จบลงแล้ว สำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินไอดอล Gen2 ระดับตำนานอย่างสองหนุ่มจากวง ‘TVXQ!’ (ดงบังชินกิ) ‘ยูโนว์ ยุนโฮ‘ (U-Know Yunho) และ ’แม็กซ์ ชางมิน’ (MAX Changmin) ที่มาทักทายแฟนๆ ชาวไทยด้วยคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ฉลองครบรอบ 20 ปี กับงาน ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ยูเนี่ยน ฮออล์ 2
บรรยากาศของงานเรียกได้ว่าคึกคักมากๆ เพราะเหล่า ‘แคสสิโอเปีย’ (Cassiopeia) ชาวไทยได้ตบเท้ามาร่วมงานคอนเสิร์ตกันตั้งแต่แฟนคลับรุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน อุ่นหนาฝาคั่งสุดๆ

เปิดคอนเสิร์ตมาก็ปังเวอร์ กับเพลง ‘Rising Sun’ ในตำนาน เพียงแค่อินโทรจังหวะเพลงขึ้น พื้นก็สะเทือนไปด้วยเสียงกรี๊ดของแฟนๆ อปป้าทั้งสองคนก็หล่อมากเวอร์กับชุดสีดำปักเลื่่อมสีทองเล่นแสงสุดๆ สะใจมากๆ ที่ได้ฟังแม็กซ์ ชางมินไฮโน้ตคำว่า ’Rising Sun’ สดๆ เป็นบุญหูสุดๆ แล้วจริงๆ
มาต่อกับเพลง ‘Jungle’ เพลงบีทหนักๆ เน้นท่าเต้น ที่อปป้าทั้งสองคนทำการแสดงได้ไหลลื่นสุดๆ แถมในช่วงเวิร์สที่ 2 ของเพลงทั้งคู่ได้เดินมาทำการแสดงที่สเตจรอง และเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยสเตจที่ยกขึ้น พร้อมกับแสงเลเซอร์ที่สาดมาแบบปืนกล เรียกได้ว่าอลังการตามากจริงๆ
ยังอยู่กันที่สเตจกลาง ทั้งคู่รันการแสดงต่อกับเพลง ’The Chance of Love’ เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำเอาแฟนๆ พากันตื่นตา ด้วยฮอลล์คอนเสิร์ตในครั้งนี้มีขนาดกำลังพอเหมาะทำให้ทุกส่วนของงานมองเห็นได้อย่างชัดเจน ่ความพีคอยู่ที่โซนบัตรยืนสามารถมองเห็นได้แบบเต็มตา ใกล้ชิดสุดๆ การแสดงวันนี้จึงตราตรึงใจแฟนๆ มากจริงๆ

พักชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ ในระหว่างช่วงพักการแสดง ทาง SM True ก็ได้จัดคลิป VCR คอนเซปต์ของคอนเสิร์ตในครั้งนี้มาให้ทุกคนได้ดำดิ่งไปกับการแสดงของทั้งคู่ด้วย และกลับมาอีกครั้งกับเพลง ‘Devil’ เพลงบีทหนักๆ อีกเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลักแต่ท่าเต้นก็ไม่แพ้ใคร เพราะเป็นเพลงโซโล่ของ ‘แม็กซ์ ชางมิน‘ นั่นเอง เขามาในชุดสูทสีม่วงปักเลื่อมสีดำ พร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีดำให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา
เข้าสู่เพลงวงอีกครั้ง กับเพลง ’Wrong Number’ ซึ่งหลังจากที่พักเบรกการแสดงไป เพลงนี้นับว่าเป็นเพลงแรกที่ ‘ยูโนว์ ยุนโฮ‘ ได้ปรากฏตัวบนสเตจ เขามาในชุดคล้ายกับ ’แม็กซ์ ชางมิน‘ แต่เป็นโทนสีกรมท่า และเสื้อเชิ้ตด้านในสีขาว ดูเป็นทางการสุดๆ
ยังต่อเนื่องกับเพลงช้าเน้นบีทหนักๆ กับเพลง ’Down’ นับว่าเป็นเพลงที่ 6 ของการแสดงในครั้งนี้ โดยยังไม่มีการทักทายแฟนๆ แต่อย่างใด พิสูจน์ให้เห็นว่า ตำนานก็คือตำนาน อายุวง 20 ปี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหนื่อยง่ายแต่อย่างใด เพราะสองอปป้าจัดเต็มทุกการแสดง ผ่านมา 6 เพลงแล้วยังไร้อาการหอบเหนื่อย และจัดเต็มทุกท่วงท่าเต้นรวมถึงไฮโน้ต
และแล้วก็ได้เวลาทักทายแฟนๆ ทั้งสองหนุ่มได้กล่าวสวัสดีแฟนๆ และแนะนำตัวเป็นภาษาไทย เรียกว่าได้ใจแฟนๆ ชาวไทยกันไปสุดๆ และยังได้บอกคิดถึงแฟนไทยที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด รวมถึงบอกเล่าเรื่องที่ได้นั่งรถตุ๊กตุ๊กตอนมาไทยของพี่ยุนโฮ และยังมีแฟนๆ ไปเที่ยวเกาะพีพีด้วยถึงแม้ว่าจะมาเที่ยวส่วนตัวก็ตาม เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นมากๆ นอกจากเรื่องราวขำๆ เกี่ยวกับประเทศไทยแล้วก็ได้พูดถึงอัลบั้มใหม่และเพลงใหม่ที่ปล่อยออกมา และการแสดง 6 เพลงที่ผ่านมาของคอนเสิร์ตด้วย
พูดคุยกันไปพอหอมปากหอมคอก็เข้าสู่การแสดงถัดไป กับเพลง ‘Rodeo’ เพลงแนวตะวันตกที่ทั้งคู่ได้สลัดเสื้อสูทตัวนอกออก และมีพร็อพเพิ่มเติมเป็นหมวกปีกกว้างแทน ส่วนท่าเต้นและเสียงร้อง - แรปยังคงจัดเต็มอยู่เช่นเดิม
สาดความสนุกกันต่อกับเพลง ‘Keep Your Head Down’ ที่เปลี่ยนทั้งฮอลล์เป็นสีส้ม อลังการด้วยลวดลายเลเซอร์ที่ยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง จากสีส้มเป็นสีม่วง เมื่อเข้าสู่เพลง ‘Purple Line’ มาพร้อมแฟนชานจ์ดังสนั่นของแฟนๆ เรียกได้ว่าเป็นความเหนียวแน่นระหว่างศิลปินและแฟนๆ อย่างแท้จริง

เข้าสู่ช่วงพักชมสิ่งที่น่าสนใจอีกครั้งเป็น VCR ต่อเนื่องจากคลิปแรก ก่อนจะเข้าสู่เพลง ‘Vuja De’ เพลงโซโล่ของ ‘ยูโนว์ ยุนโฮ’ ที่เขาได้เปลี่ยนชุดเป็นเชิ้ตขาวตัวเดิมแต่กางเกงเปลี่ยนเป็นสีดำปักเลื่อม และสวมทับด้วยเสื้อแจกเก็ตสีดำปักเลื่อมเช่นกัน
จบเพลงเดี่ยวมาต่อด้วยเพลงวงอีกครั้งกับเพลง ’Something’ เพลงแจ๊สสนุกๆ ที่มาพร้อมขาไมค์หัวกลมเป็นพร็อพเท่ๆ ’ยูโนว์ ยุนโฮ‘ สลัดเสื้อแจ็กเก็ตตัวนอกออกแล้ว แต่ทางด้าน ’แม็กซ์ ชางมิน’ ได้มาในลุคเสื้อเชิ้ตลายกราฟิตี้สีเทาเข้มกับกางเกงขายาวสีขาว สลับลุคกับ ’ยูโนว์ ยุนโฮ’ แต่ก็หล่อทั้งคู่เลยแม่
จบเพลงนั้นมาต่อเพลงนี้ เพลงที่ทั้งคู่หยิบแจ็กเก็ตมาใส่อีกครั้ง ซึ่ง ’ยูโนว์ ยุนโฮ‘ ได้หยิบสีดำตัวเดิมมาสวม ในขณะที่ ’แม็กซ์ ชางมิน’ ได้คว้าเสื้อแจ็กเก็ตสีชมพูบานเย็น บอกเลยว่าหล่อมาก!!! ทั้งคู่ได้ทำการแสดงเพลง ’Life’s A Dance’ เพลงจังหวะสนุกๆ ชวนเต้นสุดๆ ที่ดูเหมือนจะมีอารมณ์ร่วมค้างมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสองหนุ่มเลยชวนแฟนๆ เข้าสู่ช่วงอวดทีมแดนเซอร์กับช่วง ‘Dance Challenge’ กันต่อเลย สร้างสีสันความสนุกในงานสุดๆ และเหมือนเป็นการแนะนำทีมแดนเซอร์ไปในตัวด้วย

