“เก๋า” ไม่ใช่แค่ปลา พลพรรคสีน้ำเงินพาเหรดยึดสภาสูง

28 มิ.ย. 2567 - 07:59

  • เมื่อ“เก๋า” ไม่ใช่แค่ปลา พลพรรคสีน้ำเงินพาเหรดยึดสภาสูง เปิดเกม “ทำให้เด็กมันดู

  • ถอดรหัสเกมขยายฐานเสียงที่ซุ่มลึก สร้างเครือข่ายของ สีน้ำเงิน จนสามารถคว่ำ สีส้ม ล้มไม่เป็นท่า

  • สีน้ำเงินกับสีแดง เขารบกันจริงกี่เปอร์เซนต์ไม่มีใครรู้ดี แต่ถ้ารบกับสีส้มนั้น เขารบจริงจังเกิน 100% แน่นอน

spacebar สเปซบาร์, วุฒิสภา, สว., เลือก สว. 2567, สว. กลุ่มประชาธิปไตย, สว. กลุ่มสีน้ำเงิน

ทันทีที่รู้ผลการเลือกกันเองเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา #สว67 ที่ผ่านไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 มิถุนายน) จบลงอย่างไม่เป็นทางการ ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 มิถุนายน 2567 เสียงวิพากษ์ เสียงวิจารณ์ ก็กระหื่มไปทั่วทั้งสังคมไทย

บางกลุ่มใช้คำว่า พลิก...ฝั่งประชาธิปไตยแพ้ราบ

บางกลุ่มใช้คำว่า หักหลังสีแดง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ชวดตำแหน่ง สว.

บางกลุ่มก็ใช้คำว่า ชัยชนะของการจัดตั้งฝั่งสีน้ำเงิน

spacebar สเปซบาร์, วุฒิสภา, สว., เลือก สว. 2567, สมชาย วงศ์สวัสดิ์
Photo: สมชาย วงศ์สวัสดิ์

มีการนำประวัติของผู้ที่ได้รับคะแนนสูง และได้รับเลือกเข้ามาเป็น สว.มาเปิดเผย

บ้างก็หยิบประวัติขึ้นมาเยาะเย้ย

บ้างก็วิพากษ์ในเชิงถากถาง

บ้างก็คร่ำครวญ และกล่าวหากติกาที่ไม่เอื้ออำนวยให้ตัวเองได้รับเลือก

โดยเฉพาะกลุ่มผู้สมัครที่เรียกขานตัวเองว่า กลุ่มประชาธิปไตย ที่ตั้งคำถามถึงการฮั้ว การจัดตั้ง การใช้โพยของฝ่ายที่ได้รับเลือก

แต่การรวมตัวของฝ่ายตัวเองเรียก ไพรมารีโหวต (primary vote) รวมตัวแบบสุจริต และยอมรับภายหลังว่า แพ้โหวต เพราะหลายคนไม่รักษาคำพูด อยากเปลี่ยนสถานะจากโหวตเตอร์ เป็นแคนดิเดต คะแนนเสียงจึงไม่เกาะกลุ่ม และสุดท้ายพ่ายต่อคะแนนของกลุ่มที่ถูกเรียกว่า ฝั่งสีน้ำเงิน

spacebar สเปซบาร์, วุฒิสภา, สว., เลือก สว. 2567, สว. กลุ่มประชาธิปไตย, สว. กลุ่มสีน้ำเงิน

จริงอยู่กติกาการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม โดยแบ่งเป็นการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เป็นกติกาที่ถูกออกแบบมาท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า ผิดเพี้ยน และปิดกั้นประชาชนทั่วไปไม่ให้มีสิทธิเข้าถึงการใช้สิทธิเลือกตั้ง

ประชาชนจะใช้สิทธิเลือก สว.ได้ ต้องเสียเงิน 2,500 บาท เพื่อเป็นผู้สมัคร จึงจะมีสิทธิเลือกกันเองภายในกลุ่มอาชีพ และใช้สิทธิเลือกไขว้เมื่อผ่านรอบแรก ไปจนถึงการเลือกระดับประเทศ

กติกานี้รู้กันมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศบังคับใช้ วิธีที่ได้มาซึ่ง สว.จากการเลือกกันเอง ก็รู้กันมาตั้งแต่ พรป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 บังคับใช้

กติกาทั้งหมด ทุกฝ่ายต่างก็ได้ศึกษารายละเอียดมาพร้อมกัน ต่างกันแค่ ใครตีความรายละเอียด ใครวางแผนและเข้าใจกติกา และเข้าใจพื้นฐานการเมืองไทยมากกว่ากัน

