ในที่สุดวันนี้ก็เดินทางมาถึงสักทีสำหรับวง Three Man Down กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของในชีวิตของ กิต, ตูน, เส็ง และ เต หลังจากคุยกันมาเนิ่นนาน ได้ยินข่าวว่าวงจะมีๆ คอนเสิร์ตใหญ่ วันนึงก็มาถึงเสียที หากใครลืมว่า พวกเรา Spacebar Vibe เคยคุยอะไรกันกับทั้ง 4 คนไป สามารถย้อนกลับไปทบทวนความทรงจำกันได้ที่บทความนี้ครับ (Three Man Down : พวกผมยังคง ‘เด็ก’ เสมอในวงการเพลงอันกว้างใหญ่)
ก่อนอื่นก่อนที่จะรีวิว ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งวงด้วยที่กำลังจะปราบบอสใหญ่ตัวแรกที่ชื่อว่า Impact Area เสียที หลังจากที่ 5 ปีที่แล้วพวกเขาเคยได้มีโอกาสชิมลางในการเจอบอสตัวนี้ในคอนเสิร์ต ‘COCKTAIL LIVE #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา’ ตอนนั้นด้วยวัยและประสบการณ์ทำให้พวกเขายังจัดการบอสตัวนี้ได้ไม่อยู่หมัด ตอนนี้ถึงตาพวกเราแล้วที่จะเริ่มขีดเขียนประวัติศาสตร์ผ่านบอสใหญ่ตัวนี้ คอนเสิร์ตนี้จะเป็นเช่นไร ไปดูรีวิวกันครับ
ก่อนอื่นก่อนที่จะรีวิว ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งวงด้วยที่กำลังจะปราบบอสใหญ่ตัวแรกที่ชื่อว่า Impact Area เสียที หลังจากที่ 5 ปีที่แล้วพวกเขาเคยได้มีโอกาสชิมลางในการเจอบอสตัวนี้ในคอนเสิร์ต ‘COCKTAIL LIVE #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา’ ตอนนั้นด้วยวัยและประสบการณ์ทำให้พวกเขายังจัดการบอสตัวนี้ได้ไม่อยู่หมัด ตอนนี้ถึงตาพวกเราแล้วที่จะเริ่มขีดเขียนประวัติศาสตร์ผ่านบอสใหญ่ตัวนี้ คอนเสิร์ตนี้จะเป็นเช่นไร ไปดูรีวิวกันครับ

เริ่มต้นคอนเสิร์ต การเข้างาน ครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นโจทย์ใหญ่เหมือนกันเพราะระบบ Operation การเข้างานรอบนี้ช้ากว่าปกติ อาจจะเพราะว่า คนดูที่มีจำนวนเยอะ ทำให้ระบบจากที่แต่ก่อนโฟลว์ๆ เข้างานได้ รอบนี้มีติดขัดนิดนึง แต่ไม่เป็นไรเข้าใจๆ ได้ (คนมันเยอะตั้งแต่ขับรถเข้ามาเมืองทองธานีแล้ว) จนกระทั่งเวลามาถึง 19.48 น. ม่านที่ถูกกั้นไว้เปิดออกมาและปรากฏตัว ทั้ง 4 หนุ่ม (กิต, ตูน, เส็ง และ เต) พร้อมกับเพลง ‘ปล่อยให้เวลา’ และวงก็ไม่พูดอะไรมากมายจัดการใส่เต็มทั้ง ‘ตอนไม่ได้เจอ’ , ‘ผ่านตา’, ‘หมดไอจี’ ตรงนี้บอกเลยว่า เอฟเฟกต์พลุและไฟเร้าใจมากๆ แบบสะใจดี แถมทำให้เรารู้สึกว่า เออการสื่อสารของวงรอบนี้พวกเขาเป็นทีมเวิร์คที่ดีจริงๆ ไม่มีใครเด่นไปกว่าใครเลย อันนี้ขอชื่นชม มันดูกลมกลืนกันไปหมดจนทุกการเคลื่อนไหวมันธรรมชาติจนเรารู้สึกได้ คล้ายกับว่า หากเป็นเกมส์รอบนี้ผู้เล่นก็เตรียมอาวุธและชุดเกราะมาดีเลยทีเดียว

หลังจากที่ระเบิดภูเขาเผากระท่อมเสร็จแล้ว วงก็พาชาวเมืองไปพบแขกรับเชิญคนแรกอย่าง ‘ไมยราพ’ กับเพลง ‘เก็บไว้ในใจไม่พอ’ ตามมาด้วยเพลง ‘น้อง’ ที่พา ‘URBOYTJ’ มาแจมเรียกเสียงร้องของแฟนเพลงได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะแถมเพลง ‘Super Saiya’ ให้เป็นช่วงปิดท้าย ก่อนที่จะส่งเข้าสู่ช่วงที่เราว่าเป็นความแปลกใหม่ของ Three Man Down ยกให้เป็นโชว์ทีเด็ดและน่าสนใจเลยสำหรับโชว์เซ็ตถัดไปที่กำลังจะเกิดขึ้น

