ปล่อยออกมาแล้ว สำหรับเพลงไตเติลอัลบั้มใหม่ของหนุ่มๆ NCT DREAM กับเพลง ‘ISTJ’ ภายใต้อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ในชื่อเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา หนุ่มๆ ได้ปล่อยเพลงพรีรีลีสมาเรียกน้ำย่อยกับเพลง ‘Broken Melodies’ ที่มาในทำนองเพลงสบายๆ แต่อัดแน่นไปด้วยไฮโน้ตให้เหล่าเมมเบอร์ได้โชว์สกิลโวคอลกันแบบเต็มสูบ

เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือช่วงเวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศเกาหลีที่ผ่านมา 7 หนุ่ม NCT DREAM ยูนิตน้องเล็กจากวง NCT ที่มีสมาชิกในปัจจุบันทั้งหมด 20 คน ได้ปล่อยเพลงใหม่ ที่แฟนๆ ได้ตั้งตารอคอยกันแบบสุดๆ ออกมาแล้ว ในเพลงที่ชื่อว่า ‘ISTJ’
โดยอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของหนุ่มๆ NCT DREAM จะประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน ประกอบด้วยเพลง ‘ISTJ’ ซึ่งเป็นเพลงไตเติลของอัลบั้มนี้ และเพลง ‘Broken Melodies’ ที่ปล่อยไปแล้ว ในฐานะเพลงพรีรีลีสเรียกน้ำย่อยแบบปังๆ
อีกทั้งยังมีเพลง ‘Yogurt Shake’ เพลงแนวป็อปที่เล่นกับเสียงไซโลโฟนในท่อนฮุก เพลง ‘Skateboard’ เพลงฮิปฮอปเวสต์โคสต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฮิปฮอปอเมริกัน และ UK House ช่วงปี 2000 เพลง ‘Blue Wave’ เพลงป็อปมีเดียมที่จะทำให้เพลิดเพลินกับซัมเมอร์ที่สดใส เพลง ‘Poison’ เป็นเพลง R&B ที่ชวนให้อารมณ์อ่อนไหว เพลง ‘SOS’ เป็นเพลงฮิปฮอปแดนซ์
โดดเด่นด้วยการเปลี่ยนท่อนที่คาดเดาไม่ได้ตามสไตล์ของ SM เพลง ‘Pretzel (♡)’ เพลงแนวป็อปที่มีอินโทรเรียบง่ายแต่มีจังหวะที่หนักแน่น และนุ่มนวล เพลง ‘Starry Night’ เพลงแนวป็อป R&B ที่มีเสน่ห์จากการร้องประสานเสียงผสานกับเสียงกีต้าร์บอสซาโนและมีเมโลดี้สุดโรแมนติก และเพลง ‘Like We Just Met’ เป็นเพลงบัลลาด R&B ที่ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีกีตาร์อะคูสติก
นับว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยเพลงที่น่าสนใจ ฟังไปแบบรื่นหู ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของหนุ่มๆ NCT DREAM และตามคำสัญญาที่หนุ่มๆ เคยให้ไว้ตลอดมาหลังจากที่มีการปล่อยเพลงใหม่ นั่นคือ “พวกเราจะกลับมาในภาพลักษณ์ที่โตขึ้น” และสำหรับอัลบั้มนี้ ต้องบอกเลยว่า หนุ่มๆ ได้ทำตามสัญญาได้อย่างดี หลังจากที่ถูกแฟนๆ แซวกันมาอย่างยาวนาน
โดยอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของหนุ่มๆ NCT DREAM จะประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน ประกอบด้วยเพลง ‘ISTJ’ ซึ่งเป็นเพลงไตเติลของอัลบั้มนี้ และเพลง ‘Broken Melodies’ ที่ปล่อยไปแล้ว ในฐานะเพลงพรีรีลีสเรียกน้ำย่อยแบบปังๆ
อีกทั้งยังมีเพลง ‘Yogurt Shake’ เพลงแนวป็อปที่เล่นกับเสียงไซโลโฟนในท่อนฮุก เพลง ‘Skateboard’ เพลงฮิปฮอปเวสต์โคสต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฮิปฮอปอเมริกัน และ UK House ช่วงปี 2000 เพลง ‘Blue Wave’ เพลงป็อปมีเดียมที่จะทำให้เพลิดเพลินกับซัมเมอร์ที่สดใส เพลง ‘Poison’ เป็นเพลง R&B ที่ชวนให้อารมณ์อ่อนไหว เพลง ‘SOS’ เป็นเพลงฮิปฮอปแดนซ์
โดดเด่นด้วยการเปลี่ยนท่อนที่คาดเดาไม่ได้ตามสไตล์ของ SM เพลง ‘Pretzel (♡)’ เพลงแนวป็อปที่มีอินโทรเรียบง่ายแต่มีจังหวะที่หนักแน่น และนุ่มนวล เพลง ‘Starry Night’ เพลงแนวป็อป R&B ที่มีเสน่ห์จากการร้องประสานเสียงผสานกับเสียงกีต้าร์บอสซาโนและมีเมโลดี้สุดโรแมนติก และเพลง ‘Like We Just Met’ เป็นเพลงบัลลาด R&B ที่ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีกีตาร์อะคูสติก
นับว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยเพลงที่น่าสนใจ ฟังไปแบบรื่นหู ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของหนุ่มๆ NCT DREAM และตามคำสัญญาที่หนุ่มๆ เคยให้ไว้ตลอดมาหลังจากที่มีการปล่อยเพลงใหม่ นั่นคือ “พวกเราจะกลับมาในภาพลักษณ์ที่โตขึ้น” และสำหรับอัลบั้มนี้ ต้องบอกเลยว่า หนุ่มๆ ได้ทำตามสัญญาได้อย่างดี หลังจากที่ถูกแฟนๆ แซวกันมาอย่างยาวนาน