มาต่อกับเพลง ‘The Way U Are’ (Unplugged Ver.) เพลงช้าๆ ที่มาพร้อมขาไมค์ ทั้งคู่ได้แอบหนีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง เป็นชุดหล่อเท่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวและสแลคสีดำที่ดูเรียบหรูแต่ดูหล่อแพงสุดๆ และฟังเพลงต่อเนื่องกับเพลง ‘I’ll Be There’, เพลง ’I Wanna Hold You’ และเพลง ’I Believe’ สามเพลงช้าๆ ซึ้งๆ ที่แฟนๆ พากันทำโปรเจ็กต์ที่ 1 ด้วยกับการปิดแท่งไฟและเปิดแฟลชแทน พร้อมพากันโบกสะบัดคลอไปกับเพลงสุดๆ ทั้งฮอลล์สว่างไสวไปด้วยแสงแฟลชจากแฟนๆ เมื่อลองมองไปด้านหลังของฮอลล์คอนเสิร์ต บอกเลยว่าสวยมากจริงๆ
เข้าสู่ช่วงทอล์คอีกครั้ง ทั้งคู่ได้พูดถึงทั้ง 10 เพลงที่ผ่านมา และความมุ่งมั่นใหม่ๆ ในฐานะวง ‘TVXQ!’ ที่ปีนี้มีอายุ 21 ปี ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว (เทียบจากอายุของคนในวัย 21 ปีเกาหลีคือคนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว) และสัญญาอีกว่า จะหาโอกาสมาหาแคสสิโอเปียไทยที่อยู่เคียงข้างพวกเขามาเสมอ

พวกเขาได้หยิบเพลงเดบิวต์ ที่ไม่ว่าแฟนๆ คนไหนก็ต้องรู้จักกับเพลง ‘Hug’ ซึ่งก่อนเริ่มเพลงได้มีคลิปวิดีโอพาแฟนๆ ย้อนเวลาไป 20 ปีก่อนด้วย ซึ่งเมื่อเพลงขึ้น ทั้งสองหนุ่มได้ออกมาพร้อมกับที่คาดผมหูแมวสีขาวน่ารักสุดๆ และในเพลงนี้เสียงร้องของแฟนๆ ก็ดังพอๆ กับเสียงของอปป้าทั้งสองคนด้วย
มาต่อกับเพลงแมชอัปในเพลง ’Drive’ และเพลง ’Crazy Love’ ที่พาย้อนวัยสุดๆ กับรถของเล่นที่ทั้งคู่ขับได้จริงและขับวนไปทั่วสเตจ แถมที่รถยังมีกล้องถ่ายทอดสดขึ้นจอมอนิเตอร์ข้างสเตจด้วย น่ารักมาก!! อายุ(วง) 21 ปี ก็ยังถือว่ายังเป็นเด็กอยู่แหละ เนอะๆ แถมยังลงมาหาแฟนๆ ถึงพื้นกราวนด์ เดินไปทั่วงานคอนเสิร์ตเลยอปป้า
ก่อนจะกลับขึ้นไปบนสเตจอีกครั้ง มาในลุคน่ารักๆ แบบนี้ คงหนีไปพ้นเพลงน่ารักสนุกๆ อย่างเพลง ’Balloons’ เพลงที่ยังคงติดอยู่ในหัวใจแฟนๆ จำนวนมาก กับจังหวะน่ารักๆ และร้องตามได้ง่ายๆ และทั้งคู่ยังคงแสดงความซนอย่างต่อเนื่อง น่าหยิกจริงๆ

