หากคุณเป็นสายดนตรีที่หลงใหลในจังหวะเรกเก้ผสมผสานกับความจัดจ้านของอัลเทอร์เนทีฟ บอกเลยว่าคุณต้องทำความรู้จักกับ Joint and Mad วงดนตรีที่มาพร้อมแนวทางเฉพาะตัวที่แตกต่างและสดใหม่ภายใต้ค่าย Tiny ในสังกัด LOVEiS Entertainment สมาชิกประกอบไปด้วย อนันดา แม่นปืน (ดา) – นักร้องนำ, ปรวัต นิตย์ใหม่ (บ้าน) – เบส, เที่ยงวัน แจ่มผล (เที่ยง) – คีย์บอร์ด, ปฏิพล พันธ์สุริยะกันต์ (ตึงตัง) – กลอง โดยพวกเขาเพิ่งปล่อย EP แรกออกมาในชื่อ One Love One Roll กับ 5 แทร็กที่เต็มไปด้วยความเป็นตัวเอง และต่อจากนี้คือเรื่องราวของพวกเขา
จุดเริ่มต้นของการเดินทาง จาก J.A.M สู่ Joint and Mad
"จริงๆ มันเกิดจากความชอบล้วนๆ ครับ" – ดา นักร้องนำของวงเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Joint and Mad
แต่เดิมเริ่มต้นจากความหลงใหลในดนตรี ดาเริ่มต้นทำเพลงแบบง่ายๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวในนาม J.A.M พวกเขาค่อยๆ ปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจึงได้เกิดความต้องการที่จะพัฒนาดนตรีให้มีความเป็นแบนด์มากขึ้น วงจึงได้เริ่มการเดินทางครั้งใหม่และก้าวเข้าสู่โลกของอัลเทอร์เนทีฟเรกเก้อย่างเต็มตัวพร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Joint and Mad
ในส่วนที่มาของชื่อวงพวกเขาบอกว่า จริงๆ แล้ววงเคยชื่อ “Joint and Maid” มาก่อน มันเกิดจากการพิมพ์ผิดล้วนๆ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อให้เป็น "Mad" เพื่อสะท้อนถึงความบ้าคลั่งในเสียงเพลงของพวกเขาเอง
โดยยังคงยึดถือในเรื่องความรักและมิตรภาพ ด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรีและแรงบันดาลใจจากวงดังอย่าง ศรีราชาร็อคเกอร์ และ Sticky Fingers พวกเขาได้พัฒนาสไตล์ของตัวเองขึ้นมาจนไปเข้าตาผู้บริหารค่าย Tiny และได้รับโอกาสเข้าร่วมเทศกาลดนตรี Tiny Sparks หลังจากโชว์จบพวกเขาได้สร้างความประทับใจจนได้เข้าร่วมงานกับค่าย Tiny เป็นศิลปินแบบเต็มตัวในที่สุด
การเป็นศิลปินอย่างเป็นทางการในค่าย Tiny
หลังจากร่วมงานกับค่าย Tiny วงใช้เวลากว่าหนึ่งปีเพื่อค้นหา "ซาวนด์" ที่ลงตัวที่สุด ในที่สุด EP แรกของ Joint and Mad ในชื่อ One Love One Roll ก็ได้ถือกำเนิด ประกอบไปด้วย 5 แทร็กได้แก่เพลง เพื่อชีวิตใคร, ร้อนสะบัด, ลอยยิ้ม, OLOR และจักรวาลที่เคยมีกัน
EP นี้สะท้อนตัวตนของ Joint and Mad ได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นเหมือนเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ชวนกันมาทำเพลงที่อยากฟังเองจริงๆ ไม่มีการปรุงแต่งเกินจำเป็น ไม่มีการพยายามเป็นใคร เป็นตัวเองในแบบที่เป็น สำหรับ Joint and Mad กับการปล่อย EP แรกพวกเขาไม่ได้คาดหวังให้เพลงพุ่งทะยานขึ้นชาร์ตแต่สิ่งที่พวกเขาหวังมากกว่านั้นคือ “ต้องการให้เพลงของเรากลายเป็นเพื่อนของคุณ”
