[Space Song] Quarantine at El Ganzo อัลบั้มเพลงอารมณ์ดีในช่วงการกักตัวของ Erlend Øye

26 ม.ค. 2566 - 07:23

  • Quarantine at El Ganzo อัลบั้มเพลงที่เกิดจากการรวมตัวอีกครั้งของ Erlend Øye และสมาชิกวง The Whitest Boy Alive หลังจากห่างหายไปนานถึง 10 ปี พร้อมกับตอกย้ำให้เรารู้ว่าชีวิตยังมีความหวัง

space-song-quarantine-at-el-ganzo-SPACEBAR-Thumbnail
หนุ่มร่างสูงผมลอนในแว่นทรงกลมเป็นภาพจำง่ายๆ ของ อาแลนด์ เออเย (Erlend Øye) หนึ่งในสมาชิกวง Kings of Convenience คู่กับ ไอริก กลัมเบก เบอ (Eirik Glambek Bøe) สองคู่หูนักดนตรีเจ้าแห่งเพลงสายชิว ด้วยเสียงกีตาร์อะคูสติกสองตัว กับเสียงร้องประสานเสียงที่อ่อนนุ่ม เออเยเป็นศิลปินที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยแรงบันดาลใจในการทำเพลงที่เต็มเปี่ยมทำเขาต้องกระโดดไปทำโปรเจกต์อยู่หลายอย่าง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5I7c5Yr7dJdzj4EZIQZ36q/6bc0cc1e602a087673d772057cc5bfb7/space-song-quarantine-at-el-ganzo-SPACEBAR-Photo01
ทุกคนอาจรู้จักเขาในฐานะหนึ่งในสมาชิกวงดนตรี Kings of Convenience แต่บางคนอาจรู้จักเขาในฐานะนักร้องนำวง The Whitest Boy Alive ที่เคยมาเยือนเมืองไทยเมื่อ 12 ปีก่อน (ปี 2011) คอนเสิร์ตครั้งแรกในไทยที่จัดโดย SPICYDISC ณ Moonstar Studio วง The Whitest Boy Alive เป็นโปรเจกต์การทำวงดนตรีที่แปลกแหวกแนวไปจากความชิวที่เคยมีไว้ใน Kings of Conveniences ด้วยจังหวะเพลง เสียงเบสที่มีเสน่ห์ และเสียงคีย์บอร์ดที่น่าสนใจ ทำให้วง The Whitest Boy Alive เป็นหนึ่้งในวงดนตรีเพลงแนวอินดี้ที่น่าจับตามองในยุคนั้น
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5SoTX8q3iWo8roB840DHa8/8ff61c9d89a68e7a6b5ee35c418f64e3/space-song-quarantine-at-el-ganzo-SPACEBAR-Photo02
น่าเสียดายที่เออเยไม่ได้กลับไปขลุกกับวง The Whitest Boy Alive นับตั้งแต่ปี 2014 และเพลงล่าสุดที่ทำด้วยกันก็มีเพียงเพลงเดียวคือ “Serious” ในปี 2020 ซึ่งเป็นการกลับมารวมตัวกันทำเพลงหลังจากหายไปนานถึง 10 ปี สมาชิกวงได้กลับมาอีกครั้ง และถูกชักชวนให้ไปเล่นกันในงานเทศกาลในประเทศเม็กซิโก สมาชิกที่ตอนนั้นต่างพากันอยู่คนละทิศคนละทางในช่วงหน้าหนาว ต่างพากันมายังประเทศเม็กซิโกในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในเดือนมีนาคม แต่แล้วงานเทศกาลกลับถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 
 
สมาชิกทุกหวังจะเดินทางกลับบ้าน ทว่าเที่ยวบินกลับของเขาก็ถูกยกเลิกเช่นกัน ทั้งวงจึงเกิดไอเดียทำเพลงกันเล่นๆ ในโรงแรมเอลกานโซ่ (El Ganzo) ในเมืองซานโฆเซเดลคาโบ แต่ด้วยมาตรการการเดินทางของรัฐบาฮากาลิฟอร์เนียซูร์ทำให้ มาร์ซิน เออซ (Marcin Öz) และดาเนียล เนนทวิก (Daniel Nentwig) สมาชิกของวงไม่สามารถเดินทางมาร่วมอัดเพลงได้ เหลือแต่เพียง เซบาสเตียน มาสแชต (Sebastian Maschat) มือกลองของวง และเออเย เท่านั้นที่อยู่ทำเพลงที่โรงแรม
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1A9NskzU4lldMy4pRWdMZZ/82cadf7fbc9a83432ccc75c589771d8c/space-song-quarantine-at-el-ganzo-SPACEBAR-Photo03
เออซ และเนนทวิก ตัดสินใจเดินทางกลับยุโรป ส่วนมาสแชต และเออเย คอยจัดการเรื่องกระบวนการการอัดเสียงแยก โดยต้องการให้เออซ และเนนทวิก อัดเสียงส่วนดนตรีแยกตังหากจากเมืองที่พวกเขาอยู่ เพลงบางเพลงเป็นเพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งแต่ง บางเพลงเป็นเพลงที่เคยเขียนทิ้งบนหิ้งไว้เมื่อปี 2014 ก่อนวงจะแยกทางกัน  
 
อัลบั้มเพลงถูกตั้งชื่อว่า “Quarantine at El Ganza” ตามสถานการณ์ที่ทั้งวงได้ประสบกันจริงๆ อัลบั้มปล่อยในวันที่ 31 กรกฎาคม 2020 ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกต่างดิ้นรนกับการกักตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ก่อนการปล่อยอัลบั้ม ค่ายเพลง Bubble Records ปล่อยเพลงหนึ่งออกมาในชื่อ “Quarantime” และเรียกรอยยิ้มจากคนทั่วโลกด้วยมิวสิกวิดีโอที่สร้างขึ้นจากฟุตเทจทั้ง 880 คลิปจากแฟนเพลงที่ตั้งใจถ่ายทอดชีวิตระหว่างการกักตัว
Quarantine at El Ganza ประกอบด้วยเพลงทั้งหมด 14 เพลง บางเพลงมีเนื้อหาหยิบจากสิ่งที่ผู้คนได้รับระหว่างการกักตัวในช่วงโควิด แต่โดยรวมแล้วเพลงมีจังหวะที่สนุกสนาน เหมือนคอยเชียร์ให้ผู้ฟังมีกำลังใจในชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะเพลง “Distant Lover” พูดถึงความรักที่ห่างไกลกับการรอคอยคนรักด้วยใจที่โหยหา 
 
แม้ว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะเบาบางลง หรือจะหนักขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่เราขาดไม่ได้คือกำลังใจชีวิต และศรัทธาหวังว่าโลกนี้จะดีขึ้นในไม่ช้า ถึงตัวเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย แต่สิ่งที่เราทำได้คือการทำให้ตัวเองสุขภาพดี อย่างน้อยเพื่อต่อสู้กับโลกหรือประเทศที่อับเฉา  
 
ว่าแล้วก็อย่าลืมฟังเพลงจากอัลบั้ม Quarantine at El Ganzo บน Spotify หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิงอื่นๆ และอย่าลืมที่จะมีความสุขในทุกๆ วันด้วยนะ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์