เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมเสียงถึงมีเสน่ห์จัง
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมนิตยสาร NME นิตยสารดนตรีระดับโลก ยกให้เป็น 1 ใน 100 ศิลปินที่น่าจับตามอง
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมช่อง COLORS ช่องยูทูบชื่อดังถึงชวนไปออก
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมถึงไปโผล่ในช่อง Coverดีๆ มักจะมาตอนเมากาว บ่อยจัง
นี่คือคำถามที่ผมเก็บไว้ในใจ และเตรียมตัวไปเจอกันกับ Flower.Far ศิลปินสาวน้องใหม่จากโปรเจกต์ Young YUPP! ที่ตอนนีชื่อเสียงของเธอกำลังค่อยๆ โด่งดังในวงการเพลงไทยราวกับดอกไม้ที่กำลังรอวันผลิบาน และทันทีที่เราพบกันเด็กสาววัย 22 ปีก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า “พี่หนูตื่นเต้น แต่พร้อมแล้วนะ เรามาคุยกันเถอะ”
ทันทีที่จบประโยคนี้ ผมค่อยๆ นั่งลงอย่างช้าและเปิดที่บันทึกเสียง ทันใดนั้นบทสนทนาที่ผมอยากรู้และรอคอยคำตอบก็เกิดขึ้น ต่อจากนี้ นี่คือชีวิตของ Flower.Far ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนได้อ่านและทำความรู้จักเธอไปพร้อมๆ กันครับ
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมนิตยสาร NME นิตยสารดนตรีระดับโลก ยกให้เป็น 1 ใน 100 ศิลปินที่น่าจับตามอง
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมช่อง COLORS ช่องยูทูบชื่อดังถึงชวนไปออก
เด็กคนนี้คือใคร ? ทำไมถึงไปโผล่ในช่อง Coverดีๆ มักจะมาตอนเมากาว บ่อยจัง
นี่คือคำถามที่ผมเก็บไว้ในใจ และเตรียมตัวไปเจอกันกับ Flower.Far ศิลปินสาวน้องใหม่จากโปรเจกต์ Young YUPP! ที่ตอนนีชื่อเสียงของเธอกำลังค่อยๆ โด่งดังในวงการเพลงไทยราวกับดอกไม้ที่กำลังรอวันผลิบาน และทันทีที่เราพบกันเด็กสาววัย 22 ปีก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า “พี่หนูตื่นเต้น แต่พร้อมแล้วนะ เรามาคุยกันเถอะ”
ทันทีที่จบประโยคนี้ ผมค่อยๆ นั่งลงอย่างช้าและเปิดที่บันทึกเสียง ทันใดนั้นบทสนทนาที่ผมอยากรู้และรอคอยคำตอบก็เกิดขึ้น ต่อจากนี้ นี่คือชีวิตของ Flower.Far ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนได้อ่านและทำความรู้จักเธอไปพร้อมๆ กันครับ
ที่มาของชื่อ Flower.Far
หนูชื่อว่า ‘ฟาวเวอร์’ มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ชื่อนี้แปลตรงตัวเลยว่า ดอกไม้ ที่บ้านก็จะเรียกสั้นๆ ว่า ฟาร์ สาเหตุที่แม่ตั้งชื่อนี้ให้เพราะว่า พี่สาวสองคนของหนูเป็นชื่อเกี่ยวกับพรรณไม้หมดเลย หนูเป็นน้องเล็กสุดก็เลยได้มาเป็นดอกไม้ในครอบครัวนี้ เลยเอาตรงนี้มาเป็นชื่อ Aka ของตัวเองค่ะ
ชีวิตในวัยเด็กกับจุดเริ่มต้นในความรักเสียงดนตรีที่มีมาตั้งแต่วัยอนุบาล