มาที่เพลงไตเติลใหม่ล่าสุดของหนุ่มๆ NCT DREAM กันดีกว่า กับเพลง ‘ISTJ’ (บอกก่อนเลยว่า เป็นรีวิวจากผู้เขียนเอง หากมีอะไรที่ผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ)
ก่อนอื่น ขอพาไปทำความรู้จักกับคำว่า ‘ISTJ’ กันก่อน...
‘ISTJ’ เป็นหนึ่งในสิบหกบุคลิกภาพของ MBTI ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มุ่งเน้นให้เข้าใจตัวเองและผู้อื่น จากประเภทของบุคลิกภาพที่ต่างกัน ซึ่ง ‘ISTJ’ เป็นบุคลิกภาพที่ดูค่อนข้างสงบ พูดน้อย และมีเหตุมีผล ย่อมาจากคำว่า Introverted, Sensing, Thinking และ Judging นั่นเอง
โดยเพลงนี้ เป็นเพลงฮิปฮอปแดนซ์แบบไฮบริด เป็นเรื่องราวดราม่าของคน 2 คนที่ตรงกันข้าม นั่นคือคนที่มีบุคลิกแบบ ‘ENFP’ และคนที่มีบุคลิกแบบ ‘ISTJ’ ได้มาพบกันและเริ่มต้นสร้างความรัก ซึ่งในส่วนของความหมายของเพลงนั้น ได้เล่าถึงเรื่องราวความมั่นใจของ ‘ENFP’ ที่ทำลายกรอบบรรทัดฐาน ‘MBTI’ ด้วยการตีความฝ่ายตรงข้ามที่เป็น ‘ISTJ’ ในแบบของตัวเอง
ก่อนอื่น ขอพาไปทำความรู้จักกับคำว่า ‘ISTJ’ กันก่อน...
‘ISTJ’ เป็นหนึ่งในสิบหกบุคลิกภาพของ MBTI ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มุ่งเน้นให้เข้าใจตัวเองและผู้อื่น จากประเภทของบุคลิกภาพที่ต่างกัน ซึ่ง ‘ISTJ’ เป็นบุคลิกภาพที่ดูค่อนข้างสงบ พูดน้อย และมีเหตุมีผล ย่อมาจากคำว่า Introverted, Sensing, Thinking และ Judging นั่นเอง
โดยเพลงนี้ เป็นเพลงฮิปฮอปแดนซ์แบบไฮบริด เป็นเรื่องราวดราม่าของคน 2 คนที่ตรงกันข้าม นั่นคือคนที่มีบุคลิกแบบ ‘ENFP’ และคนที่มีบุคลิกแบบ ‘ISTJ’ ได้มาพบกันและเริ่มต้นสร้างความรัก ซึ่งในส่วนของความหมายของเพลงนั้น ได้เล่าถึงเรื่องราวความมั่นใจของ ‘ENFP’ ที่ทำลายกรอบบรรทัดฐาน ‘MBTI’ ด้วยการตีความฝ่ายตรงข้ามที่เป็น ‘ISTJ’ ในแบบของตัวเอง