วาทกรรม สว.มีไว้ทำไม จะไม่เกิดขึ้นเลย หากผลการเลือก สว.พลิกเป็นอย่างอื่น

วาทกรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเยาะเย้ย ถากถางผู้ที่ได้รับเลือก จะไม่เกิดขึ้นเลย หากผู้ที่ได้รับเลือกไม่มีความรู้ แต่เป็นพวกตัวเอง

ก่อนการเลือกตั้งมีแคมเปญชักชวนประชาชนให้เสียสละเงิน 2,500 บาท สมัครเข้าไปเป็นโหวตเตอร์ เพื่อเลือกคนดีเข้ามาเป็นสว. แคมเปญนี้รณรงค์กันอย่างกว้างขวาง มีทั้งเตรียมตนลงสมัคร เพื่อเป็นแคนดิเดตให้ผู้ที่จะเข้าไปเป็นโหวตเตอร์เลือก

แน่นอนว่า เป็นแคมเปญที่ กกต.ระบุว่า ทำได้ หากไม่มีอามิสสินจ้าง ไม่มีค่าตอบแทน จนเป็นที่มาของการรวมตัวแบบสุจริตใจ และมีรายชื่อคนที่เหมาะสม ซึ่งผ่านกระบวนการรับฟังเสียงกัน ที่เรียกขานว่า เป็นการทำไพรมารีโหวตโดยสุจริต

โพยรายชื่อจาก “ไพรมารีโหวต” เป็นโพยสุจริต จนมั่นใจว่า จะผ่านการเลือกกันเองไม่ต่ำกว่า 70 รายชื่อ

แต่เมื่อผลออกมาแบบพลิกถล่มทลาย กลายเป็นออกมาในอีกรูปแบบ เสียงวิพากษ์ถึงกระหื่มไปทั่วทั้งเมือง

เกมนี้ ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย แพ้ราบคาบ ภายใต้กติกา ที่ต่างก็รู้เท่ากัน แต่ที่ต่างกันคือ ความเก๋าเกม ความชำนาญเกมการเมืองที่มากกว่ากัน

spacebar สเปซบาร์, วุฒิสภา, สว., เลือก สว. 2567, สว. กลุ่มประชาธิปไตย, สว. กลุ่มสีน้ำเงิน
Photo: บรรยากาศการเลือกตั้ง สว. รอบไขว้อาชีพ ในรอบสุดท้ายที่อาคาร 4 อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี 26 มิถุนายน 2567

ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2566 ไม่มีใครคิดว่า พรรคก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับหนึ่ง

พรรคก้าวไกล ก้าวออกมาจากที่มืด และวิ่งเข้าเส้นชัยในอัตราเร่งที่พรรคคู่แข่งตามไม่ทัน

ต่างจากการเลือก สว. ที่ก่อนการเลือก มีการคาดการณ์ว่า จะเป็นปรากฏการณ์สีส้มเต็มสภาสูง หรืออย่างน้อยที่สุดก็เกิน 1 ใน 3 ที่ผู้สมัครซึ่งเรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย น่าจะพาเหรดเข้ามาในวุฒิสภา

ครั้งนี้ ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย กลับออกมาอยู่ในที่สว่าง ขณะที่ฝ่ายที่ถูกตั้งฉายาว่า ขั้วสีน้ำเงิน อยู่ในพื้นที่ที่มองไม่เห็น หรือเห็น ก็แค่เลือนลาง

การสรรหาภายใต้กติกาที่เปิดกว้าง ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย สู้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยความมั่นใจในกระแส และความย่ามใจในเครือข่าย ขณะที่อีกฝ่ายเลือกสู้ในพื้นที่ที่ได้เปรียบและทำงานง่าย

หากเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ระหว่าง จังหวัดอุดรธานี กับ จังหวัดสตูล

อุดรธานีมี 20 อำเภอ หากต้องส่งผู้สมัครทุกอำเภอ ทุกกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม  ต้องส่งผู้สมัคร 20x20 เท่ากับต้องส่งผู้สมัคร 400 คน ยังไม่รวมผู้ที่จะสมัครลงเป็นโหวตเตอร์ ที่หากจะส่งลงสมัครเป็นโหวตเตอร์กลุ่มละ 5 คน ใน 20 อำเภอ ก็ต้องใช้ผู้สมัครอีก 2,000 คนให้สมัครใจลงสมัคร เพียงเพื่อเป็นโหวตเตอร์