องก์ต่อมา Three Man Down พาทุกคนมาย้อนความทรงจำกับเพลงฮิต เพลงดังในวันวานที่วงจัดวางมาอย่างดี แถมด้วยความเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ พวกเขาเลยจัดการ Rearrange มาให้แฟนเพลงได้ฟังกัน เต็มอิ่ม และเรารู้สึกชอบมากๆ ที่วงกล้าวัดใจกับคนดูว่า เราจะลองทำสิ่งนี้กันในคอนเสิร์ตใหญ่ เพลงอย่าง ‘อยากฟัง’,‘ทีมรอเธอ’,‘เดาไม่เก่ง’, ‘เลือกคนที่เขารักเรา’ ถูกเอาออกมาเล่นในแบบใหม่ที่พอฟังแล้วมันกลมกล่อมเหลือเกิน จากนั้นเพลงท่าไม้ตาย หรือเพลงค่อยๆ ซึม (เตเคยบอกไว้) อย่าง ‘ไม่อยากให้เธอไม่สบาย’, ‘เด็กเกินไป’ และ ‘ไปเถอะเธอ’ ก็ออกมาทำงานเรียกความเศร้า ความอินให้กับแฟนเพลงต่อไป

จากนั้นวงพากลับเข้าสู่โหมดปกติ ‘เปิดตัวเขา’ อีกหนึ่งซิงเกิลที่เพิ่งปล่อยไปก็ได้ถูกมาเล่นบนเวทีนี้ด้วยและโจทย์ที่วงเคยบอกว่า “อยากทำให้แฟนเพลงชายและหญิงเข้าโหมดร่วมร้องเพลงกันได้” มันเกิดจากเพลงนี้แหละ เห็นชัดมากว่า คนร้องตามได้เสียงดังลั่น ก่อนที่จะพาทุกคนเข้าสู่เพลงแห่งความทรงจำอย่าง ‘ข้างกัน’ เพลงที่ทำให้วงเดินทางมาถึงตรงนี้ได้และเปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างส่องสะท้อนให้เห็นทั้งคนเล่นและคนดูได้รับพลังแห่งความอบอุ่นนี้ไปพร้อมกัน แถมความพิเศษที่วงตั้งใจก็คือ โอม มือเบสของ Three Man Down ก็ได้ขึ้นมาโชว์ในคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ด้วย


หลังจากซึ้งกันไปพักนึง ก็มาต่อกันเลยที่ ‘คนใหม่’, ‘ไหนบอกเลิกแล้ว’, ‘เมา’ (เพลย์ลิสต์ตรงนี้โดนใจมาก สะใจ พอเพลงอัลบั้มใหม่มาแล้วยิ่งดูแล้วยิ่งสะใจ เหมือนวงคิดวิธีการใช้งานของมันมาว่าจะใช้ในตอนไหนและต่อจากเพลงไหน) ก่อนที่ กิต จะเดินไปเดี่ยวเปียโนเพลง ‘ฝนตกไหม’ เวอร์ชั่นใหม่ที่วงเรียบเรียงมา อาจจะไม่คุ้นหู แต่มันดูอลังการดี

ช่วงนี้สุดท้ายของโชว์วงตัดสินใจไม่พูดอะไรอีกต่อไปแล้ว ใส่เต็มมาเลยทั้ง ‘Time Zone’, ‘ฝันถึงแฟนเก่า’, ‘สุดทาง’ (เพลงยุคบุกเบิก TMD), ‘ไม่เคยมีดาวในเมืองใหญ่’, ‘คุยคนเดียวเก่ง’, ‘วิธีไม่เสียใจ’ และ ‘ถ้าเธอรักฉันจริง’ ปิดคอนเสิร์ตนี้ไปแบบสวยงาม

โดยรวมคอนเสิร์ตนี้ประทับใจมากๆ เป็น 3 ชั่วโมงที่วงโชว์ได้ไม่รู้สึกสะดุดเลย เก็บครบทุกความรู้สึกแถมความโดดเด่นของสมาชิกในวงก็ไม่มีใครเด่นเกินกว่าใคร เท่าๆ กันหมดเลยตรงนี้ดีมากๆ ส่วนตัวพอมานั่งดูด้วยความเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย เพลงอัลบั้ม 2 ฟังแล้วมีพลังมากจริงๆ เหมาะแก่การเอาไปโชว์ ยิ่งการเอามาผูกเรื่องราวกับเพลงในอัลบั้มแรกแล้วตรงนี้ต้องขอชื่นชมวงจากหัวใจ แถมการมีแฟนเพลงที่ดีมันเป็นแบบนี้นิเอง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ร้องเพลงได้ดังกว่าศิลปิน มันอิ่มเอมแทนวงจริงๆ นะงานนี้ ยิ่งไปกว่านั้นแสง สี เสียงก็ครบเต็มพิกัดจริงๆ แอบได้ข่าวมาว่า จอที่ทุกคนเห็นในงานนี้ถือว่าเกือบทำลายสถิติ Impact Area จริงๆ เพราะมันใหญ่เกือบ 17 เมตรเลยทีเดียว เรียกง่ายๆ เห็นชัดสะใจกันไปเลย

ท้ายที่สุดคอนเสิร์ตนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ภาคแรกที่วงทำการฉายให้พวกเราแฟนเพลงได้ดู แต่เชื่อเถอะว่า ภาคถัดไปมันจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน ภาพในหัวตอนนี้ภาคถัดไปสำหรับเรา เราเห็นเป็นสนามกีฬาอะไรสักสนามนึงที่สวยๆ มันคงจะเหมาะกับวงน่าดู เอาใจช่วยเสมอนะ Three Man Down
พวกนายสุดยอดจริงๆ
พวกนายสุดยอดจริงๆ