เปิด MV มาด้วยภาพของรถตู้คันหนึ่ง ซึ่งคาดว่า คนขับคือ เจโน่ (Jeno) ถ้าอิงจากคลิปทีเซอร์ (ท้าย MV ก็ระบุว่า เจโน่เป็นคนขับ เท่สุดๆ) และแพลนไปที่หน้าเจอของคอนโซลรถ ที่ระบุว่า เดินทางมาจาก Real World หรือโลกแห่งความเป็นจริง เดินทางมาถึง MBTI World หรือโลกแห่ง MBTI ซึ่งเป็นคล้ายกับโรงพยาบาล ที่มีผู้คนมากมายกำลังต่อแถวเพื่อเข้าไปรับคำปรึกษาว่าแท้จริงแล้ว ตัวเองจัดอยู่ในกลุ่มไหน ภายใน 16 บุคลิกของ MBTI ภายใน MV ก็เล่าเรื่องราวของคนๆ หนึ่งที่ถูกจำกัดความว่าเป็น ISTJ อย่างชัดเจน

ในส่วนของภาพลักษณ์ของหนุ่มๆ ที่บอกว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่โตขึ้น บอกเลยว่า ทำตามสัญญาสุดๆ เพราะหนุ่มๆ ดูโตขึ้นไปมากกว่าเพลงก่อนๆ ที่ผ่านมา และแต่ละคนก็เพิ่มความหล่อได้ไปอีกหลายทวีคูณเลยทีเดียว ในเรื่องของภาพ และแสงสีที่ปรากฏออกมาใน MV ซึ่งมีสีสันที่ฉูดฉาดแต่ก็ยังมีความหม่นๆ ในไวบ์ของเด็กผู้ชายไว้ด้วย ซึ่งบอกเลยว่า ขับความหล่อของแต่ละคนได้อย่างดี เอาจริงๆ ทั้งรีวิวฉบับนี้ บอกได้คำเดียวว่า หล่อมากค่ะ 5555555 ส่วนอีสเตอร์เอ้กที่หนุ่มๆ เคยบอกไว้ ก็มีเยอะพอสมควร ซึ่งนั่นก็ต้องเป็นหน้าที่ของแฟนคลับแล้วแหละ ว่าจะเจออะไรกับ MV เพลงนี้บ้าง

เพลงได้กล่าวถึงการอย่าจำกัดเขาเพียงแค่คำว่า ISTJ เพราะสุดท้ายเขาจะทำทุกวิถีทางที่จะเข้ากับทุกคนให้ได้อย่างดีที่สุด ในตอนท้าย หนุ่มๆ ก็ได้เดินทางกลับมาที่โลกแห่งความเป็นจริง หรือ Real World ได้สำเร็จ และแน่นอนว่า เป็นอีกเพลงที่มีการสลับบีทเพลงเพื่อโชว์สกิลโวคอลเทพๆ ตามแบบฉบับของ SM Entertainment ด้วย เป็นเพลงที่ฟังแล้วสนุกตามไปได้ง่ายๆ จริงๆ ส่วนใครที่อยากจะเข้าไปท่องเที่ยวโลก MBTI World กับหนุ่มๆ NCT DREAM ก็สามารถเข้าไปชม MV ตัวเต็มๆ ได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยจ้า