พูดคุยกับ พัด และมิน Zweed n’ Roll 10 ปี ยังคงเป็น ‘ตัวเอง’ เหมือนเดิม

28 มิ.ย. 2566 - 09:11

  • พูดคุยกับ พัด และมิน แห่งวง Zweed n’ Roll กับความเปลี่ยนแปลงของวงตลอด 10 ปี ที่ยังคงหนักแน่นในความเป็นตัวเอง ไม่มีกรอบมาตี ถือว่าทั้งหมดเป็นเพียงการเริ่มต้นสู่ความฝัน

zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Thumbnail
Zweed n’ Roll วงดนตรีอัลเทอเนทีฟไทยขวัญใจคนเศร้า ปล่อยเพลงใหม่ในชื่อ ‘วางไว้’ เมื่อไม่นานมานี้ หากนับจากวันที่เริ่มวงก็ผ่านมาแล้วกว่า 11 ปี จากวงดนตรีไทยวงเล็กๆ ที่เล่นประจำให้กับร้าน Play Yard สู่หนึ่งในวงดนตรีไทยที่ประสบความสำเร็จถึงขั้นจัดแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง อีกทั้งได้เดินทางไปเล่นไกลถึงประเทศญี่ปุ่น 
 
เราจะมาพูดคุยกับ พัด-สุทธิภัทร สุทธิวาณิช นักร้องนำ และ มิน-ณัฐกร ศิลวัฒน์ มือกีตาร์ เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาตลอด 10 ปีในฐานะนักดนตรี ความฝันและเป้าหมาย ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นหลังจากเดินทางไปเล่นดนตรีที่ประเทศไต้หวันเมื่อต้นปี 2023 และความเป็นไปได้ของอัลบั้มชุดที่สาม

Zweed n' Roll : Taiwan Tour 2023 

เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากไต้หวัน เป็นยังไงบ้าง  

พัด: ก็สนุกดีค่ะ ตื่นเต้น และก็คนดูที่นั่นก็เขาตั้งใจดูกัน อันนี้ถือเป็นทัวร์ครั้งที่สองค่ะ ครั้งแรกเคยไปที่ญี่ปุ่น  

ทัวร์นี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง  

พัด: มันน่าจะเป็นซีซั่นของแต่ละประเทศในเอเชียมั้งคะ ที่สามารถส่งวงไปแลกเปลี่ยนได้ เราไม่แน่ใจดีเทลลึกมาก  
  
มิน: มาจากทางจอห์นด้วยที่เราเคย เขาเคยชวนเราไปที่ญี่ปุ่น  
  
พัด: ใช่ๆ จอห์นคือคนไต้หวันที่เป็นเหมือนโปรโมเตอร์อะไรเงี้ยค่ะ เคยส่งวงไต้หวันมาเล่นที่ไทย และก็ให้เราไปเล่นที่ร้านนั้นด้วย  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1GGwvFKZGwOHpGdA96Bwja/db73e92c592838416305f657e51a03fd/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo01

รู้สึกยังไงบ้างตอนที่รู้ว่าได้ไปไต้หวัน  

พัด: ดีค่ะ ได้ไปเที่ยว ไม่เคยไปเลย นี่เป็นครั้งแรกเลย เราว่าสิ่งที่เราตั้งใจพรีเซ้นต์นั้นตามที่หวัง ครั้งนี้เราพาคนทำไฟไปคนนึง รู้สึกว่ามันมีส่วนช่วยในการโชว์ได้แบบเยอะมาก เพราะว่าคุยกับคนที่เป็นดีเจที่เขาไปดูที่นู่น เขาก็เหมือนสัมผัสได้ว่าเพลงที่เราตั้งใจที่จะแนะนำมันใช่ไหม เขาก็รู้สึกได้ผ่านไฟที่เกิดขึ้น โดยคนฟังก็เป็นคนไต้หวัน และคนไทยที่อยู่ในไต้หวัน  

