เปิดกาสิโน-พนันออนไลน์ อาจเป็นได้แค่ฝันค้าง?

16 ม.ค. 2568 - 02:31

  • หลักสูตรเร่งรัดสร้างเศรษฐกิจ ปั้นจีดีพีประเทศ

  • ดันธุรกิจสีเทาจากใต้ดิน ขึ้นมาอยู่บนดินแล้วเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

  • หากหลงลืมผลกระทบทางสังคมที่ตามมา อาจจะกลายเป็นวิกฤตอีกครั้ง

politics-thailand-government-casino-online-gambling-dream-SPACEBAR-Hero.jpg

หากสังเกตให้ดีจะพบว่ายิ่งนานวันดูเหมือนความมั่นอกมั่นใจของ พ่อนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่เล่นบท ‘สทร.’ ในทุกเรื่องแทน ลูกสาว นายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นับวันดูจะเริ่มลดน้อยถอยลงจนเริ่มออกอาการทั้งในทางการเมือ งและในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ

ในทางการเมือง ถึงแม้จะประกาศลั่นบนหลายเวทีที่เดินสายไปฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย เพื่อฝากฝังคนของตัวเองให้เข้าไปนั่งในตำแหน่ง นายกฯ อบจ.ในหลายจังหวัด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ แต่ก็มีอาการที่ดูจะ ‘หวั่นๆ’ ไม่มั่นใจในชัยชนะสักเท่าไร  

ถึงขนาดต้องเดินสายไปซ้ำอีกในหลายๆพื้นที่ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ‘บ้านเกิด’ ที่เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองหลวงของคนเสื้อแดง 

ยิ่งในทางเศรษฐกิจ ถึงแม้บรรดาภาคธุรกิจเอกชน และนักลงทุน จะเคยยอมรับในผลงานที่พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาสู่เส้นทางการเติบโตได้ หลังวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 แต่ในการกลับมาในรอบนี้ อาจเป็นเพราะบริบท และเหตุปัจจัยหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป แนวคิดหรือนโยบายในหลายๆเรื่องที่ อดีตนายกฯทักษิณ พยายามผลักดันดูจะ**‘ไม่ค่อยได้ผล’** และประสบอุปสรรคจนไม่เป็นไปตามแผน  

หนึ่งปีที่เสียไปกับ อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และอีกเกือบ 6 เดือน หลังจากดันลูกสาว ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิง ที่มีอายุน้อยที่สุด รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็ยังคงไม่สามารถสร้างผลงานในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้โงหัวขึ้นมาได้

นโยบายเรือธงหลายๆเรื่อง ที่พยายามจะผลักดันก็เดินไปได้ไม่ถึงไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง มาตรการกระตุ้นการแจกเงินหมื่นผ่าน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ไม่ได้สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นอย่างที่คิด 

นโยบายการขึ้นค่าแรง ก็ทำได้เพียงขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 400 บาท ให้กับแรงงานใน 4 จังหวัดหลัก โครงการสนับสนุน ‘ซอฟท์พาวเวอร์’ ก็เดินไปแบบกระท่อนกระแท่นเต็มที รวมไปถึงอีกๆหลายนโยบาย เช่น นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ที่ยังคงเป็นเพียงนโยบายขายฝัน ที่ยังห่างไกลจากความสำเร็จ

เมื่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล นายกฯ อิ๊งค์ ยังคงไม่สามารถทำให้เกิด Sentiment หรือบรรยากาศความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อประกอบกับปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกที่ไม่เอื้ออำนวย และปัญหาในเรื่องของ Trust & Confident และ ธรรมาภิบาลในตลาดหุ้นไทย ก็ยิ่งซ้ำเติมให้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยนับวันยิ่งไหลลึกลงไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางอาการ ‘ตายหมู่’ ของนักลงทุน ที่ขาดทุนกันยับเยิน จนทุกคนเริ่มเบือนหน้าหนี 

คงเพราะเหตุนี้ ทำให้ถึงแม้จะมีโอกาสขึ้นเวที ‘เดี่ยวไมโครโฟน’ เพื่อหวังปลุกตลาดทุน ในงาน ‘ดินเนอร์ ทอล์ค’ ล่าสุดของ ‘ข่าวหุ้น’ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พยายามโชว์ ‘วิสัยทัศน์’ ในหลายๆเรื่อง 