จุดเริ่มต้นมันเริ่มต้นจากที่บ้านของหนูเลย คุณพ่อกับคุณแม่เป็นคนชอบเล่นดนตรีมากๆ หลังกินข้าวกันที่บ้านก็จะเปลี่ยนวงกินข้าวให้กลายเป็นวงสังสรรค์กัน ชวนเพื่อนบ้านมานั่งเล่นกีต้าร์กัน หนูเองตอนนั้นก็เด็กอยู่ได้ออกไปเต้น ออกไปร้องเพลงกลางวง ทุกคนก็เฮฮากันตรงนี้แหละมันเริ่มทำให้เราได้รู้จักดนตรี ได้รู้จักการร้องเพลงสนุกสนานๆ ช่วงที่เกิดขึ้นหนูจำความได้ว่าน่าจะเป็นตั้งแต่ช่วงอนุบาลเลยที่ได้อยู่ในวงสังสรรค์นี้
แรงบันดาลใจในการร้องเพลง เกิดขึ้นจากการเป็นนักกิจกรรมในโรงเรียน
พอเราเริ่มที่กล้าเต้นกล้าร้องตอนที่อยู่ในวงสังสรรค์ พ่อก็มีความสุขที่เห็นเราร้องเพลง มันเริ่มกล้ามากขึ้นตอนนั้น แต่ทีนี้เวลาก็ผ่านมาตอนช่วงประถมหนูก็ยังไม่เคยร้องเพลงให้ใครฟังนะ ช่วงนั้นเป็นนักกีฬา เป็นนางรำโรงเรียน อยู่ มันมามีจุดเปลี่ยนตอนเข้าเรียน ม.1- ม.2 อาจารย์อยากให้หนูร้องเพลงหน้าชั้นให้ฟัง ตอนนั้นจึงได้เริ่มร้องเพลงจริงๆ กล้าร้อง แล้วผลปรากฏว่า เราร้องเพลงได้ มันมีกิจกรรมโรงเรียน เราก็ไปเข้าร่วมเริ่มสนุกจนกลายเป็นไปโรงเรียนไม่ค่อยได้เรียนเลย ไปทำกิจกรรมแทนซะมากกว่า (หัวเราะ) 
พระเจ้ามอบเสียงสวรรค์มาให้กับ Flower.Far
หนูไม่เคยเรียนร้องเพลงเลยตอนเด็กๆ เพิ่งได้มารู้จักการเรียนร้องเพลงก็ตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยเลย การร้องเพลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันมาจากการที่เราอยากลองมากกว่า คิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูเจอเสียงของตัวเองด้วยก็คือตอนเด็กๆ คุณพ่อกับคุณแม่จะฟังเพลงหลากหลายมาก พ่อฟัง ‘คาราบาว’ บางทีก็ ‘Black Eyed Peas’ คุณแม่ก็ฟัง ‘มารายห์ แครี่’, เซลีน ดิออน แนวๆ นั้นเลย พอมาฟังบ่อยก็เริ่มซึมซับมาทำให้เรากล้าลอง กล้าทำจากการที่บ้านเราฟังเพลงหลากหลายนี่แหละ
เพลงคริสต์มาสคือเพลงแรกที่ Flower.Far ร้องในชีวิต
หนูร้องเพลงวันคริสต์มาสเป็นเพลงแรกในชีวิต หนูจำได้ ตอนนั้นเป็นงานโรงเรียนเขาให้เราไปร้องเพลง All I Want For Christmas Is You ก็เลยได้รู้จักการร้องเพลงตอนนั้น (ยิ้ม) ส่วนถ้าร้องจริงๆ อารมณ์ประมาณแข่งขันน่าจะเป็นช่วงตอนเข้า ม.4 มีการย้ายโรงเรียนเกิดขึ้น หนูสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดของภาคใต้เลยใช้ความสามารถด้านการร้องเพลงเข้าไปเลยจากนั้นจึงได้ไปแข่งร้องเพลงตามงานต่างๆ ในช่วงนั้น
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้ต้องเป็น ‘ศิลปินเดี่ยว’
