ถือว่า เป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอยู่ ณ เวลานี้ สำหรับวงดนตรีร็อกรุ่นใหม่ไฟแรง ‘De Flamingo’ จากสังกัด What The Duck กับการเป็นหนึ่งในการแสดงโชว์ของศิลปินระดับโลกของ แจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) ประจำทัวร์ครั้งนี้ที่มีชื่อว่า Jackson Wang MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 ที่เริ่มทำการแสดงตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า วงดนตรีวงนี้คือใคร พวกเขาเริ่มต้นเส้นทางบนสายดนตรีได้อย่างไร รวมไปถึงการเดินทางตลอด 6 ปีกว่าจะมาถึงวันที่ได้มีโอกาสไปเล่นอยู่ในทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
วันนี้ในฐานะที่ตัวของผู้เขียนบทความนี้ ติดตามชีวิตของพวกเขาทั้ง 4 หนุ่ม De Flamingo มาตั้งแต่วันแรกเลยจะขออาสาเล่าเรื่องราวทั้งหมดของพวกเขาให้ทุกคนได้อ่านกัน อีกทั้งเพื่อเป็นแนะนำตัวพวกเขาให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการและเป็นการตอกย้ำว่า นกฟลามิงโกตัวนี้จะโบยบินต่อไปอย่างไม่มีวันหยุดพักและบินไปได้ไกลกว่านี้อีกหลายเท่าตัวด้วย เอาล่ะครับถ้าทุกคนพร้อมแล้วตามผมมา เดี๋ยวจะพาไปทำความรู้จัก De Flamingo อย่างเป็นทางการกัน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า วงดนตรีวงนี้คือใคร พวกเขาเริ่มต้นเส้นทางบนสายดนตรีได้อย่างไร รวมไปถึงการเดินทางตลอด 6 ปีกว่าจะมาถึงวันที่ได้มีโอกาสไปเล่นอยู่ในทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
วันนี้ในฐานะที่ตัวของผู้เขียนบทความนี้ ติดตามชีวิตของพวกเขาทั้ง 4 หนุ่ม De Flamingo มาตั้งแต่วันแรกเลยจะขออาสาเล่าเรื่องราวทั้งหมดของพวกเขาให้ทุกคนได้อ่านกัน อีกทั้งเพื่อเป็นแนะนำตัวพวกเขาให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการและเป็นการตอกย้ำว่า นกฟลามิงโกตัวนี้จะโบยบินต่อไปอย่างไม่มีวันหยุดพักและบินไปได้ไกลกว่านี้อีกหลายเท่าตัวด้วย เอาล่ะครับถ้าทุกคนพร้อมแล้วตามผมมา เดี๋ยวจะพาไปทำความรู้จัก De Flamingo อย่างเป็นทางการกัน

“แม้ฉันต้องล้มลง แม้ต้องมีบาดแผล
ก็ยังจะขอทำ ด้วยความไร้เดียงสา”
De Flamingo คือ วงดนตรีที่เริ่มจากมาจากกลุ่มเพื่อนสนิทในรั้วมหาวิทยาลัยทั้ง 4 คนที่มีความรักในเสียงดนตรีและมีความเชื่อในสิ่งที่พวกเขารักว่า สักวันมันจะพาไปพบกับเรื่องราวสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตให้จงได้ ปี พ.ศ.2559 วันที่ 4 เมษายน ท่ามกลางความเงียบเหงาบนหน้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กกลับเกิดปรากฏการณ์ที่มีวงดนตรีน้องใหม่ไฟแรงหนึ่งวงตัดสินใจปล่อยเพลงแรกในชีวิตของพวกเขาที่ลงมือทำกันเองทั้งหมดกับเพลงที่มีชื่อว่า ‘รั้น’ เพลงร็อกที่เต็มไปด้วยความดุดันและมีสีสันที่แสบสัน ทำให้ค่ำคืนนั้นไทม์ไลน์ของนักดนตรีรุ่นพี่หลายคนในวงการเพลง เกิดปรากฏการณ์แชร์เพลงนี้ออกไปชนิดที่ทุกคนต่างสงสัยว่า เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนนี้เป็นใครและพวกเขามาจากไหนกันแน่ ภายหลังจากค่ำคืนสุดแสนมหัศจรรย์ ผมเองเคยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ทั้ง 4 คนในช่วงเวลานั้น โบนัส จา ปอม และบีม ซึ่งโบนัสเคยบอกไว้ว่า “การก้าวขึ้นมาจากมือกีต้าร์เพื่อเป็นนักร้องนำทุกอย่างมันยากไปหมด ทุกอย่างมันเคว้งไปหมดครับ พวกเราควรหานักร้องนำจริงๆ ดีไหม ผมไม่เคยเชื่อว่าตัวเองจะร้องเพลงได้ แต่เพื่อนในวงผมเชื่อมาตลอดว่าผมทำได้”
“ส่วนเรื่องชื่อ De Flamingo ถ้าให้ตอบแบบตลกๆ มันก็มาจาก การ์ตูนวันพีซ ตัวละครที่ชื่อว่า โด ฟลามิงโก ซึ่งหากบอกว่ามันมาจากการ์ตูนมันก็ดูไม่ศักดิ์สิทธิ์สักเท่าไหร่ พวกเราจึงไปหาความหมายมาเพิ่มเติมครับและนิยามให้ทุกคนรู้ว่า มันคือตัวแทนของความสามัคคี นกตัวนี้เวลาไปไหนมาไหนก็จะไปอยู่กันเป็นกลุ่มๆ ไม่อยู่ตัวเดียว เหมือนกับพวกเราที่จะอยู่แบบนี้ตลอดไป”
หลังจากที่ความสำเร็จของเด็กหนุ่มทั้ง 4 เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มีผู้ใหญ่จากหลายๆ ค่ายเพลงติดต่อมามากมายในค่ำคืนนั้น แต่มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่พวกเขาหัวใจพองโตและเต้นไม่เป็นจังหวะ ซึ่งผู้ใหญ่ที่ว่าก็คือ บอล-สครับ หนึ่งในหัวเรือใหญ่ของค่าย What The Duck ที่สนใจชวนพวกเขามาอยู่ภายใต้ชายคาของ What The Duck ในเวลานั้นทันที

“ที่เคยเป็นทุกสิ่ง ที่เคยเป็นทุกอย่าง
ที่เธอเคยบอกฉัน ว่าเป็นคนสำคัญ”
นกฟลามิงโกตัวนี้เริ่มบินมาด้วยความเด็ดเดี่ยวและโดดเดี่ยวว ห้วงเวลานั้นพวกเขาได้มีบ้านหลังใหม่และหลังใหญ่โอบอุ้มพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยกับค่ายเพลงที่มีชื่อว่า What The Duck พร้อมทั้งตัดสินใจปล่อย EP Album : The Four Men Go ออกมาให้แฟนเพลงที่รอติดตามพวกเขาอยู่ในช่วงเวลานั้นได้ฟังกันต่อทันที ส่งผลให้เพลง ‘คนสำคัญ’ หนึ่งในเพลงช้าของวงกำเนิดเกิดขึ้นและทำให้ชื่อเสียงของ De Flamingo เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักฟังเพลงนอกกระแสจากผลงานชุดนี้ (ผลงานในชุดนี้ยังมีเพลง ยัง,คนสำคัญ และ รั้น ประกอบใน EP Album นี้อีกด้วย) ทั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำว่า นี่คือการทำงานรูปแบบมืออาชีพครั้งแรกของพวกเขาในวงการเพลงอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกำลังเป็นภาพฝันที่สวยงาม แต่เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนก็มองมันว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไปเสมอ และพวกเขาเคยให้ความเห็นถึงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในตอนนั้นไว้ได้อย่างน่าสนใจ พวกเขาบอกกับผมไว้ว่า “วงเรามองทุกอย่างเป็น Step By Step ยังไม่มองไกลมาก พวกเราไม่อยากจะทำให้ค่ายผิดหวัง เป้าหมายแรกของพวกเราคือ การมีอัลบั้มแรกอัลบั้มเต็มในชีวิต โชว์ของเราอยากจะซัดเพลงของตัวเองให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป้าหมายพวกเราไม่เกินตัวครับ”

“หากฉันนั้นไม่ใช่คนที่เธอเคยใฝ่ฝัน
