Gen (Z)ers คือผู้ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2015 พวกเขาชอบที่จะซื้อหนังสือฉบับเล่มพิมพ์มากกว่า e-book ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรื่องสายตา การใช้งานได้จริง และเริ่มมีเทรนด์ทางโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่าง #BookTok บางคนบอกว่าพวกเขาชอบกลิ่นของหนังสือจริงๆ และชอบที่จะสนับสนุนร้านหนังสือท้องถิ่นอีกด้วย

McKinsey & Company ที่ปรึกษาด้านการจัดการพบว่ายอดขายหนังสือในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพุ่งสูงขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยทำลายสถิติมากกว่า 843 ล้านเล่มในปี 2021 ในขณะที่ปีที่แล้ว (2022) มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับสองที่เกือบ 789 ล้านเล่ม ความนิยมหนังสือที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Gen Z ให้ความสนใจกับหนังสือเล่มมากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจจากปรากฏการณ์นี้นอกจากความรักในหนังสือของ Gen Z แล้วยังเป็นเรื่องของการบริโภค (การซื้อ) หนังสือเล่มทั้งที่กิจวัตรประจำวันของ Gen Z อยู่กับหน้าจอมือถือกับแท็ปเลตแต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะซิ้อหนังสือเล่มจริงและละทิ้งวิถีแห่งดิจิทัล
สิ่งที่น่าสนใจจากปรากฏการณ์นี้นอกจากความรักในหนังสือของ Gen Z แล้วยังเป็นเรื่องของการบริโภค (การซื้อ) หนังสือเล่มทั้งที่กิจวัตรประจำวันของ Gen Z อยู่กับหน้าจอมือถือกับแท็ปเลตแต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะซิ้อหนังสือเล่มจริงและละทิ้งวิถีแห่งดิจิทัล

Nielsen BookData ยังพบว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 - พฤศจิกายน 2022 ยอดการซื้อหนังสือเล่มของกลุ่มคนอายุ 13-24 ปีในสหราชอาณาจักรคิดเป็นกว่า 80% ของตลาด ในขณะที่ e-book ทำยอดขายไปได้เพียงแค่ 14% เท่านั้น
“ไม่มีอะไรที่เหมือนกับการได้เปิดหนังสือจริงๆ บนโซฟาหรือชายหาด” Madalyn Boyd วัย 23 ปีจากมิชิแกนบอกกับ Insider เธอกล่าวว่าแม้ e-book จะมีราคาย่อมเยาและเหมาะสำหรับการเดินทาง แต่ความชอบของเธอคือหนังสือที่พิมพ์ออกมาเป็นเล่มจริง
“กลิ่นของหนังสือเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” พร้อมเสริมว่าเธอยังชอบไปห้องสมุดและซื้อของในร้านหนังสืออีกด้วย
Wang Sum Luk นักศึกษาวัย 21 ปี ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า เขาเคยใช้ e-book มาก่อน แต่พบว่ามันใช้ไม่ได้จริง แม้ว่า e-book อาจดูสะดวกกว่า แต่ Luk ชอบหนังสือฉบับพิมพ์มากกว่า
“ฉันไม่รู้สึกปวดตาเวลาอ่านหนังสือเล่ม และพบว่าตัวเองมีสมาธิในการอ่านมากขึ้นเมื่อปิดคอมพิวเตอร์และมาอ่านหนังสือเล่มจริง” นอกจากนั้น Luk ยังเลือกที่จะเข้าห้องสมุดและอ่านหนังสือไปกองใหญ่ต่อสัปดาห์
ผลสำรวจชาวอเมริกันโดย Pew Research ระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 เกือบ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปีกล่าวว่าพวกเขาอ่านหนังสือที่เป็นสิ่งพิมพ์ ในขณะที่ 42% กล่าวว่าพวกเขาอ่าน e-book
Lili Dewrance วัย 23 ปีชาวลอนดอนบอกกับ Insider ว่าการอ่าน e-book ทำให้เธอไม่ได้หยุดพักจากหน้าจอหรือไม่ได้ Digital Detox ( การดีท็อกซ์ดิจิทัล)
Dewrance กล่าวว่ามีความสุขที่ได้ให้รางวัลตัวเองกับนวนิยายเรื่องใหม่ และสนุกกับการอุดหนุนร้านหนังสือใกล้บ้าน และมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ดิจิทัลให้ไม่ได้
“ไม่มีอะไรที่เหมือนกับการได้เปิดหนังสือจริงๆ บนโซฟาหรือชายหาด” Madalyn Boyd วัย 23 ปีจากมิชิแกนบอกกับ Insider เธอกล่าวว่าแม้ e-book จะมีราคาย่อมเยาและเหมาะสำหรับการเดินทาง แต่ความชอบของเธอคือหนังสือที่พิมพ์ออกมาเป็นเล่มจริง
“กลิ่นของหนังสือเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” พร้อมเสริมว่าเธอยังชอบไปห้องสมุดและซื้อของในร้านหนังสืออีกด้วย
Wang Sum Luk นักศึกษาวัย 21 ปี ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า เขาเคยใช้ e-book มาก่อน แต่พบว่ามันใช้ไม่ได้จริง แม้ว่า e-book อาจดูสะดวกกว่า แต่ Luk ชอบหนังสือฉบับพิมพ์มากกว่า
“ฉันไม่รู้สึกปวดตาเวลาอ่านหนังสือเล่ม และพบว่าตัวเองมีสมาธิในการอ่านมากขึ้นเมื่อปิดคอมพิวเตอร์และมาอ่านหนังสือเล่มจริง” นอกจากนั้น Luk ยังเลือกที่จะเข้าห้องสมุดและอ่านหนังสือไปกองใหญ่ต่อสัปดาห์
ผลสำรวจชาวอเมริกันโดย Pew Research ระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 เกือบ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปีกล่าวว่าพวกเขาอ่านหนังสือที่เป็นสิ่งพิมพ์ ในขณะที่ 42% กล่าวว่าพวกเขาอ่าน e-book
Lili Dewrance วัย 23 ปีชาวลอนดอนบอกกับ Insider ว่าการอ่าน e-book ทำให้เธอไม่ได้หยุดพักจากหน้าจอหรือไม่ได้ Digital Detox ( การดีท็อกซ์ดิจิทัล)
Dewrance กล่าวว่ามีความสุขที่ได้ให้รางวัลตัวเองกับนวนิยายเรื่องใหม่ และสนุกกับการอุดหนุนร้านหนังสือใกล้บ้าน และมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ดิจิทัลให้ไม่ได้