เรื่องของการเริ่มทำเพลงเองเกิดขึ้นช่วงมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นมันเป็นช่วงคาบเกี่ยว ปี 2 หนูทำวงดนตรี ทำเพลงภาษาไทยกับเพื่อนๆ แต่ดันมีปัญหากันเลยต้องออกจากวงไป พอขึ้นปี 3 ก็คิดว่าอยากลองทำเพลงเป็นของตัวเองดูสักเพลง ซึ่งมันก็คือเพลง Like A Fool ที่ทุกคนได้ยินกันนั้นแหละ ทำออกมาแล้วหลายคนก็บอกเราว่า อยากให้ส่งค่ายจังเพลงนี้ หนูเลยคิดเหมือนกันว่าหรือเราจะลองส่งผลงานของเราไปให้ค่ายฟังเพลงดูสักครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้นะว่าตอนนั้นต้องไปส่งที่ไหนแค่คิดไว้ก่อน ทีนี้พอมาเป็นศิลปินเดี่ยวข้อดีของการทำงานคือ เราสามารถกำหนดสิ่งที่เราต้องการได้ อยากให้ดนตรีเป็นแบบไหน ร้องแบบไหนเราวางแผนได้หมด สาเหตุหลายส่วนมันก็มาจากการที่เราเรียนดนตรีด้วยยิ่งเข้าใจ พอทุกอย่างมันสามารถควบคุมด้วยตัวเองได้ มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า เราพร้อมแล้วที่จะเป็นศิลปินเดี่ยวแต่งเพลงเอง ร้องเอง

ค่าย YUPP! พรหมลิขิตที่หากันจนเจอ
อย่างที่บอกไป เรื่องการทำเพลงส่งค่ายเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ ตอนนั้นหนูเป็นเด็กเนิร์ดเอาแต่เรียนไปวันๆ กลับบ้านไป กินข้าวนอน ตอนเย็นก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่พอขึ้นปี 3 ชีวิตมันเปลี่ยน เริ่มอยากจริงจังกับชีวิต เราอยู่ที่เดิมมานานเกินไปแล้ว เราต้องมีอะไรสักอย่างเป็นของตัวเองได้แล้ว บังเอิญค่าย YUPP! เปิดรับสมัครศิลปินหน้าใหม่อยู่ หนูก็ไปศึกษาว่า ค่ายเขาทำอะไร มีใครบ้าง เข้าไปดูสักพักเลย เราชอบค่ายนี้ ดูแล้วรู้สึกว่า เขาไม่จำกัดแนวเพลงดี เราเลยสนใจเขาก็เลยส่งไปเลย (หัวเราะ)จากนั้นพอผลประกาศออกมาว่า เราผ่านเข้ารอบยิ่งงงเข้าไปใหญ่ แบบติดเฉยเลยเว้ย เฮ้ยติดได้ไง (หัวเราะ) อย่างไรก็ดีอมันผ่านเข้ารอบไปเรื่อยๆ มันต้องคัดเลือกกันอีกสักพักเลยจนกว่าจะถึงรอบสุดท้าย มันท้าทายมากนะ ทำให้เราพัฒนาตัวเองในทุกวันจนกระทั่งได้มาออกซิงเกิลแรกกับ YUPP! ทุกอย่างมันมีการเติบโตของมันมาเสมอเลย
‘Like A Fool’ ซิงเกิลแรกในชีวิตของตัวเองในนาม Flower.Far
รู้สึกไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะมีเพลงของเรา เพลงที่เกิดขึ้นจากตัวเองจริงๆ หนูเคยไปร้องโชว์มา ช่วงแรกที่ร้องก็เฮ้ยนี่มันเพลงเรานิหว่า มันดีใจนะที่เราได้มีโอกาสอยู่ตรงนี้ ดีใจมากๆ ที่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา คุณพ่อคุณแม่ก็ให้กำลังใจเรามาตลอดด้วย ยิ่งช่วงปล่อยเพลงแรกออกไป เขาก็เป็นห่วงเรา เตือนตลอดว่า อยู่ที่กรุงเทพทำตัวดีๆ นะ อย่าดื้อกับพี่ๆ ค่าย YUPP! มากอีกด้วย (หัวเราะ)
ซิงเกิลล่าสุด Walk Away ความสัมพันธ์แบบ Toxic Relationship ที่นำเสนอผ่านเสียงที่สวยงาม
