วงการอุตสาหกรรม K-Pop พื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุเดือดในการแข่งขันที่มีการเวียนวายตายเกิดมากถึง 100 วงต่อปี ยิ่งในปี 2022 ที่ผ่านมา อัตราการแข่งขันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เมื่อค่ายใหญ่ทยอยเปิดตัวไอดอลกลุ่มใหม่มากมายทั้ง NewJeans จาก Hybe Corporation, Le Sserafim จาก Source Music และ Kep1er จาก Mnet จึงยิ่งทำให้พื้นที่และความสนใจของผู้คนที่มีต่อวงไอดอลจากค่ายเล็กๆ ยิ่งลดลง
แต่ในช่วงที่ผ่านมา เรากลับได้ยินชื่อของ FIFTY FIFTY และได้ยินเพลง Cupid ของพวกเธอบ่อยขึ้น ด้วยเมโลดี้หอมหวานสดใสและท่อนฮุคที่ฮิตติดหูอย่าง “I gave a second chance to Cupid But now, I’m left here feeling stupid” ที่ไม่ว่าใครได้ฟังก็ต้องเก็บไปร้องตามจนกลายเป็นเพลงติดปาก ทำให้ Cupid สามารถทยานขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 และกลายเป็นมิวสิควิดีโอที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 98 จากคนทั่วโลกหลังจากปล่อยมาเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น
แต่ในช่วงที่ผ่านมา เรากลับได้ยินชื่อของ FIFTY FIFTY และได้ยินเพลง Cupid ของพวกเธอบ่อยขึ้น ด้วยเมโลดี้หอมหวานสดใสและท่อนฮุคที่ฮิตติดหูอย่าง “I gave a second chance to Cupid But now, I’m left here feeling stupid” ที่ไม่ว่าใครได้ฟังก็ต้องเก็บไปร้องตามจนกลายเป็นเพลงติดปาก ทำให้ Cupid สามารถทยานขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 และกลายเป็นมิวสิควิดีโอที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 98 จากคนทั่วโลกหลังจากปล่อยมาเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น

FIFTY FIFTY เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ อารัน (Aran), คีนา (Keena), แซนา (Saena) และ ชีโอ (Sio) โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 พวเธอเปิดตัวด้วยมินิอัลบั้ม The Fifty ภายใต้สังกัด ATTRAKT ค่ายดนตรีหน้าใหม่ในวงการเกาหลีที่มีพาร์ตเนอร์เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Music Korea กลุ่มธุรกิจและกลุ่มค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการบันทึกเสียง
แม้ชื่อวงอาจฟังดูแปลก แต่ FIFTY FIFTY คือ ‘ภาพสะท้อนของชีวิต’ ที่มีส่วนผสมของความเป็นจริง เต็มไปด้วยเรื่องราวความทุกข์และความเจ็บปวด 50% และอีก 50% คือความสุข ความหวัง และความฝันที่เปล่งประกาย เมื่อผสานทั้ง 2 ส่วนนี้เขาด้วยกัน ด้วยอัตราส่วนที่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความสมบูรณ์
นอกจากชื่อวงที่ลึกซึ้ง FIFTY FIFTY ยังตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับของพวกเธอให้มีความสอดคล้องกัน ‘HUNNIES’ คือชื่อเรียกของพวกเขา โดยมีที่มาจากคำว่า Hundred ที่ให้ความหมายน่ารักๆ ว่าศิลปินและแฟนคลับจะกลายเป็น 100 ที่สมบูรณ์ได้ก็เพราะมีกันและกัน แถมยังออกเสียงพ้องกับคำว่า Honey ที่แปลว่า ‘ที่รัก’ อีกด้วย
แม้ชื่อวงอาจฟังดูแปลก แต่ FIFTY FIFTY คือ ‘ภาพสะท้อนของชีวิต’ ที่มีส่วนผสมของความเป็นจริง เต็มไปด้วยเรื่องราวความทุกข์และความเจ็บปวด 50% และอีก 50% คือความสุข ความหวัง และความฝันที่เปล่งประกาย เมื่อผสานทั้ง 2 ส่วนนี้เขาด้วยกัน ด้วยอัตราส่วนที่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความสมบูรณ์
นอกจากชื่อวงที่ลึกซึ้ง FIFTY FIFTY ยังตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับของพวกเธอให้มีความสอดคล้องกัน ‘HUNNIES’ คือชื่อเรียกของพวกเขา โดยมีที่มาจากคำว่า Hundred ที่ให้ความหมายน่ารักๆ ว่าศิลปินและแฟนคลับจะกลายเป็น 100 ที่สมบูรณ์ได้ก็เพราะมีกันและกัน แถมยังออกเสียงพ้องกับคำว่า Honey ที่แปลว่า ‘ที่รัก’ อีกด้วย