ไม่ดีพออย่างที่เธอคาดหวังไว้”
จากวันแรกที่เริ่มต้นเข้าวงการเพลงของพวกเขาทั้ง 4 หนุ่ม De Flamingo ภาพแสนสวยงามมีให้พวกเขาเห็นอยู่เสมอ จนกระทั่งมาพบเจอความจริงของคนทำเพลงว่า มันไม่มีอะไรได้มาง่ายได้ จากการปล่อยซิงเกิลเพื่อนำไปสู่อัลบั้มเต็มกลับทำให้พวกเขาต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่เพลง ฟังก่อน,แค่อีกครั้งเดียว, PINK, น้ำตาเทียม, ทางออก และ หากฉัน พวกเขาเจอกับเรื่องราวต่างๆ มากมายทั้งดีและไม่ดีไปในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงการได้เจอกับโปรดิวเซอร์คู่ใจที่พาพวกเขากลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องอย่าง อู๋ เดอะเยอร์ส ที่เปรียบเสมือนหนึ่งในคนที่เชื่อใจในตัวของพวกเขามาตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน “การเจอพี่อู๋ เป็นเกียรติและดีใจมากๆ ที่พี่เขามาช่วยพวกเราในการคิด ออกไอเดียต่างๆ เพราะที่ผ่านมามีเพียงแค่พวกเรา 4 คนเท่านั้นในการฟังเพลงและโหวตกันเอง หากแต่เพียงว่า มันไม่มีคนนอกวงเลยที่จะคอยมาตบไอเดียต่างๆ ของพวกเราให้เป็นรูปเป็นร่าง การได้พี่อู๋มาช่วยตรงนี้พวกเราโชคดีมากจริงๆ ครับ”
ระยะเวลาเกือบ 3 ปีหลังจากที่ออกอัลบั้ม EP Album : ‘The Four Men Go’ ออกไป ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่ De Flamingo จะมีอัลบั้มเต็มเป็นของตัวเองสักทีกับอัลบั้มที่มีชื่อว่า ‘K N I P’ อัลบั้มเต็มที่มีเพลงทั้งหมด 12 เพลงด้วยกัน แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่อาจจะเลี่ยงได้เลยก็คือ ช่วงเวลาที่อัลบั้มนี้ออกมา สถานการณ์ของโลกใบนี้กลับกำลังเดินทางเข้าสู่การพบเจอโรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่อย่าง โควิด-19 ชนิดที่ศิลปินคนไหนก็ไม่สามารถเลี่ยงได้
ปอม และ จา ขอเป็นตัวแทนวงเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังต่อ “ช่วงที่ปล่อยอัลบั้ม K N I P ถามว่าพวกเราเสียใจรึเปล่าที่ออกมาชนกับการเข้ามาของโควิด-19 พอดี พวกเราไม่เสียใจเลย เพราะมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเพียงแต่มันเสียดายมากกว่าที่ไม่มีโอกาสได้ออกไปเล่นเพลงในอัลบั้มนี้ตอนนั้นเลยมากกว่า มันเสียดายครับ แต่ก็คิดว่า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาแล้วสิ่งที่เราต้องทำก็คือ พัฒนาตัวเองต่อไป”

“แค่เพียงขอให้เธอรับรู้ ว่าฉันรักเธออยู่เหมือนเดิม
ถ้าเขาทำให้เธอต้องมีน้ำตาก็ขอให้เธอมองหันมา”
หลังจากการเกิดสถานการณ์ของโรคระบาดโควิด-19 ขึ้นมา ทำให้ทั่วโลกทุกวงการทุกสิ่งต่างหยุดลงชั่วขณะเหลือทิ้งไว้เพียงแต่เข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าและรอวันที่ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง พวกเขาทั้ง 4 คนก็เช่นกัน หลังจากที่เรียนรู้จากความเจ็บปวด ความเสียดายจากการปล่อยอัลบั้มเต็มไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาตัดสินใจก็คือ ลงมือทำ อย่าท้อ อย่าทะเลาะกันจงเชื่อในความฝันที่มีกันมาตั้งแต่วันแรกไว้ โบนัส และ บีม เล่าให้ผมฟังต่อทันทีถึงการทำงานต่อในช่วงเวลาโควิด-19 ไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า “ตอนโควิด-19 สิ่งที่พวกผมทำก็คือ พวกเรามาตั้งหลักกันใหม่ มองสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องเจอ ฉะนั้นแล้วการล้มเลิก การคิดจะหยุด De Flamingo มันไม่เคยเกิดขึ้นในหัวพวกเราเลยสักนิด แต่มันกลับทำให้พวกเรารักกันมากกว่าเดิม พวกผมเริ่มทำเพลงทันทีหลังจากที่มีประกาศล็อกดาวน์ และเริ่มเวิร์คกับทางค่ายต่อเลยว่า เราจะเอายังไงกันต่อดีหลังจากนี้”
ทันทีที่พวกเขาเริ่มต้นอีกครั้งด้วยพลังและความแข็งแกร่งที่วงได้รับมาจากประสบการณ์การทำงานต่างๆ ก็ส่งผลให้เห็นว่า ซิงเกิลเพลงของพวกเขากลับมาปล่อยต่อเนื่องอีกครั้ง ตั้งแต่เพลง ดับ (Dare), เท่าที่มี (You&Me) และ คนสุดท้ายที่คิดถึง (Still the Same) พร้อมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ใหม่จากวงร็อกน้องใหม่สุดแสบสู่วงร็อกที่มีกลิ่นอายและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนฟังรู้แล้วว่าเพลงแบบ De Flamingo เป็นอย่างไร และจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ตรงนี้ก็ส่งผลให้พวกเขาได้ออกบินสู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่หาไม่ได้ที่ไหนกับการเป็นวงดนตรีแบ็คอัพในทัวร์คอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า Jackson Wang MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 ตั้งแต่การทัวร์ในทวีปเอเชียสู่การทัวร์ทวีปยุโรปอยู่ ณ ขณะนี้


“พวกผมอยากไปเล่นต่างประเทศอยู่แล้ว
ถ้ามาชวนไปเล่นก็ยินดีมากครับ”
นี่คือคำตอบที่ De Flamingo เคยบอกไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเกี่ยวกับความฝันถึงการไปเล่นดนตรีที่ต่างประเทศดูสักครั้งในชีวิต ที่สำคัญพวกเขาตั้งเป้าหมายในการเล่นดนตรีหรือการโชว์ของพวกเขาในปี 2023 ไว้ว่า “พวกเราไม่เคยเกี่ยงเลยว่า จะต้องไปเล่นที่ไหน สถานที่จะใหญ่หรือเล็กขนาดไหน พวกเราจะทำเต็มที่เสมอ ขอเพียงมีโอกาส พวกเราสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดแน่นอน” ซึ่งภายหลังจากการตอบคำถามนี้ De Flamingo ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า นกตัวนี้ได้โบยบินไปสู่เป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและมันก็เป็นนิมิตรหมายที่ดีต่อจากนี้ว่านกฟลามิงโกสีชมพูตัวนี้จะบินไปได้ถึงตรงไหนอีกในวงการเพลงต่อจากนี้ 
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นของวงดนตรีที่ฮ็อตที่สุดในเวลานี้อีกหนึ่งวงกับ De Flamingo วงร็อกรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอยู่ในเวลานี้ เชื่อว่า ก้าวต่อจากนี้คงจะเป็นก้าวที่น่าสนใจของไม่น้อย ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ก็ขอส่งพลังและกำลังใจช่วยพวกนายต่อไป
De Flamingo เราจะมองดูพวกนายเติบโตต่อไปและตลอดไปนะ
De Flamingo เราจะมองดูพวกนายเติบโตต่อไปและตลอดไปนะ