Zweed n’ roll ผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว ยังรู้สึกว่ามันยังเหมือนเดิมไหมเทียบกับวันแรกๆ ที่ตั้งวง  

พัด: สำหรับเรา เราว่ามันไม่ต่างกันเท่าไหร่ แบบว่าเราไม่ได้เปลี่ยนตัวตนของเราไปขนาดนั้น การทำเพลงก็ยังเป็นเพลงที่เราชอบอยู่ เพียงแต่ว่าอาจมีบางมุมที่แบบทำให้คนอื่นได้รับรู้มากขึ้น สำหรับเราเนื้อเพลงอะไรที่ดูไม่ส่วนตัวมากไป ทำให้คนอื่นแบบ relate กับเขาได้  
  
มิน: ก็เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่มันมีมากขึ้นตามอายุ ตามที่เรายึดมั่นเป็นอาชีพ มันตามมาซึ่งความรับผิดชอบ ทุกคนก็โตขึ้นจริงๆ แหละ แต่ก็ยังสนุก ยังทำกันอยู่เหมือนเดิม  

เราคิดว่ามันมีอะไรที่ขาดเหลือไหม  

พัด: เราว่าการเดินทาง 10 ปีน่ะ มันดูเหมือนยาว แต่ภายใน 10 ปี เราแทบไม่ได้ทำอะไรเลบ มันเลยดูแบบมีอะไรให้เราทำได้อีกเยอะ เพราะว่าเอาจริงๆ มันเพิ่งจะมาสตาร์ทช่วงหลังๆ เอง  
  
มิน: เราได้เดินทางจริงในช่วง 3-4 ปีหลังเอง  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2dxRuturVCIgvziL3ZHLKI/a0663e3d50bbc33e87b810fd9f0223bd/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo02

Zweed n’ roll มีเป้าหมายมากกว่านี้ไหม  

พัด: หลักๆ สำหรับเราน่าจะเป็นเรื่องของการแบบเผยแพร่เพลงที่แบบว่าอะไรที่เราชอบให้มันกระจายไปในวงกว้างขึ้น โดยที่แบบเราไม่ต้องเปลี่ยนอะไร ทำให้อะไรแบบนี้มันคุ้นชินกับคนหมู่มากมากขึ้น ทั้งเรื่องเพลง เรื่องการแสดง perform อะไรก็แล้วแต่

แต่เราไม่คาดหวังให้เป็นดังกว่านี้? อย่างคอนเสิร์ตใหญ่อีกรอบ เป็นต้น  

พัด: ก็ถ้ามันทำอย่างนั้นได้ แสดงว่าเราต้องดัง (หัวเราะ) แต่ว่าเราต้องดังในแบบที่เราเป็นแหละ 
  
มิน: ส่วนตัวของเราเองคือ เราอยากมีเพลงออกมาเยอะๆ อยากมีงานดีๆ ออกมาเยอะๆ แค่นั้นเลยครับ และก็มันจะพาเราไปได้ไกลแค่ไหนก็ เดี๋ยวว่ากัน  

สมมติว่า priority หลักของวงไม่ใช่ดนตรี คิดว่าตอนนี้จะทำอะไรกัน 

พัด: ไม่เคยคิดเลยนะคะ 
  
มีน: ของเราน่าจะมีอย่างอื่น มีแบบเป็นธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองที่เราชอบ แบบว่าให้มันเป้นการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ ร้านกาแฟก็โอเคละ ส่วนตัวนะ แต่ว่าแต่ละคน (ในวง) น่าจะมีอะไรที่อยากทำแตกต่างกันไป 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3KHlQTizuTe4OJ9DlC2K0w/c3c0e79eab4b2d3bb9caf30f28d2ca70/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo03

พูดถึงเพลง ‘วางไว้’' ซึ่งฟังดูแตกต่างจากเพลงอื่นๆ ที่ทำมา ‘วางไว้’ มันฟังดูสดใสและมีความหวังมาก ตอนที่คิดทำเพลง ทางวงคิดยังไงถึงทำเพลงแนวนี้ขึ้นมา  