เพราะความน่ารักของอปป้าที่อยากใกล้ชิดแฟนๆ มากๆ ทำให้แฟนๆ ที่กำลังตื่นเต้นในโซนบัตรนั่งจำนวนมากลุกยืนและวิ่งไปกองกันที่ขอบคอนเสิร์ตหมด และเมื่ออปป้าขึ้นสเตจไปแล้ว แฟนๆ ที่วิ่งเมื่อครู่ก็ยิ่งติดลมไม่ยอมนั่งพานทำให้แฟนๆ ที่นั่งอยู่ต้องสะกิดกันให้นั่งลง จบเพลง ‘Balloons’ ก็มีคลิปสัมภาษณ์ทั้งสองขึ้น เป็นการสัมภาษณ์เกี่ยวกับความตื่นเต้นที่ได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 5 ปี ที่ตัดคลิปสลับกับเบื้องหลังการซ้อมการแสดงของทั้งคู่ด้วย
เข้าสู่การแสดงอีกหนึ่งเพลงในตำนานของทั้งคู่ กับเพลง ‘Mirotic’ เพลงที่ถูกยกให้เป็นเพลงที่เหล่าไอดอลเจนฯ ใหม่ หยิบมาทำคัฟเวอร์แดนเซอร์เยอะที่สุด ซึ่งความน่าประทับใจของเพลงนี้คือเสียงแฟนชานจ์ของแฟนๆ ที่ทั้งดังและหนักแน่นมากๆ และมาต่อกับเพลง ‘Rebel’ เพลงในอัลบั้มล่าสุด กับการแสดงที่หนักแน่น และแข็งแรงสุดๆ เป็นการแสดงครั้งแรกในประเทศไทยสำหรับเพลงนี้ด้วย
เข้าสู่ช่วงพักเบรกอีกครั้งกับคลิปวิดีโอน่ารักๆ ในรอบนี้ ได้ทำมาเป็นคลิปวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย สำหรับ ‘Cassiopeia Introduction’ ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยากอัปเดตอะไรให้แฟนๆ ได้รู้ ซึ่งได้รับทั้งเสียงกรี๊ด เสียงหัวเราะ และเสียงปรบมือจากแฟนๆ กระหึ่มฮอลล์เลยทีเดียว

จบพาร์ทวิดีโอก็เข้าสู่ช่วงร้องเพลงอีกครั้ง กับเพลง ‘Love In The Ice’ เพลงช้าๆ ชวนหูเคลือบทอง ที่มาในลุคสบายๆ กับเชิ้ตสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ ถึงแม้จะมาในลุคสบายๆ แต่ความหล่อยังคงเกาะแน่นจัดเต็มพิสูจน์ได้จากในภาพ!
เพลงสุดท้ายก่อนเข้าช่วงเอนคอร์ สองหนุ่มได้หยิบเพลง ’Thanks to’ มาทำการแสดงเพื่อขอบคุณแฟนๆ ที่รอคอยและอยู่ด้วยกันมาเข้าปีที่ 21 แล้ว ซึ่งแฟนๆ ก็ได้ทำโปรเจ็กต์ที่ 2 ให้ด้วย กับการชูป้ายแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า “난 아직도 널 처음 본 날처럼 빛나는 별” ซึ่งแปลว่า “ฉันยังคงเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างให้คุณเหมือนวันแรกที่ได้เจอกัน” เป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจสุดๆ

เข้าสู่ช่วงทอล์คในพาร์ทอังกอร์ ที่หนุ่มๆ ได้ให้คำสัญญากับอนาคตข้างหน้าที่จะดียิ่งขึ้นไป รวมทั้งกล่าวคำในใจที่มีต่อแคสสิโอเปียทุกคน
สามเพลงสุดท้ายนี้ ประกอบด้วย ‘Always with You’ ที่ทั้งคู่ได้เดินลงมาหาแฟนๆ ถึงพื้นกราวนด์อีกครั้ง เดินอ้อมไปทั่วทั้งฮอลล์จริงๆ มาต่อด้วยเพลงแมชอัประหว่างเพลง ’I Wish’ และ ’You’re My Miracle’ ที่สเตจรอง ซึ่งยกขึ้นสูงด้วยระบบไฮโดรลิก เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นการแสดงกันแบบชัดๆ ความพิเศษคือทั้งสองหนุ่มได้ร่อนจานบินพร้อมลายเซ็นให้แฟนๆ ด้วย คึกคักสุดๆ ก่อนที่ไฟจะปิดลง
และปิดท้ายการแสดงของคอนเสิร์ตด้วยเพลง ’Catch Me’ กับเพลงสนุกส่งท้ายที่เพิ่มความเร็วของจังหวะขึ้นนิดนึงทำเอาทั้งฮอลล์พากันโยกย้ายส่ายสะบัดกันสุดฤทธิ์ด้วยความเสียดายที่ความสนุกกำลังจะจบลงแล้ว นับว่าเป็นอีกคอนเสิร์ตที่พาทุกคนย้อนกลับไปช่วง 20 ปีได้อย่างสนุกสนานที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความคิดถึงที่แท้จริง และในครั้งหน้า Spacebar VIBE จะไปเยือนคอนเสิร์ตไหน ของศิลปินท่านใด และจะสนุกขนาดไหน โปรดกดปุ่มติดตามเพจ Spacebar VIBE ไว้นะ แล้วจะไม่พลาดแน่นอน!!