เมื่อถามถึงเพลงที่แต่ละคนชอบมากที่สุดในอัลบั้ม One Love One Roll เราได้คำตอบแรกจาก ตึงตัง มือกลองที่บอกว่า “จักรวาลที่เคยมีกันครับ เพราะองค์ประกอบของเพลงมันลงตัวมากครับ ทั้งดนตรีและเนื้อ มันกลมกล่อมมากครับ ไม่มีใครแย่งซีนกันและกัน” ตามมาด้วย เที่ยง มือคีย์บอร์ดบอกว่า “ผมชอบเพลง เพื่อชีวิตใคร มันเป็นโจทย์ที่ได้รับมาและต้องแข่งกับเวลาด้วย มันท้าทายดีครับ” ส่วน ดา นักร้องนำบอกว่า “ผมชอบทุกเพลงเลยครับ แล้วแต่สถานการณ์เลยครับ เพราะทั้ง 5 เพลงใช้ได้หลายสถานการณ์ครับ” ปิดจบด้วย บ้าน มือเบสบอกว่า “จริงๆ ผมก็ชอบทุกเพลงนะครับแต่ถ้าต้องเลือกคงจะเป็น ลอยยิ้ม ที่เพิ่งปล่อยครับ”
เส้นทางต่อจากนี้ของ Joint and Mad
"EP แรกปล่อยไปแล้ว มีตัวตนของเราแล้ว ต่อไปก็อยากจะผสมผสานความเป็นเราเข้ากับผู้คนผ่านบทเพลง พวกเราอยากจะเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่อยากหยุดอยู่กับที่" - Joint and Mad
พวกเขาไม่ต้องการถูกจำกัดด้วยแนวดนตรีแบบใดแบบหนึ่ง อยากทดลองดนตรีใหม่ๆ และพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือเป้าหมายในการทำเพลงให้เป็นเพื่อนของทุกคน
สิ่งที่อยากฝากถึงทุกคน
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงวงแนวเรกเก้หลายคนก็ต้องสงสัยในเรื่อง “สายเขียว” และ Joint and Mad เองก็ไม่ปฏิเสธว่าพวกเขามีภาพลักษณ์แบบนั้น แต่พวกเขาอยากจะเสนอมุมมองที่แตกต่างออกไป
"ถึงแม้ว่ากัญชาจะเสรีในปัจจุบัน แต่ก็มีวัยรุ่นและเยาวชนจำนวนมากที่ใช้มันอย่างไม่ถูกต้อง เราอยากนำเสนอเรื่องนี้ในมุมใหม่ พวกเราไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนใช้ แต่ถ้าจะใช้ก็ควรมีความรู้และเข้าใจมันให้ถูกต้อง" – Joint and Mad
แม้ว่าในปัจจุบันกัญชาจะเป็นเรื่องถูกกฎหมายในไทยแต่ก็ยังมีปัญหาการใช้อย่างไม่ถูกต้องโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น Joint and Mad ไม่ได้เชิดชูกัญชาแบบไร้ขอบเขต แต่พยายามนำเสนอแนวคิดการใช้กัญชาอย่างมีสติและมีความรับผิดชอบผ่านตัวตนของพวกเขา "การใช้กัญชาให้ถูกต้องมันคือเรื่องความรับผิดชอบ"
EP นี้คือจุดเริ่มต้นของ Joint and Mad ที่จะประกาศให้โลกได้รู้ว่าพวกเขาคือใคร หากคุณกำลังมองหาดนตรีที่เป็นมากกว่าแค่เพลงแต่เป็นเพื่อนที่เดินทางไปกับคุณได้ในทุกช่วงเวลา Joint and Mad คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด
ท้ายที่สุด Joint and Mad ฝากไว้ว่า "ถ้าเพลงของเราเป็นเพื่อนคุณได้ นั่นคือที่สุดแล้ว"
เรื่อง: อารียา ธีรการุณวงศ์