มิน: มันเป็นไดเรกชันของอัลบั้ม เราอยากนำเสนอมุมมองอย่างอื่นที่เราไม่ค่อยแสดงออกมา ก็คิดคอนเซปต์กัน คิดว่าสิ่งที่เราต้องการต้องเป็นอะไรที่เร็วหน่อยไหม ก็เลยเกิดขึ้น 
  
พัด: ใช่ๆ เพราะว่าเรายังไม่เพลงอะไรที่เร็วๆ แล้วสว่าง ส่วนใหญ่ก็จะแบบเร็วในทางแบบก้าวร้าว โวยวายหน่อย  

อันนี้เป็น hint แล้วว่าจะมีอัลบั้มที่ 3 เร็วๆ นี้  

พัด: ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ตีกรอบว่ามันจะต้องเป็นอะไร แค่เป็นอะไรที่เราไม่เคยทำ   

ตอนนี้คิดยังไงกับการที่วงดนตรีมันแบ่งเป็นสองอย่าง คือวงที่ทำเพลงแนวเดิมไปตลอด และวงดนตรีที่เปลี่ยนแนวไปตามกระแส แล้ววง Zweed n’ Roll จะเป็นแบบไหน  

พัด: ถ้าสำหรับตัววง เราว่าเราไม่เคยตั้งว่าเราจะเป็นอะไรเลยค่ะ ในหนึ่งอัลบั้ม เพลง 10 เพลง 12 เพลง ก็ไม่เหมือนกันสักเพลงเลย เราก็เลยไม่คิดว่าอยู่ที่เดิมคือดี หรือเปลี่ยนแปลงคือดี มันแล้วแต่ว่าแบบเราจะสื่อสารอะไร  
  
มิน: เราอยากนำเสนออะไรในตอนไหนมากกว่า  
   
พัด: คือเพลงไม่สามารถจำกัดความได้สำหรับเรา เพราะว่าเราชอบหลายแนวเยอะมาก และก็ไม่คิดว่าจะต้องอยู่กับแนวนี้แนวเดียว เราคิดว่ามันน่าจะสนุกกว่า 
  
มิน: เวลามีคนถามว่า Zweed n’ Roll เป็นแนวไหน เราก็จะตอบไปว่าเป็นอัลเทอร์เนทีฟ เราไม่อยากจำกัดความตัวเองเหมือนกัน มันยังมีโอกาสที่ได้ทำอะไรอีกเยอะ  
  
พัด: เราว่าศิลปินหลายๆ คนก็ไม่คิดหรอก มีแค่สื่อที่คิดให้เฉยๆ แปะป้ายให้ว่าคนนี้จะเป็นอะไร คนนี้จะเป็นอะไร  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1fO5HBgHxhiy3lwhzr2O1O/85d1b87214bcfecc78af4a5b3513c6ca/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo04

คิดยังไงกับวงการเพลงไทยตอนนี้บ้าง 10 ปีมาแล้ว  

พัด: เราว่ามันไม่ตรงจริตเราเท่าไหร่ เราว่ามันน่าเบื่อ เราว่าที่ผ่านมามันมีแต่คนที่เป็น bedroom ทำเพลงเองคนเดียวเยอะ เราชอบดนตรีที่แบบเป็นคนเล่นด้วยกัน มันมันกว่า ส่วนตัวเราเราแค่ไม่ชอบแบบนี้ เราว่ามันน่าเบื่อ ยิ่งเวลาเล่นสดเขาก็จะเล่นกับพวก MD ซึ่งทุกอย่างมันแข็งไปหมด ทุกอย่างมันเป๊ะเหลือเกิน 
  
มิน: ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างนึง พอคนสามารถมีสื่อในมือของตัวเอง มันก็ง่ายขึ้น เด็กๆ จะได้เริ่มทำ ก็ดีเหมือนกัน แต่อีกแง่นึงก็คือ ก็ต้องแข่งขันสูงเหมือนเดิม ไม่มีการลดน้อยลงเลย ต้องสู้  

กดดันไหมในการทำเพลงทุกวันนี้?  