เพลงนี้เล่าถึงความสัมพันธ์ที่เป็น Toxic Relationship หรือสิ่งที่เราอยากจะออกมา แต่ออกไม่ได้ก็กลายเป็นรักและติดอยู่ในวงกลมวิ่งหนีอยู่ในวงกลม อยากให้เพลงมันออกมาเป็นแบบวิ่งวนไปวนมา หม่นๆ หน่อย เพลงนี้หนูแต่งมาจากความรู้สึกของตัวเองเลย อยากให้ลองฟังกันดูด้วย
กระแสตอบรับที่ได้รับที่ทำให้การทำเพลงต่อจากนี้ต้องตั้งใจมากขึ้นในทุกเพลง
หนูอ่านคอมเมนต์ตลอด รู้สึกดีนะที่เขามาชมเรา เขินนะ มันมีทั้งคนชมเราะก็คอมเมนต์ที่แนะนำเราด้วย อยากบอกว่า อ่านทุกคอมเมนต์เลย ถามว่า กดดันรึเปล่า ในการทำเพลงหลังจากนี้ยอมรับว่า พอปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ มันก็ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ต้องจัดการตารางเวลาชีวิต จัดการความคิด เราไม่ได้เรียนและใช้ชีวิตไปวันๆ อีกแล้วพอได้มาอยู่ตรงนี้เจอผู้ใหญ่ในวงการเขาทำงานกัน เราก็ต้องทำให้ดีสมกับที่เขาคาดหวังไว้เหมือนกัน ฉะนั้นแล้วเพลงต่อไปมันจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ กว่านี้อีกค่ะ
นิตยสาร NME กับการเป็น 100 ศิลปินที่น่าจับตามองในปีนี้
ก่อนหน้านี้หนูรู้จักนิตยสารนี้มาก่อนแล้ว หนูเห็นในคอนเสิร์ตต่างประเทศมาตลอด นี่นักข่าวของนิตยสาร NME มานะ ตอนนั้นที่รู้ว่า ติดอันดับ 1 ใน 100 ศิลปินที่น่าจับตามอง รู้ครั้งแรกเลยดีใจมาก เด็กคนนี้มันเจ๋งเหมือนกันเว้ย ไม่คิดว่าจะได้อยู่ในการจัดอันดับของเขา เด็กใต้ทำได้แล้ว เราได้ลง NME แล้วเว้ย มันดีใจมาก 
จากนิตยสาร NME สู่การออกช่อง COLORS
ตอนที่รู้ว่าได้ไปช่องนั้นคือ ตกใจมากๆ รายการนี้ Doja Cat เขาก็ไปนะ เราได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นได้ไงวะ (ยิ้ม) มันเหลือเชื่อมากๆ ไม่คิดว่าเขาจะเห็นเรา แต่หนูคิดว่า เขาน่าจะเห็นจากตอนที่ไปร้องเพลงที่ต่างประเทศ (สิงคโปร์) งานที่ี่ค่ายพาไปแล้วคนต่างชาติมาดูรวมกันวันที่ปล่อยผลงานออกมาหนูยอมรับเลยว่า หนูสวยมาก (ยิ้ม) ชุดทุกอย่างสวย เพลงดีงาม มันเหมือนฝันเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะไปยืนอยู่ตรงนั้น หนูภูมิใจกับตัวเอง กับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการไปออกครั้งนี้เลย
การทำเพลงภาษาอังกฤษกำแพงของภาษาที่ Flower.Far จะก้าวข้ามไปให้ได้
ที่จริงหนูสามารถแต่งเพลงได้ 2 แบบเลย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลย แต่ที่แต่งเพลงแรกมาเป็นเพลง Like A Fool ตอนนั้นหนูเลือกเมโลดี้มันไม่สามารถใส่ภาษาไทยได้ ก็เลยจำเป็นต้องแต่งเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยความที่หนูชอบร้องภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คิดว่ามันไปด้วยกันได้ แต่ถ้าถามว่าควรที่จะแต่งเพลงไทยเพื่อที่จะให้ดังในไทยรึเปล่า คิดว่า บางทีการทำเพลงไทยมันก็ช่วย หนูก็ยังอยากทำอยู่ แต่ก็กำลังหาวิธีการที่ไม่ยัดเยียดความเป็นไทยไปขายต่างประเทศนะ แต่เอาความเป็นตัวเองของ Flower.Far ใส่เข้าไปมากกว่า มันคือซาวด์ประมาณนี้นะ ตอนนี้ทำการบ้านเรื่องนี้อยู่ ในอนาคตหนูว่ามันน่าจะเป็นจังหวะเหมาะสมหนูจะทลายกำแพงของคนฟังทั้ง 2 ภาษาให้ได้
