แม้ผลสำรวจนิด้าโพล จะออกมาในทำนองคนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย(พท.) กับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) จะมีอยู่จริง แต่ก็เทน้ำหนักค่อนไปทาง คงทำความเข้าใจกันได้และอยู่ร่วมรัฐบาลกันไปเหมือนเดิม
ส่วนจะถึงขั้น นำไปสู่การยุบสภา ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล หรือปรับ ภท.ออกจากรัฐบาลนั้น มีเปอร์เซนต์น้อยถึงน้อยมาก โอกาสที่ พท.จะปรับครม.และดึงกระทรวงสำคัญไปจาก ภท.มีทางเกิดขึ้นได้มากกว่าด้วยซ้ำ
แต่ทีนี้อย่าลืมว่า ผลสำรวจนิด้าโพลครั้งนี้ จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ และตั้งประเด็นความขัดแย้งของสองพรรคในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ไม่นับรวมแผลใหม่ ปมขัดแย้งของ ‘สภาสีน้ำเงิน’ กับดีเอสไอ ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนทำเอา 138 สว.นั่งไม่เป็นสุข
เปิดแถลงด่วน!! ประกาศชักธงรบดีเอสไอ มาจากสวนสนประดิพัทธ์ ชายทะเล อ.ปราณบุรี
จ.ประจวบคีรีขันธ์
ก่อนหน้านั้น ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีข่าวระแคะระคายออกมาอยู่บ้าง เมื่อกลุ่มสว.สำรองจำนวนหนึ่ง พากันไปยื่นร้องดีเอสไอ ขอให้ดำเนินการกับ ‘กลุ่มฮั้วสว.’ ซึ่งตามข่าวบอกมีการสะกิดให้ไปยื่น เพราะดีเอสไอสอบเสร็จแล้ว
โดยหลังสอบ ‘โพยฮั้วสว.’ เสร็จ ดีเอสไอได้ส่งเรื่องให้ กกต.ไปตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เพื่อสอบถาม กกต.ว่าจะรับคดีมาทำเองหรือโอนให้หน่วยงานใดทำ รวมถึงดีเอสไอ และให้แจ้งกลับมายังดีเอสไอภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
‘มีความผิดอาญาใดบ้าง ที่กกต.ประสงค์จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนเอง และความผิดอาญาใดบ้างที่กกต.ประสงค์จะให้ดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินการสอบสวน หรือกกต.จะรับไว้ดำเนินการเองทุกข้อกล่าวหา ทุกฉบับกฎหาย หรือประสงค์จะให้ดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินการ’
ข้อความตอนท้ายๆ ในหนังสือที่ถามไปยังกกต.
หลังตกเป็นข่าวครึกโครม ‘อิทธิพร บุญประคอง’ ประธานกกต.ออกมายอมรับเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ว่าได้รับหนังสือจากดีเอสไอแล้ว และทางสำนักงาน กกต.มีหนังสือตอบกลับไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ว่ายังไม่ได้เสนอต่อกกต.ชุดใหญ่พิจารณาเรื่องนี้ จึงยังตอบไม่ได้
วันพรุ่งนี้ อังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่มีรองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะให้ ‘ดีเอสไอรับเรื่องสอบโพยฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่?’
ขณะที่ฝั่ง 138 สว.+ 2 สว.สำรอง ที่มีชื่ออยู่ในโพยฮั้ว.ประกาศโต้กลับดีเอสไอ ทั้งขู่ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ให้คณะกรรมาธิการวุฒิสภา เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงการใช้อำนาจ รวมทั้ง จะเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ และเข้าชื่อสว.ยื่นถอดถอน รมว.ยุติธรรมด้วย
โทษฐานทำให้วุฒิสภาเสียหาย!!
สิ่งที่ 138 สว.นำโดยประธานวุฒิสภา ‘มงคล สุระสัจจะ’ และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ‘พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์’ กำลังจะดำเนินการโดยลัดคิวนำเข้าหารือในที่ประชุมวิปวุฒิสภาช่วงสายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บางเรื่องอาจอยู่ในอำนาจ สว. บางเรื่องอาจไม่ได้อยู่ในอำนาจ
บางเรื่องอาจหมิ่นเหม่ต่อการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตัวเอง!!
ทีนี้วกกลับมาผลโพลนิด้า ที่ว่าความขัดแย้งของสองพรรค ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ เคลียร์กันได้ ไม่มีปัญหานั้น คงไม่ได้รวมเรื่องหลังสุดนี้เข้าไปด้วย เพราะกรณีนี้ถือเป็นประเด็น ‘แตกหัก’ ของครูใหญ่และนายใหญ่ ที่แม้จะมีโอกาสพบกันถึงสองครั้งแล้วก็ตาม
แต่บทสรุปที่ครูใหญ่ ได้มาจากการมุดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าทั้งสองครั้ง คือ ‘ทักษิณ’ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีคำว่ารอมชอม ยังเป็นคนที่ ‘กินรวบ’ เหมือนเดิม
เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ ครูใหญ่ภูมิใจไทย ก็ไม่ยอมเหมือนกัน เมื่อถูกทักษิณหักมาก็หักกลับ พร้อมไปเป็นฝ่ายค้าน!!
โดยระหว่างนี้ ก็งัดข้อกันไป อยู่แบบ ‘กวนทรีน’ กันไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่หยุดเกมบีบสว.สีน้ำเงินย้ายค้าย ก็ยื้อกฎหมายมันทุกฉบับ แม้แต่ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ก็อย่าหวัง ส่วนคดีอั๊งยี่ ซ่องโจรสว.สีน้ำเงิน ก็ใช้เอกสิทธิ์สภาต่อสู้กันไป
งานนี้ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลขืนขบเหลี่ยมกันอยู่แบบนี้ ก็เป็นรัฐบาล ‘เป็ดง่อย’ ไปต่อได้อีกไม่นาน คงได้เห็นการยุบสภาก่อนครบเทอมปี 2570 แน่แท้เทียว