ถ้าคิดแบบผิดกติกา ถ้าต้องออกเงินให้ผู้สมัครที่จะเป็นโหวตเตอร์มาลงสมัคร ก็ต้องใช้เงิน 2,500 x 2,000 คน เท่ากับต้องใช้เงิน 5,000,000 บาท

แต่ในทางปฏิบัติหากต้องการความมั่นใจในชัยชนะ ต้องมีโหวตเตอร์ต่อกลุ่มเกิน 5 คน เพราะต้องวางแผนเพื่อให้มีจำนวนโหวตเตอร์ที่เข้ารอบมาในระดับประเทศมากพอต่อการโหวต ทั้งการเลือกในกลุ่มอาชีพ และการเลือกไขว้

ขณะที่เมื่อเทียบกับจังหวัดสตูลที่มี 7 อำเภอ ถ้าส่งผู้สมัครกลุ่มละ 5 คน ใน 20 กลุ่ม ก็จะใช้คนที่เป็นโหวตเตอร์เพียง 100 คน และใช้เงินค่าสมัคร (กรณีทำแบบผิดกติกา) เพียง 250,000 บาทเท่านั้น

นอกจากนั้น จำนวนที่เข้ารอบไปในระดับประเทศก็มีจำนวนเท่ากัน เพราะต้องการกลุ่มละ 3 คน ใน 20 กลุ่ม หรือจังหวัดละ 60 คนเท่ากัน

จังหวัดเล็ก หรือ จังหวัดใหญ่มีค่าเท่ากัน คือ จังหวัดละ 60 คนเท่ากัน

อย่าแปลกใจที่ทำไมจังหวัดขนาดกลาง และขนาดเล็กๆ อย่างสตูล, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, เลย, อำนาจเจริญ, ยโสธร, สุรินทร์, บุรีรัมย์ ถึงมีผู้สมัครผ่านเข้ารอบไปเลือกไขว้กลุ่มสูง 8 อันดับแรก

เพราะพลังจากผู้สมัครในจังหวัดเล็กๆ ที่มีจำนวนผู้เข้ารอบจังหวัดละ 60 คน ที่เป็นพลังแฝงเข้ามาเลือกในระดับประเทศ เป็นพลังที่ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตยที่มองไม่เห็น และคาดไม่ถึง

spacebar สเปซบาร์, วุฒิสภา, สว., เลือก สว. 2567, สว. กลุ่มประชาธิปไตย, สว. กลุ่มสีน้ำเงิน
Photo: บรรยากาศการเลือกตั้ง สว. รอบไขว้อาชีพ ในรอบสุดท้ายที่อาคาร 4 อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี 26 มิถุนายน 2567

เกมนี้ เป็นเกมของนักการเมืองที่ช่ำชองเกม ช่ำชองการจัดตั้ง ช่ำชองธรรมชาติการเมืองไทย และเข้าใจธรรมชาติของคนไทย หยิบฉวยขึ้นมาเปิดเกมสั่งสอนเด็ก “ทำให้เด็กมันดู” “เล่นให้เด็กมันรู้” ว่า “เก๋า” ไม่ใช่แค่ชื่อปลา “ฉายาก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย”

เลือกนายก อบจ.นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และอีกหลายจังหวัด จะเป็นบทเรียนภาคต่อที่ นักการเมืองรุ่นใหญ่ กำลังจะเปิดเกมออกมาสั่งสอนเด็กอีกครั้ง

ส่วน พลพรรคสีแดง นั้น เข้าข่ายแค่ตั้งตัวไม่ทัน คิดไม่ทัน เพราะกว่าจะเปิดเกมคิด ก็วางตัว วางเกมไม่ทันค่ายสีน้ำเงิน ที่กุมสภาพ อสม. และ อบต.ทั่วประเทศ มานานกว่า 9 ปีไปแล้ว

น้ำเงินกับแดง เขารบกันจริงกี่เปอร์เซนต์ไม่มีใครรู้ดี

แต่ถ้ารบกับส้มนั้น เขารบจริงจังเกิน 100 % แน่นอน

ยังมีเกม สร้างฝายชะลออำนาจ ที่ส้มอาจคิดไม่ถึงรออยู่ข้างหน้าอีกเยอะ ภายใต้ข้อแม้...

ต้องรีบตื่นมาเจอความจริง อย่ามัวแต่ฝัน กับปั้นวาทกรรมในโซเชียล

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์