พัด: ไม่เคยคิดแบบนั้นแต่แรกเลย เพราะตอนที่เราทำแต่แรก เราทำแบบไม่สนใจอะไร ใครจะชอบไม่ชอบ เราแค่พรีเซ้นต์ว่าเราชอบแบบนี้ และก็โยนไป ถ้ามีคนชอบเราก็ เออ ดี ได้ไปเล่น 
  
มิน: แต่ว่าพอโตขึ้น เราก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง และก็รู้สึกว่าความสุขอย่างนึงคือการได้มีส่วนร่วมกับคนฟังมากขึ้น เราก็หาช่องทางแค่นั้นเอง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2wNm9yhR9GHGiHVRkb2sb3/86569e54f061122e7637a273ac8c579e/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo05

ในฐานะวงเพลงไทย เราคาดหวังอะไรกับรัฐบาลชุดใหม่  

พัด: ถ้าสรุปย่อๆ เราว่าน่าจะเป็นเรื่องนายทุนค่ะที่ไม่อยากให้มันมีแค่ไม่มีกี่คน เพราะมันส่งผลกระทบเป็นทอดๆ เวลาเราแบบไปเล่นดนตรี บางทีเราไม่อยากเล่นร้านเหล้า แต่ว่าเราต้องไปเล่น เพราะว่านายทุนเป็นสปอนเซอร์ บางทีเราอยากเล่นที่ที่แบบ Live House งี้ แต่ว่า Live House ก็คนทำกันเอง กับรายได้เท่านี้ สถานที่เท่านี้ คนซื้อบัตรเท่านี้ ไม่พอจ่ายค่าวง ค่าเครื่องเสียงอะไรงี้ สุดท้ายคนที่จะเข้ามาครอบคลุมเลยมันก็คือสปอนเซอร์ นายทุนงี้ 
  
มิน: ของเราน่าจะเป็นเรื่องกว้างๆ มากกว่า เช่น เรื่องปากท้อง เพราะว่าสุดท้ายแล้ว การที่เขาจะมีกำลังออกมาเสพศิลปะอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งแบบอุดหนุนผลงานเรา ทั้งโชว์ ก็ต้องมีชีวิตที่ดีก่อนมันถึงจะมีความสุข  

ถ้าคิดว่าสังคมไทยเป็นเพลง Zweed n Roll คิดว่ามันจะเป็นเพลงแบบไหน  

พัด: คงแบบสโลว์ไลฟ์จัดอ่ะ (หัวเราะ) ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ชิวๆ น่าจะประมาณนี้  

คิดว่าเป็นสิ่งสูงสุดในชีวิตยังกับการดำเนินวงมานานขนาดนี้ ตรงตามฝันไหม  

พัด: มันก็มาเป็นแบบที่เราอยากได้นะ ก็มีความประสบความสำเร็จอยู่ประมาณนึง  
  
มิน: ก็เป็นภาพที่เราคิดไว้ตอนเด็กๆ เราฝันว่าแบบอยากขึ้นเวที มีคนร้องเพลงที่เราเขียน เป็นไปตามที่เราตั้งใจ มันก็ยังมีแก็ปอยู่ที่แบบขึ้นไปได้อีกเยอะ หลังๆ เราที่เราได้เล่นร่วมงานกับตำนาน เออ มันยังมีอะไรให้ไต่เต้าขึ้นไปอีก  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1iorm59aaCT31IV5BOiORC/c5d9a13d271b386ceed963241c6ace77/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo06

