ชะตากรรม นายกฯ ‘อิ๊งค์’ ในศึกซักฟอก

3 มี.ค. 2568 - 02:57

  • บทพิสูจน์ความสัมพันธ์ดีลลับ แดง-ส้ม

  • อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนเดียว

  • รอดูว่านายกฯเป็นของจริงหรือของเทียม

politics-thailand-deepspace-fate-prime-minister-debate-SPACEBAR-Hero.jpg

ได้เวลาพิสูจน์ของแท้ ของเทียม กันก็คราวนี้แหล่ะ

หลังนินทา กาเล กันมาตลอดเกือบสองปี โดยเฉพาะฝ่ายค้าน พรรคประชาชน ที่ถูกหาว่ามีนอกมีในกับพรรคเพื่อไทย ผ่านดีลลับฮ่องกงระหว่าง **‘ทักษิณ-ธนาธร’**สองผู้นำจิตวิญญาณ

ทำให้การทำหน้าที่่ฝ่ายค้านเชิงรุกของพรรคสีส้ม ‘รุกไม่ออก’ ถูกมองว่าชกไม่เต็มหมัด เป็นฝ่ายค้านเทียม เป็นฝ่ายตรวจสอบแบบประคับประคอง หนักข้อเข้าบางเรื่องที่ทำร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน อาทิ การแก้รัฐธรรมนูญ ก็ทำตัวเป็นหางเครื่องเพื่อไทย

แถมถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่างหาก

แต่คราวนี้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ ‘ล๊อคเป้า’ ซักฟอกคนเดียวเฉพาะ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ขณะที่ข้อกล่าวหาในญัตติก็ใช้ภาษาหนักหน่วง รุนแรง แทบไม่เหลือคำว่า ‘ผู้นำ’ อยู่ในตัว

แม้ข้อกล่าวหาที่ว่าจะเป็นข้อความเดิมๆ ที่ในอดีตญัตติซักฟอกก็เขียนกันแบบนี้ แต่หนนี้ คำว่า ขาดภาวะผู้นำ ขาดความรู้ ความสามารถ เป็นนั่งร้าน ให้ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย เสมือนเป็นนายกฯ หุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกฯ ตัวจริง

บังเอิญข้อกล่าวหาเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่วิญญูชนทั่วไปสามารถสัมผัสได้ ไม่ใช่ข้อกล่าวหาลอยๆ ที่เป็นนามธรรมเหมือนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในอดีต

แต่เอาล่ะ เพียงแค่เนื้อหาในญัตติและการซักฟอกนายกฯ อิ๊งค์คนเดียว คงยังไม่ใช่คำตอบที่จะลบล้างความสัมพันธ์แนบแน่นของ ‘เพื่อไทย-ประชาชน’ ลงได้ ยังต้องรอดูการอภิปรายอีกทีว่าพรรคส้มจะเอาจริงแค่ไหน

เพราะหากชกเต็มหมัด มีข้อมูลเด็ด อภิปรายได้อย่างจะแจ้ง นั่นแหล่ะ ถึงจะทำให้คลายความสงสัยลงได้บ้าง

ยิ่งพรรคส้ม มีการปรับยุทธศาสตร์ซักฟอกใหม่ จากเดิมพุ่งเป้าไปที่ 10 รัฐมนตรี เปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ ‘ลอยแพ’ โดดเดี่ยวผู้นำแทน ก็ทำเอาคอการเมืองตามแทบไม่ทัน ตกลงเป็นเพราะข่าวรั่ว หรือสับขาหลอกกันแน่

เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรค ยืนยันว่าที่ตกลงกันมาคือ ‘จับขึงพืด 10 รัฐมนตรี’ ตามที่สื่อเสนอ และในวงข้าวมื้อค่ำพรรคร่วมรัฐบาล ที่กินหรู อยู่แพง สวนทางเศรษฐกิจ ก็ได้รับการยืนยันมาอย่างนั้นด้วย

ฟังมาว่า การปรับยุทธศาสตร์ใหม่ของพรรคสีส้มคราวนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งสองทางนั่นแหล่ะ!!

อันเป็นการตัดสินใจที่ไปเข้าทางคอการเมืองพันธุ์ ‘ซาดิสม์’ เข้าพอดี เพราะอยากจะเห็นการซักฟอกแบบนี้อยู่แล้ว แม้จะเห็นว่ามีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่สมควรได้รับการตรวจสอบไปพร้อมกันด้วยก็ตาม

ยุทธการโค่นต้น ‘เอาทั้งลูกทั้งดอก’ ตีจุดเดียวที่เป็นกล่องดวงใจของ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯตัวจริง จึงเป็นการซักฟอกรัฐบาลที่มาถูกทางที่สุดในสถานการณ์นี้

เท่ากับพลพรรคส้ม ‘แตกหัก’ กับทักษิณ ไม่ซูเอี๋ย ไม่ยอมเป็นลูกไล่ให้เพื่อไทยอีกต่อไป 

ส่วนจะเป็นการประกาศอิสรภาพจริงๆ หรือไม่ ให้รอดูของจริงจากการอภิปราย ไม่ว่าจะได้เวลากี่วัน หรือต่อให้เหลือแค่วันเดียวอย่างที่คนเพื่อไทยแสดงอาการลนลานออกมาก็เถอะ คงพอพิสูจน์ให้เห็นของแท้ ของเทียมกันได้

ในขณะที่นายกฯ อิงค์ ก็ถึงเวลาพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน หากทำการบ้านมาดี ชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ ได้ ไม่ต้องอาศัยตัวช่วยมากเกินไปนัก รวมทั้ง คนในพรรคเพื่อไทย ‘ทีมอคาเดมี’ ไม่ลุกขึ้นประท้วงหรือปกป้อง ‘นายน้อย’ กันเกินงามจนทำให้เสียบรรยากาศ

งานนี้ถ้าสอบผ่านได้ นายกฯ อิ๊งค์ ก็จะเป็นเหมือนพระที่ผ่านการปลุกเสก แต่ถ้าไม่ผ่านก็เป็นได้แค่ดินเหนียวดีๆ นี่เอง    

สำหรับผลโหวต ที่แม้ ‘พ่อนายกฯ’ จะมีราคาต้องจ่ายแพงลิ่ว ไม่ว่าคดีความต่างๆ ที่ขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันในพรรคร่วมรัฐบาล รวมไปถึงการปรับครม.หลังการอภิปราย ที่อาจมีบางพรรคนำมาต่อรองด้วย 

แต่ผลโหวตที่ออกมาก็เป็นแค่การรักษาหน้านายกฯ อิ๊งค์ เพราะงานนี้ถ้าตอบไม่ได้ สอบไม่ผ่าน ก็คงถูกกระแสสังคมบีบ รุกไล่อยู่ต่อไปลำบาก

ตรงนี้กระมัง ที่ทำให้ฝ่ายค้านตั้งเป้าเอาไว้สูงถึงขั้นต้องยุบสภากันเลยทีเดียว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์