ภาพเบื้องหน้าเป็นภูเขาสีน้ำตาลแดงสูงชันที่ทาบไปด้วยแสงสีม่วงระเรื่อ บริเวณยอดเขานั้นเป็นลำแสงที่วนเป็นวงกลมราวกับวงแหวนของนางฟ้าและเทวดา ตัดไปฉากท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ดูเผินๆ ภาพทั้งหมดกลับให้อารมณ์รู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากชุดภาพปริศนาพลังลับ แต่หารู้ไม่ นี่คือภาพทิวทัศน์ฝีมือของ รอยเบน วู (Reuben Wu) ที่ใช้เทคนิคลำแสงจากเครื่องโดรนเพื่อสร้างภาพที่น่าฉงนนี้ขึ้นมา
วูเป็นศิลปินวิชวลในชิคาโก เดิมทีเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงดนตรี Ladytron วงดนตรีแนว synth-pop ที่มีผลงานอัลบั้มถึง 7 อัลบั้ม (2019) แต่ระหว่างที่วงพักเบรกทำเพลงในปี 2011 ขณะที่เพื่อนร่วมวงต่างออกไปทำโปรเจกต์เพลงเดี่ยวของตัวเอง วูกลับสนใจโปรเจกต์ถ่ายภาพ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่สุดสำหรับเขา
วูเป็นศิลปินวิชวลในชิคาโก เดิมทีเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงดนตรี Ladytron วงดนตรีแนว synth-pop ที่มีผลงานอัลบั้มถึง 7 อัลบั้ม (2019) แต่ระหว่างที่วงพักเบรกทำเพลงในปี 2011 ขณะที่เพื่อนร่วมวงต่างออกไปทำโปรเจกต์เพลงเดี่ยวของตัวเอง วูกลับสนใจโปรเจกต์ถ่ายภาพ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่สุดสำหรับเขา

เมื่อดูไกลๆ เราอาจเห็นว่าภาพถ่ายของเขาเป็นเหมือนภาพถ่ายสายฟ้าฟาดที่ผ่าลงมาใจกลางฉากธรรมชาติ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ จะสังเกตว่าลำแสงนั้นเป็นลำแสงเส้นตรงที่ไม่ได้บิดเบี้ยวเหมือนสายฟ้า ซึ่งลำแสงนี้เป็นการใช้เทคนิคของวูที่เขาใช้เครื่องโดรนในการขับเคลื่อนแสงให้เป็นไปตามที่เขาคิด ภาพที่ออกมาจึงดูเหมือนกับลำแสงจากต่างดาวที่พุ่งเข้ามาบนโลก
วูเคยมีผลงานในปี 2018 เป็น Photo Book ชื่อ “Lux Noctis” ซึ่งอยู่ในคอลเลคชันงานแสดงของพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) อีกด้วย นอกจากนี้เขายังถ่ายรูปให้กับงานโฆษณาของ Apple, Audi และ Google รวมถึง Zedd ดีเจและโปรดิวเซอร์ทำดนตรี เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมาเขามีโปรเจกต์ใหญ่ที่ทำให้กับ National Geographic ในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพของสโตนเฮนจ์
วูเคยมีผลงานในปี 2018 เป็น Photo Book ชื่อ “Lux Noctis” ซึ่งอยู่ในคอลเลคชันงานแสดงของพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) อีกด้วย นอกจากนี้เขายังถ่ายรูปให้กับงานโฆษณาของ Apple, Audi และ Google รวมถึง Zedd ดีเจและโปรดิวเซอร์ทำดนตรี เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมาเขามีโปรเจกต์ใหญ่ที่ทำให้กับ National Geographic ในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพของสโตนเฮนจ์

“ผมไม่เคยคิดฝันถึงจุดที่ผมกำลังยืนอยู่ตอนนี้เลย ผมแค่อยากหาเงินจากการทำงานศิลปะและจากการถ่ายภาพ” วู กล่าว
ส่วนตัวแล้ววูมีความหลงใหลในธรรมชาติ และพื้นที่อ้างว้างที่เขารู้สึกว่ามันโดดเดี่ยวดี ครอบครัวของเขาย้ายถิ่นฐานมาจากฮ่องกงมาอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรก่อนที่เขาจะเกิด เขาเติบโตในฐานะเด็กอินโทรเวิร์ทในเมืองลิเวอร์พูล โดยตัวเขาไม่ค่อยชอบโรงเรียนที่นั่นมากนัก วูยังมีความชื่นชอบเกี่ยวกับภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอย่างหนังของ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) เรื่อง “Close Encounters of the Third Kind”
ส่วนตัวแล้ววูมีความหลงใหลในธรรมชาติ และพื้นที่อ้างว้างที่เขารู้สึกว่ามันโดดเดี่ยวดี ครอบครัวของเขาย้ายถิ่นฐานมาจากฮ่องกงมาอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรก่อนที่เขาจะเกิด เขาเติบโตในฐานะเด็กอินโทรเวิร์ทในเมืองลิเวอร์พูล โดยตัวเขาไม่ค่อยชอบโรงเรียนที่นั่นมากนัก วูยังมีความชื่นชอบเกี่ยวกับภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอย่างหนังของ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) เรื่อง “Close Encounters of the Third Kind”

ในอนาคต วูยังคงมีแผนในการทำโปรเจกต์ของเขาต่อไป และอาจทำการทดลองกับงานเขาอีกด้วย แต่ไม่ว่าเขาจะทำงานกับสื่อไหน วิสัยทัศน์และแนวคิดของวูยังคงพิเศษเหมือนเดิมอย่างที่ผู้คนรอบข้างรู้สึกตอนที่เห็นงานของเขาเป็นครั้งแรก
“หลายคนชอบบอกผมว่างานของผมดูต่างดาวดี นี่คือคำแรกที่พวกเขาคิดตอนที่เห็นงานผม แต่ผมไม่ได้พยายามจะสร้างภาพให้เหมือนต่างดาว ผมพยายามแสดงให้เห็นว่านี่แหละของดาวของเรา และมันมีอยู่หลายวิธีในการมองเพื่อสร้างมุมมองใหม่ๆ อยู่เสมอ” วู อธิบาย
“หลายคนชอบบอกผมว่างานของผมดูต่างดาวดี นี่คือคำแรกที่พวกเขาคิดตอนที่เห็นงานผม แต่ผมไม่ได้พยายามจะสร้างภาพให้เหมือนต่างดาว ผมพยายามแสดงให้เห็นว่านี่แหละของดาวของเรา และมันมีอยู่หลายวิธีในการมองเพื่อสร้างมุมมองใหม่ๆ อยู่เสมอ” วู อธิบาย