VIBE REVIEW: Daily Dose of Sunshine ความสมบูรณ์แบบทางสังคม ภาพมายาที่ทุบตีผู้คนจนแตกสลาย

4 พ.ย. 2566 - 05:00

  • รีวิว ‘Daily Dose of Sunshine’ ออริจินัลซีรีส์ของ Netflix ที่จะมาซับน้ำตาและทายาให้ทุกบาดแผลในหัวใจ ผ่านเรื่องราวในแผนกจิตเวชที่เต็มไปด้วยผู้คนบอบช้ำและเจ็บปวดจากการแบกรับน้ำหนักความกดดันของสังคมที่บีบบังคับให้เราต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอด

Daily-Dose-Of-Sunshine-The-Pressure-That-Tears-Us-Apart-SPACEBAR-Hero.jpg
Daily-Dose-Of-Sunshine-The-Pressure-That-Tears-Us-Apart-SPACEBAR-Photo08.jpg
Photo: Netflix

‘Daily Dose of Sunshine’ ซีรีส์อบอุ่นที่จะมาซับน้ำตาและทายาให้ทุกบาดแผลในหัวใจ ผลงานออริจินัลซีรีส์บนสตรีมมิงแพลตฟอร์ม Netflix ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน จากงานเขียนของ ลีราฮา (Lee Ra-Ha) อดีตนางพยาบาลที่เขียนเล่าเรื่องราวจริงที่พบเจอผ่านภาพวาดสัตว์แสนน่ารัก  ได้นักแสดงมากความสามารถอย่าง พักโบยอง (Park Bo-Young), จางดงจู (Jang Dong-Joo) และ ยอนอูจิน (Yeon Woo-Jin) มารับบทนำ อีกทั้งยังได้ผู้กำกับ ลีแจกยู (Lee J.Q.) ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ในผลงานซีรีส์ All of Us Are Dead มาดูแลเรื่องภาพรวม

ซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของ ดาอึน (พักโบยอง) พยาบาลสาวที่ย้ายตำแหน่งการทำงานจากแผนกอายุรศาสตร์ มาจิตเวช สถานที่ที่เต็มไปด้วยความสับสน บาดแผล และความเจ็บปวด ที่นี่เธอได้พบเห็นและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย รวมถึงได้ลองพยายามทำความเข้าใจโลกในมุมมองของคนไข้ ซึ่งในขณะที่เธอคอยดูแล พูดคุย และรักษาคนไข้เหล่านั้น จิตใจของดาอึนเองก็ค่อยๆ ได้รับการปลอบประโลม จนสามารถเยียวยารักษาแผลลึกฝังใจในอดีตได้เช่นเดียวกัน

Daily-Dose-Of-Sunshine-The-Pressure-That-Tears-Us-Apart-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Netflix

“ชีวิตเธอก็ไม่ได้บกพร่องตรงไหน มีอะไรให้ต้องเศร้ากัน?” 

“มีคนอย่างแกไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” 

ประโยคพื้นฐานที่เรามักเจอจากการออกไปพบเพื่อน หรือการถูกตำหนิในที่ทำงานทั่วไป หลายครั้งเราอาจพูดออกไปด้วยความเคยชิน หรืออาจพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ด้วยประโยคพื้นฐานเช่นนี้กลับสร้างบาดแผลฝังลึกในใจให้ใครหลายคนได้อย่างจริงจัง

ภายในแผนกจิตเวชของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง รีนา หญิงสาวหน้าตาสะสวย ฐานะดี และเปี่ยมไปด้วยการศึกษาถูกผู้เป็นแม่พามารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากพบว่ารีนามีพฤติกรรมแปลกไป หลายครั้งนิสัยของเธอมักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากสาวขี้อายกลายเป็นสาวสังคมที่ใช้ชีวิตหวือหวาเกินปกติ อีกทั้งยังไปตกหลุมรักชายคนอื่นนอกจากสามีตัวเอง เธอยึดติดกับเขามากเสียจนถูกแจ้งความและมีหมายศาลสั่งห้ามเข้าใกล้

หลังการซักประวัติและการตรวจรักษา พบว่าสาเหตุรีนาป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ โดยมีสาเหตุมาจากได้รับความกดดันทั้งจากทางสังคมและครอบครัวมากจนเกินไป เธอถูกบังคับให้ต้องดูสมบูรณ์แบบตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงความคิดต่อสิ่งใดได้ ไม่แม้กระทั่งมีสิทธิเลือกผลไม้ที่ตัวเองชื่นชอบ ความกดดันที่เกิดขึ้นทำให้เธอต้องการได้รับความรักและความเข้าใจจากคนภายใน และพัฒนากลายเป็นความหมกมุ่นที่น่ากลัวและไม่ปลอดภัยต่อผู้อื่น

Daily-Dose-Of-Sunshine-The-Pressure-That-Tears-Us-Apart-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: Netflix

