คุณเป็น ‘คอหนัง’ หรือ ‘หนอนหนังสือ’?
บางคนอาจต้องคิดนาน บางคนอาจตอบได้อย่างรวดเร็ว และบางคนอาจเป็นทั้งสองอย่าง...แต่เคยสงสัยไหมว่าอะไรที่ทำให้บางคนชอบดูหนังมากกว่าอ่านหนังสือ ในขณะที่นักอ่านหลายคนต่างบอกว่าหนังสือสนุกและละเอียดกว่าหนังเยอะ
แน่นอนว่าหนังสือให้หลายๆ อย่างที่หนังให้ไม่ได้ แต่หนังก็มีจุดเด่นของมันเช่นกัน วันนี้เราขอชวนมาเจาะข้อดีของการดูหนังที่ทำให้หลายคนติดอกติดใจ
1. หนังสั้น กระชับ ดูได้หลายรอบ
เราคงอ่านหนังสือเล่มหนาวันละ 2 จบไม่ได้ แต่เราดูหนังเรื่องนั้นวันละ 2 รอบได้ ข้อดีอย่างหนึ่งของการถูกตัดตอนและรวบรัดเนื้อหาคือเราดื่มด่ำกับเรื่องราวนั้นๆ ได้บ่อยกว่า โดยที่รายละเอียดหลายอย่างก็แฝงไว้ในฉากได้อย่างแยบยล แม้จะดูหลายรอบก็ยังสนุกและได้เห็นอะไรที่มองข้ามไป2. ดูกับคนอื่น สนุกครึกครื้น
การดูหนังเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อนหรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าได้ แต่การอ่านหนังสือต้องใช้ความจดจ่อ และหลายครั้งก็เหมาะกับวันที่อยู่คนเดียว หรือตอนที่มีเวลาส่วนตัว สำหรับคนที่อยากชวนเพื่อนมานั่งเฮฮา หาอะไรบันเทิงทำที่บ้าน หรือพูดคุยถึงฉากต่างๆ ไปจนถึงการตีความของผู้กำกับ การดูหนังจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า3. ตรงไปตรงมา ไม่ยืดย้วย
ขณะที่บางคนชอบคำสลวย ละเมียดละไมในหนังสือ บางคนก็ชอบประโยคเด็ดที่สั้น ครบ จบทุกประเด็นสำคัญ ซึ่งหลายครั้งการตีความสารที่ผู้เขียนจะสื่อออกมาเป็นประโยคใหม่ในหนังก็น่าประทับใจ และถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเหมือนกัน นอกจากนี้ยังทำให้ดำเนินเรื่องได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ชอบความกระชับฉับไว4. วิชวลชัด ติดตา ติดใจ
ด้วยความที่ภาพและฉากในหนังผ่านกระบวนการคิดและถ่ายทำออกมา คนดูจึงไม่ต้องจินตนาการเองเหมือนเวลาอ่านหนังสือ ซึ่งนี่เป็นข้อดีสำหรับคนที่ไม่ได้ชอบจินตนาการ แต่ตื่นเต้นที่ได้เห็นการตีความและจินตนาการจากคนอื่นๆ นอกจากนี้หลายครั้งวิชวลในหนังก็กลายเป็นภาพจำที่ทำให้คนจดจำเรื่องนั้นได้ขึ้นใจ เรียกว่าเป็นการตีความที่คนรับรู้ร่วมกันจนกลายเป็นสัญลักษณ์ไปเลย5. ส่งสารให้คนดูได้เร็วกว่า
หนังที่ดูจบได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงทำให้คนรับรู้สารที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อได้เร็วกว่าหนังสือที่บางครั้งใช้เวลาอ่านเป็นสัปดาห์หรือเดือน แม้ว่าหนังสือจะบรรยายรายละเอียดได้ลึกกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนจำนวนไม่น้อยได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจจากหนังความยาวไม่ถึง 2 ชั่วโมง ด้วยภาพ เสียง และข้อความที่ช่วยกันสื่อสารได้อย่างทรงพลังสุดท้ายแล้วเราล้วนมีความชอบและวิธีเสพสื่อตามจริตของตัวเองที่ต่างกันไป แต่พอรู้แบบนี้แล้วเราก็น่าจะเข้าใจคอหนังมากขึ้นอีกนิด ขอให้ทุกคนมีความสุขกับเรื่องที่ชอบในแบบที่ถูกใจกันนะ