SPACE REVIEW: Licorice Pizza รักจังวะ ผิดจังหวะในยุค 70' ที่พาย้อนไปพบกับความรักวัยใสในช่วงวัยเยาว์

3 พ.ค. 2566 - 07:20

  • Licorice Pizza เป็นนหนังรักจ๋าๆ สไตล์ Coming of Age ของหนุ่มน้อยที่ตกหลุมรักสาวที่วัยต่างจากตัวเองถึง 10 ปี

Licorice-Pizza-review-SPACEBAR-Thumbnail
Licorice Pizza เป็นภาพยนตร์จากฝีมือของผู้กำกับยอดฝีมืออย่าง Paul Thomas Anderson ที่ฝากผลงานอันยอดเยี่ยมในวงการจอเงินมากมายไม่ว่าจะเป็น Boogie Nights (1997) ภาพยนตร์สไตล์ Coming of Age ของเขาที่มี Mark Wahlberg เป็นดารานำ และ There Will Be Blood (2007) ที่สร้างชื่อให้พอลโด่งดังสุดๆ จนได้รับการยอมรับในวงการ แถมหนังยังคว้ารางวัลออสการ์ไปได้ 2 สาขา คือ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ กำกับภาพยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่คว้ารางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ไม่ได้ โดยที่ปีนั้นตกเป็นของ No Country for Old Men จากสองพี่น้องโคเอน ส่วนผลงานเรื่องอื่นๆ ของพอลก็มีอย่างเช่น Magnolia (1999), Punch-Drunk Love (2002), The Master (2012) และ Phantom Thread (2017) เป็นต้น 

สำหรับ Licorice Pizza เป็นหนังที่น่าจะดูง่ายที่สุดเรื่องหนึ่งของ พอล โธมัส แอนเดอร์สัน เพราะก่อนหน้านี้หลายๆ เรื่องค่อนข้างจะออกไปในโทนตึงเครียด โดยเป็นเรื่องราวการตกหลุมรักของหนุ่มสาวต่างวัยระหว่าง Gary Valentine (Cooper Hoffman) และ Alana Kane (Alana Haim) ที่มีฉากหลังเป็น San Fernando Valley, California ในปี 1973 โดยเป็น Gary Valentine ไอหนุ่มกระเตาะวัย 15 ที่ขายขนมจีบให้สาวรุ่นพี่ที่อายุห่างกันถึง 10 ปีอย่าง Alana Kane ผ่านการเติบโตเพื่อเผชิญหน้าปัญหาหัวใจและเรื่องราวต่างๆ ของคนทั้งสอง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/H4Trq0PMSEpMt8P0vAkdh/32d53370f6f874b3ee2a7f927e94666f/Licorice-Pizza-review-SPACEBAR-Photo01
หน้าหนังของ Licorice Pizza เป็นหนังรักจ๋าๆ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเรื่องราวความรักของสองหนุ่มสาว แล้วอย่างที่เราบอกไปในชื่อคอลัมน์ว่า “รักจังวะ ผิดจังหวะ” ก็เพราะว่าทั้ง Gary และ Alana เนี่ยไม่เคยมีช่วงจังหวะความรักที่ตรงกันเลย ทั้งที่สองคนต่างก็เหมือนจะมีใจให้กัน แต่พอถึงเวลาที่มันจะได้ลงเอยกัน ต่างคนต่างก็มีแฟนหรือโดนจีบตลอด ไม่ได้เป็นคู่กันสักที 

ซึ่งเสน่ห์มันอยู่ตรงนี้แหละ การที่ทั้งสองคนไม่ได้ลงเอยกันมันกลายเป็นสไตล์หนังแบบ Coming of Age ที่ทำให้คนดูแบบเราติดตามหนังไปได้เรื่อยๆ จนจบ นั่งลุ้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตของแต่ละคน อย่างหนุ่มน้อย Gary ก็เป็นทั้งนักแสดงตัวประกอบหารายได้ช่วยครอบครัว แถมยังมีหัวคิดนักธุรกิจวัยเยาว์ สรรหาสร้างสตาร์ทอัพของตัวเอง ส่วนสาวรุ่นพี่ Alana ก็เริ่มต้นจากผู้ช่วยช่างภาพ ต่อด้วยเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับแกรี่ ไปจนถึงเป็นทีมงานรณรงค์แคมเปญหาเสียงของนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งเราจะได้เห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้สลับไปกับเรื่องราวความรักได้อย่างอบอุ่นและลงตัว 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5882dgHQmq0sIz10lvX7sh/ce7c498be7b0232eb3066740b0b94ab3/Licorice-Pizza-review-SPACEBAR-Photo02
ส่วนในพาร์ทของการแสดงต้องบอกเลยว่าสองดารานำทำได้ดีมากๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเล่นหนังใหญ่ของทั้งคู่ อย่างพระเอกของเรา Cooper Hoffman เป็นถึงอดีตลูกชายของ Philip Seymour Hoffman หนึ่งในนักแสดงคู่บุญของผู้กำกับ Paul Thomas Anderson ที่แสดงหนังเรื่องแรกได้น่าจับตามองไม่น้อย ให้อารมณ์ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับนางเอกของเรื่องอย่าง Alana Haim หนึ่งในสมาชิกวง Haim วงป็อบของสามสาวตระกูล Haim ที่ก็ก้าวมาเดบิวต์งานแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกได้อย่างสวยงาม ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านี้ อลาน่า ก็เคยร่วมงานกับ พอล มาแล้วมากมาย เพราะในช่วงที่ พอล เว้นช่วงงานกำกับหนังไป หนึ่งในงานหลักของเขาก็คือการทำมิวสิกวิดีโอให้กับวง Haim
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1mb6BQCRpLGSmL5Bc1fMuN/0931cba4255e82e8798894df51851de6/Licorice-Pizza-review-SPACEBAR-Photo03
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6cJpuT4ekSEFJOCLb87R1H/f9d098662bf0a472df35ed47c7f6cd7e/Licorice-Pizza-review-SPACEBAR-Photo04
สำหรับนักแสดงประกอบด้วยบารมีของผู้กำกับก็ทำให้หนังได้ทั้ง Sean Penn, Bradley Cooper มาร่วมงานด้วย ซึ่งทั้งสองคนก็วาดลวดลายการแสดงได้สมราคาเหมือนเดิม โดยเฉพาะในรายของ แบรดลีย์ คูเปอร์ ที่โผล่ออกมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่บอกเลยว่าโดนเส้นมากๆ  

สรุปโดยรวมสำหรับภาพยนตร์ Licorice Pizza ถือเป็นหนังรักน่ารักๆ สไตล์ Coming of Age ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักอันอบอุ่น ที่พร้อมจะให้เราเติบโตไปกับตัวละครอย่างจริงใจ ใครที่มีเวลาแล้วกำลังหาหนังรักสนุกๆ ดูสักเรื่อง แนะนำให้ลองดูครับ ตอนนี้หาดูได้ในสตรีมมิ่งของ Prime Video 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์