ถัดมาอีกด้านของแผนกจิตเวช ผู้ป่วย คิมซองชิก เข้ามารักษาอาการโรคกลัวสังคมและกำลังจะถูกส่งตัวย้ายไปอยู่โรงพยาบาลอื่นที่สามารถให้เขาพักรักษาได้ในระยะที่ยาวกว่า ยองชิกเคยเป็นพนักงานบริษัทที่เข้ามารักษาตัวเริ่มแรกด้วยอาการไม่อยากนอน ก่อนที่หมอจะค่อยๆ ตรวจสอบและพบว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจากภาวะความเครียดที่ถูกหัวหน้ารังแกในที่ทำงาน พูดจาดูถูกดูแคลนทำร้ายทางจิตใจ และลงมือทำร้ายร่างกาย การกระทำเหล่านี้ดำเนินมาเรื่อยๆ จนทำให้ความรู้สึกไร้ค่า ไร้ความสามารถ เริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา อันนำพามาซึ่งภาวะซึมเศร้าควบคู่ในที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสังคม วัฒนธรรม ครอบครัว และเพื่อนฝูง หลายครั้งสิ่งเหล่านี้มักสร้างแรงกดดัน และแรงกดทับที่ทำให้แทบหายใจไม่ออก เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ และบางครั้งยากจะอยากมีชีวิตอยู่  แม้ความกดดันเหล่านี้อาจสร้างข้อดี เช่น อาจกระตุ้นให้เราประพฤติตัวดีต่อผู้อื่น พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เราทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตัวเราเอง

หากมองย้อนกลับถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านมา จะพบว่าเราต่างใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแรงกดดันของสังคมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจากครอบที่ผู้ใหญ่คาดหวังผลการเรียนที่ดีและพฤติกรรมที่ดี เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานอาจพยายามชักชวนให้เราทำอะไรบางอย่างโดยใช้แรงกดดันทางสังคมมาความคาดหวังให้เราต้องปฏิบัติตาม ซึ่งบางครั้งอาจมาในรูปแบบของการคุกคาม สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ หรือรูปแบบการใช้ชีวิต แต่ยังทำลายสุขภาพจิต อารมณ์ และความรู้สึก การติดอยู่ระหว่างความคิดหรือความปรารถนาของตัวเองกับความคิดเห็นของผู้อื่นสามารถนำไปสู่ความรู้สึกเครียดและด้อยค่าตัวเองได้

Daily-Dose-Of-Sunshine-The-Pressure-That-Tears-Us-Apart-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: Netflix

“อารมณ์ความรู้สึกก็มีกล้ามเนื้อ หากใช้มากเกินไปอาจอ่อนล้าและเสื่อมลงได้ ถึงอย่างนั้นก็สามารถฝึกฝนให้มันแข็งแรงมั่นคง พร้อมต่อสู้และรับทุกแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน”

การมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจากแรงกดดันทางสังคมถือเป็นความท้าทายที่หลายๆ คนต้องเผชิญ และหลายครั้งมันกลายเป็นปัญหาในชีวิตได้ ความใจดีของดาอึนกลายเป็นปัญหาและทำให้พยาบาลในแผนกอายุรศาสตร์ไม่ชอบเธอ เนื่องจากเธอใส่ใจคนไข้มากเกินไป แม้นั่นจะดูเป็นสิ่งพื้นฐานที่พยาบาลควรทำก็ตาม ซึ่งแม้ความใส่ใจนั้นจะหลอกหลอนเธอจนทำให้เริ่มหวาดระแวงต่อสายตาของเพื่อนร่วมงาน แต่ดาอึน ยังคงเลือกที่จะทำตัวขัดขืนต่อสังคม และยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าถูกต้อง จนในท้ายที่สุดความใจดีที่เธอมอบให้คนไข้ทุกคนก็ถูกส่งมอบตอบกลับมาในรูปแบบของรอยยิ้ม คำพูด และการกระทำทั้งจากคนไข้ ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานที่เหมือนเป็นการแปะพลาสเตอร์ยาและเป่าเพี้ยงใส่บาดแผลในใจของดาอึนที่ตั้งคำถามต่อการปฏิบัติตัวของตัวเองในสังคมมาอย่างเนิ่นนาน

ซีรีส์​ Daily Dose of Sunshine มีจำนวนทั้งหมด 12 ตอนและมีความยาวตอนละ 60 นาที หากใครสนใจอยากรับชมเรื่องราวที่จะสอนให้เราเข้าใจโลกผ่านการโอบกอดที่อบอุ่นเหมือนแสงตะวัน และความเข้าใจที่ถูกถ่ายทอดผ่านคำพูดปลอบประโลมได้เป็นอย่างดี สามารถรับชมได้ที่สตรีมมิงแพล็ตฟอร์ม Netflix

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์