อัลบั้มแรกของพวกเธอชื่อว่า THE FIFTY บอกเล่าเรื่องราวการออกเดินทางของเหล่าเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความฝันและต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อก้าวไปสู่โลกในอุดมคติผ่าน 4 บทเพลง ได้แก่ Tell Me, Lovin’ Me, Log in และเพลงไตเติลของอัลบัม Higher ที่หลังจากปล่อยไปได้ไม่นานก็สามารถกวาดแฟนๆ จาก Twitter และ TikTok ได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้รับคำชมจากนักวิจารณ์เพลงทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย
หลังจากได้รับความสนใจจากการเปิดตัวอัลบั้มแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว FIFTY FIFTY กลับมาในเดือนกุมภาพันธ์พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม The Beginning: Cupid ที่มีความทะเล้นและสนุกสนานมากขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายดนตรีเรโทรชวนฝันและเสียงร้องหวานๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของสาวๆ ไว้ โดยเนื้อเพลงพูดถึงหญิงสาวที่เฝ้าจินตนาการถึงความรักแสนหวาน แต่กลับไม่ได้พบเจอจนต้องตัดพ้อกามเทพว่า “Cupid is so dumb”
พวกเธอให้สัมภาษณ์กับ NME ว่าในเพลง Cupid ‘คีนา (Keena)’ ได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลง และพยายามเผยตัวตนของสมาชิกในด้านต่างๆ ให้ได้เห็นผ่าน Cupid โดยเนื้อเพลงแสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสา ไร้ประสบการณ์ และการอยากแสดงความรักในแบบที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ที่สุด
หลังจากได้รับความสนใจจากการเปิดตัวอัลบั้มแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว FIFTY FIFTY กลับมาในเดือนกุมภาพันธ์พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม The Beginning: Cupid ที่มีความทะเล้นและสนุกสนานมากขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายดนตรีเรโทรชวนฝันและเสียงร้องหวานๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของสาวๆ ไว้ โดยเนื้อเพลงพูดถึงหญิงสาวที่เฝ้าจินตนาการถึงความรักแสนหวาน แต่กลับไม่ได้พบเจอจนต้องตัดพ้อกามเทพว่า “Cupid is so dumb”
พวกเธอให้สัมภาษณ์กับ NME ว่าในเพลง Cupid ‘คีนา (Keena)’ ได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลง และพยายามเผยตัวตนของสมาชิกในด้านต่างๆ ให้ได้เห็นผ่าน Cupid โดยเนื้อเพลงแสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสา ไร้ประสบการณ์ และการอยากแสดงความรักในแบบที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ที่สุด

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือเพลง Cupid ถูกปล่อยออกมาถึง 2 เวอร์ชั่น โดยมีเนื้อเพลงเป็นภาษาเกาหลีและอังกฤษ “เรายังคิดถึงการส่งข้อความไปหาผู้คนทั่วโลกผ่านบทเพลง จึงตัดสินใจปล่อย Cupid ในภาษาอื่นด้วย จนได้มาเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษซึ่งคล้ายกับต้นฉบับมากๆ ก็เลยตั้งชื่อว่า Twin Version ค่ะ”
ถึงแม้สาวๆ จะบอกว่า Cupid is so dumb แต่จริงๆ แล้ว Cupid is ‘not’ dumb at all เพราะหลังจากปล่อยเพลงออกมาไม่นาน กามเทพก็ทำการแผลงศรใส่หัวใจผู้ฟังทั่วโลกจนทำให้เพลงของพวกเธอสามารถเปิดตัวในอันดับที่ 12 บนชาร์ต Bubbling Under Hot 100 ของ Billboard ในเวลาเพียง 123 วันนับจากวันเดบิวต์เท่านั้น ซึ่งสามารถทำลายสถิติเก่าของ NewJeans จากเพลง Ditto ที่ใช้เวลา 156 วัน
และในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา Billboard Chart ได้ประกาศข่าวดีผ่านทางช่องทาง Twitter ว่า Cupid ได้เข้าไปอยู่บนชาร์ต Billboard Hot 100 ประจำสัปดาห์นั้น โดยอยู่ในอันดับที่ 100 พอดี
FIFTY FIFTY ถือเป็นม้ามืดในวงการ K-Pop ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยแนวเพลงที่เข้าถึงง่าย และคอนเซ็ปที่แข็งแรงน่าสนใจ จึงทำให้นี่คืออีกหนึ่งวงที่คุ้มค่ากับการรอติดตามผลงานต่อๆ ไป ท่ามกลางสนามการแข่งขันอันดุเดือดของ K-Pop Gen 4 ในขณะนี้
ถึงแม้สาวๆ จะบอกว่า Cupid is so dumb แต่จริงๆ แล้ว Cupid is ‘not’ dumb at all เพราะหลังจากปล่อยเพลงออกมาไม่นาน กามเทพก็ทำการแผลงศรใส่หัวใจผู้ฟังทั่วโลกจนทำให้เพลงของพวกเธอสามารถเปิดตัวในอันดับที่ 12 บนชาร์ต Bubbling Under Hot 100 ของ Billboard ในเวลาเพียง 123 วันนับจากวันเดบิวต์เท่านั้น ซึ่งสามารถทำลายสถิติเก่าของ NewJeans จากเพลง Ditto ที่ใช้เวลา 156 วัน
และในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา Billboard Chart ได้ประกาศข่าวดีผ่านทางช่องทาง Twitter ว่า Cupid ได้เข้าไปอยู่บนชาร์ต Billboard Hot 100 ประจำสัปดาห์นั้น โดยอยู่ในอันดับที่ 100 พอดี
FIFTY FIFTY ถือเป็นม้ามืดในวงการ K-Pop ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยแนวเพลงที่เข้าถึงง่าย และคอนเซ็ปที่แข็งแรงน่าสนใจ จึงทำให้นี่คืออีกหนึ่งวงที่คุ้มค่ากับการรอติดตามผลงานต่อๆ ไป ท่ามกลางสนามการแข่งขันอันดุเดือดของ K-Pop Gen 4 ในขณะนี้