แต่อดีตนายกฯทักษิณก็ยังออกอาการที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจทั้งในตอนต้น และตอนท้าย ถึงขนาดยอมรับว่า 

‘ถ้าผมพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าหุ้นไม่ขึ้นผมตาย’

และบทพิสูจน์ที่ตามมาในวันต่อมา ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า ลมปากของ อดีตนายกฯทักษิณ อาจจะไม่ ‘ขลัง’ เหมือนในอดีต เพราะดัชนีหุ้นไทยยังคงตกไปอีก โดยลงลึกไปแต่ระดับ 1,340 จุด 

อาจเพราะแรงกดดันที่มาจากความคาดหวังของใครบางคนที่ยอมให้เขากลับมามีอำนาจในคราวนี้ และมีเดิมพันสำคัญคือ ความสำเร็จของลูกสาว ทำให้อดีตนายกฯทักษิณ คงต้องใช้ทุกวิถีทางที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นกลับมาให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้

และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องยอมเดินเข้าสู่ Dark Side เส้นทางสายดาร์ค โดยอาศัย ‘มนต์ดำ’ เร่งผลักดัน นโยบายนำอบายมุขผิดกฎหมายที่อยู่ใต้ดินขึ้นบนดิน เพื่อปลุกให้ GDP ของไทยให้โตขึ้นให้เร็วที่สุด

ล่าสุด การผลักดันให้ครม.รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....แถมยัง ‘ลักไก่’ ให้กระทรวง ดีอี ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ของรองนายกฯและรมว.‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ และ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ‘อนุทิน ชาญวีรกุล’ ไปตั้งคณะทำงาน พิจารณาแก้ไขกฎหมายลำดับรอง ก่อนที่จะออกกฎหมายใหม่ เพื่อดึงการพนันออนไลน์ ที่ผิดกฎหมายให้ขึ้นมาบนดิน ภายในหนึ่งเดือน 

ก็ดูจะเป็นอะไรที่ ‘ลุกลน เร่งรัด และเร่งรีบ’ จนผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากที่ควรจะต้องศึกษาให้รอบคอบ ถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ผลดี-ผลเสีย และผลกระทบทางสังคมที่จะตามมา

หลายคนคาดว่า อดีตนายกฯทักษิณคงต้องการเร่งปั่นตัวเลข GDP ของไทยให้โตขึ้นให้เร็วที่สุด แต่ทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างยังต้องใช้เวลาอีกนาน ‘เส้นทางลัด’ ที่สามารถจะดันตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นได้เร็วที่สุด

คือการนำกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยบันทึกไว้ในระบบบัญชีประชาชาติ หรือ Non-Observed Economy : NOE ที่หมายถึง ธุรกิจผิดกฎหมาย ธุรกิจใต้ดิน และธุรกิจนอกระบบ ให้มานับรวม ในแบบเดียวกับเวียดนาม คือ หนทางที่จะทำให้ตัวเลข GDP พุ่งขึ้นมาได้อย่างพรวดพราด

ในเวลาเดียวกันการเปิดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมายที่จะมีจำนวนใบอนุญาตไม่กี่แห่ง ซึ่งจะทำให้มีลักษณะของธุรกิจกึ่งผูกขาดเพียงไม่กี่ราย ย่อมทำให้เกิด ‘ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ’ ที่จะมีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนตามมา จาก กลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติ และทุนการเมือง    

แต่ทั้งหมดก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า อดีตนายกฯทักษิณ ยังคงประเมินแรงต้านและ ‘ด้อยค่า’ พลังทางสังคมที่ตื่นรู้ และ ‘รู้ทัน’ นักการเมืองต่ำจนเกินไป เห็นได้ชัดจากพลังทางสังคมที่ ‘ลุกฮือ’ ขึ้นมาส่งเสียงตะโกนคัดค้าน และรวมพลังกันต่อสู้เพื่ออาชนะ ‘พลังด้านมืด’ ของนักการเมืองที่หิวกระหายที่กำลังรวมหัวกันฉุดรั้งสังคมไทยให้ตกเป็น ‘ทาสการพนัน’

ภายใต้มายาคติที่หลงผิดว่าจะช่วยกระตุ้นและปลุกเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นขึ้นจากเม็ดเงินของนักพนัน และในบทสรุป อาจจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ อดีตนายกฯทักษิณ จะต้องพบกับความผิดหวัง...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์