คิดว่าเราต้องเจออะไรอีกในขั้นต่อไป  

พัด: ต้องเจอคนเยอะแน่นอนค่ะ และก็น่าจะมีอะไรที่แบบเราไม่คาดคิด ออกจากเซฟโซนมากกว่านี้ แบบสังคมที่เราโตมา เพื่อนๆ ที่คุ้นหน้าค่าตา น่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ อาจจะขึ้นบนเวทีแล้วมีคนเอาปืนจ่อหัวมั้ง 
  
มิน: เอาแบบระดับนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) 
  
พัด: ยังไม่ขั้นนั้น อันนั้นแสดงว่าเราดังแล้ว (หัวเราะ)  

ถ้าอยากดังแบบนั้นต้องทำไง  

พัด: อันนี้ถ้าอยากให้ไปถึงจุดนั้น โดยที่แบบตามกระแส เราก็รู้ว่าจะต้องทำยังไง แต่เราไม่อยากทำอย่างนั้นอยู่ดี  
  
มิน: เหมือนปูน (มือกีตาร์อีกคน) เคยพูดว่า อยากให้ความแมสมันวิ่งมาชนเรามากกว่าการที่เราจะทำตัวเองให้แมส เราก็ยังทำอะไรที่ชอบแหละ แค่ให้คนส่วนใหญ่ชอบเหมือนเราด้วย น่าจะดีกว่า  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5k9GMCnLKG0yBPZsv9q7IE/5c4b5216bdc0b28faed8ee454b1f04b3/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo07

เดี๋ยวนี้เล่นตามงานเราเจอคนกลุุ่มไหนบ้าง  

พัด: หลากหลายนะ ถ้างานฟรีที่ไม่จำกัดอายุก้จะเป็นเด็กๆ มัธยมที่ไม่เคยเจอ ถ้าไปร้านเหล้าก็เด็กมหาลัย แต่ถ้าเล่นในกรุงเทพอ่ะ จะชอบเจอคนที่แบบวัยแบบ 30 ขึ้นไป 20 ปลายๆ  

รีแอคต่อวงเราเหมือนกันไหม เพราะแก็ปอายุมันประมาณนึง  

พัด: เราว่าเหมือนกันนะ เพราะเพลงเรามันแนวเดียวคือซึมๆ เขาก็ตั้งใจฟัง 
  
มิน: แล้วแต่โอกาส และสถานที่  
  
พัด: ร้านเหล้าก็จะโหวกเหวกหน่อย เพราะว่าแต่ละที่เราต้องจัด set list ว่าเป็นแบบไหนถึงเหมาะกับทีม และวง  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/sHM00K1OSax0dAKwmpsWN/766426593be898d92e45bb6fde9ac91e/zweed-n-roll-interview-new-song-SPACEBAR-Photo08

ตอนที่ Play Yard ปิดรู้สึกยังไง  

พัด: เคว้งๆ นะ ตอนแรกยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอมันปิดไป ไม่มีที่ให้ไปก็เหงาๆ  

อันนี้เคว้งเพราะปิด หรือเคว้งเพราะไม่มีที่ให้ไป  

พัด: ทั้งสองอย่าง (หัวเราะ)  
  
มิน: มันน่าเสียดาย ตอนที่ปิดวันสุดท้ายเราก็ยังอยู่นะ ตอนแบบปลดป้าย Play Yard เราก็ยังถ่ายคลิปไว้เลย อยู่จนถึงเช้าวันที่ร้านปิด   

อยากฝากอะไรให้กับแฟนๆ เพลงบ้าง  

พัด: ขอฝากเพลง วางไว้ ไว้ด้วยค่ะ คิดว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ฟังกันหลายๆ คนได้ ไม่ต้องฟังคนเดียวแล้วเหงาๆ คิดว่าหลายๆ คนน่าจะชอบค่ะ ฝากด้วยค่ะ เอนจอย 
  
มิน: ตอนนี้อะไรก็เหมือนจะค่อยๆ ดีขึ้น เพลงนี้ก็น่าจะเหมาะที่จะทให้มีความสุขกันได้ ก็ฝากด้วยครับ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์