พวกเขาทำเพลงที่แตกต่างออกไปซึ่งการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในเวลานั้นก็สร้างเพลงดีๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้และเป็นอีกหนึ่งเพลงที่เปิดดังลั่นในเธคอยู่ในช่วงเวลานั้น
Spandau Ballet – True
สิ่งหนึ่งที่ในผับปัจจุบันไม่เหมือนกับยุคดิสโก้เธคก็คือ ยุคนั้นผับมันไม่ได้เปิดเพลงเต้นอย่างเดียวนะ มันต้องมีจังหวะหยุด จังหวะนี้สำคัญมากๆ พอถึงจังหวะที่เล่นเพลงช้า มันเป็นช่วงที่ได้กอดกัน บางคนจูบกัน (หัวเราะ) นี่คือการแสดงออกของวัยรุ่นในยุคนั้น พูดเหมือนผมเคย จริงๆ ผมยืนดูอยู่ครับ (หัวเราะ)
เพลงนี้เป็นเพลงช้าที่ต้องไปทำเป็นเวอร์ชันยืดเวลาให้นานกว่าเดิมให้ยาวถึง 8 นาทีเลย เพื่อให้มีเวลาโรแมนติกกันยาวขึ้นนั่นเอง นี่คือช่วงเวลาฟินของคนเที่ยวเลยนะครับ ผมขอยกเพลงนี้ให้เลย สำหรับโหมดเพลงช้า

Diana Ross & Lionel Richie – Hello
เพลงนี้เป็นเพลงที่เริ่มต้นของการร้อง Duet คู่กัน มันเป็นความใหม่มากๆ เพลงนี้เป็นทั้งเพลงดัง ทั้งส่งผลให้หนังดัง ศิลปินเกิด Hello จึงกลายเป็นไปอยู่ในฟลอร์เต้นรำโดยอัตโนมัติ ฉะนั้น 2 เพลงสุดท้ายนี้ฟังแล้วกอดกันกลมเลย
George Michael - Careless Whisper
เพลงสุดท้ายน่าจะเป็นเพลงชาติของความโรแมนติกเลยลย จอร์จ ไมเติล เขาเป็นคู่ดูโอ้วง Wham และเป็นเพลงที่เปรียบเสมือนเป็นจุดเปลี่ยนให้กับ จอร์จ ไมเคิล กลายมาเป็นศิลปินเดี่ยวในที่สุด จุดเด่นของเพลงนี้เลยก็คือท่วงทำนองที่สวยงามและเนื้อหาที่ครบรสชาติครับ