อนาคตกับการนำภาษาใต้บ้านเกิดมาใช้ในเพลงตัวเอง
เรื่องนี้หนูไม่คิดมาก่อนเลยว่า ภาษาบ้านเกิด สำเนียงเรามันจะออกขนาดนั้น แต่คนฟังฟังออก เรื่องของลูกเอื้อนต่างๆ ที่อยู่ในเสียงเรา ปรากฏว่าสิ่งนี้แหละมันคือตัวเรา อนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากหยิบภาษาบ้านเกิดมาใช้ในเพลงเหมือนกัน จะลองดูค่ะ 
ตั้งเป้าหมายให้ไกลแล้วไปให้ได้
หนูตั้งเป้าเอาไว้ อยากทำเพลงให้พอมีชื่อเสียงบ้าง ได้ออกไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ ทัวร์คอนเสิร์ต เป็นเวทีใหญ่ๆ และก็อยากดู Grammy Awards สักครั้งในชีวิต (ยิ้ม) หนูอยากไปมากๆ อยากไปเห็นศิลปินดังๆ ระดับโลก ไปนั่งดูเขาขึ้นไปรับรางวัล เดินพวกพรมแดง เป้าหมายก็คือประมาณนี้เลยผลงานในอนาคต
มีแพลนจะปล่อยอยู่เหมือนกันคะ อยากให้รอติดตามกันในอนาคตต่อจากนี้
ตัวตนที่แท้จริงของ Flower.Far
เป็นคนเอ๋อๆ เด๋อๆ หน่อย เท่าที่ฟังคนอื่นบอกมานะ คนภายนอกก็จะมองว่าเป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ เซ็กซี่ๆ ตัวจริงก็สวยเซ็กซี่ แต่เอ๋อหน่อย (หัวเราะ) แล้วก็ขี้อายบ้างบางครั้ง
การมาอยู่ที่ค่าย YUPP! ความเป็นครอบครัว พี่น้อง ความอบอุ่นที่ได้รับ
หนูชอบแกล้งพี่ๆ แล้วก็มักโดนพี่ๆ แกล้ง (หัวเราะ) ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านๆ ก็มักจะโดนแกล้งเยอะ แต่สนุกดี รวมไปถึงอยากร่วมงานกับศิลปินในค่ายหลายๆ คนเลย ทั้งค่ายเลย 
ความเป็นเด็กบ้านๆ การมาใช้ชีวิตในกรุงเทพ
แต่ก่อนอยู่ที่หาดใหญ่ภาคใต้บ้านหนู ตอนเรียนอยู่เราเป็นแค่เด็กบ้านๆ แว๊นรถไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนใช้ชีวิตธรรมดาเลย แต่พอย้ายมาอยู่ในเมืองหลวงกรุงเทพ เจอรถเยอะมาก ความวุ่นวายของผู้คนทุกคนพูดภาษากลางกัน บางทีหนูก็ไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ พอมาเจอก็ต้องปรับตัว บางคนนิสัยเขาก็อาจจะเป็นลูกคุณหนูหน่อยเราก็ต้องปรับตัว จับโน้นจับนี่ไม่ได้ เรานี่หยิบแมลงโชว์พวกเขาเลย บางทีก็ต้องปรับเรื่องพวกนี้ เรื่องมารยาทด้วย ที่สำคัญอาหารการกินยิ่งต้องปรับเลย หนูชอบกินอาหารรสจัดมาก
ของดีหาดใหญ่ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นที่บ้าน Flower.Far
มาที่บ้านหนู เดี๋ยวหนูทำกับข้าวให้กินจบเลย มีผัดเผ็ดอร่อย แกงใต้ แกงส้ม พ่อหนูเป็นเชฟ พ่อทำอาหารภาคใต้ได้หมด มาเลย 