แฟชั่นในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นการทำสีผมที่มีทั้งสีเข้มไล่ไปถึงสีอ่อน รวมทั้งสีที่มีโทนฉูดฉาดอย่างสีฟ้า น้ำเงิน สีชมพู สีแดง สีเขียว สีเทา และการฟอกสีผมให้เป็นสีโทนขาว
งานนี้ไม่ว่าจะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ตามแฟชั่นแบบจี๊ดจ๊าด คงไม่ยอมน้อยหน้ากันแน่นอน หยิบคว้าเอาเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ มาใช้ในการกัดสีผม หรือฟอกสีผมในมีสีที่สว่างมาประชันกันถ้วนหน้า และอย่างที่ทราบกันดีว่าการทำแบบนั้น จะทำให้เกล็ดผมชั้นนอกเสื่อมและทำให้ผมแห้งเสีย กรอบ รวมทั้งเป็นวุ้นง่ายมาก ๆ เลยทีเดียว
ใครที่ผมแห้งเสียก็จะทราบดีถึงความทรมานในการหวีผมที่ทำเอาหนังศีรษะระบมจนน้ำตานอง วันนี้ Spacebar ก็ได้คว้าเอาเคล็ดลับดี ๆ กับ 9 ทิปส์ดูแลผมเสีย ฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน มีอะไรบ้างมาดูกันเลย!
1. เลือกใช้เซรั่มปกป้องเส้นผม จากการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน ควบคุมการชี้ฟู และเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม ควรใช้เซรั่มทุกครั้งตั้งแต่โคนผมจรดปลายผม แต่ระวังการใช้เซรั่มมากเกินไปบนหนังศีรษะ จะทำให้เส้นผมดูมันเยิ้มได้นะจ๊ะ
2. ใช้น้ำมันในการดูแลเส้นผม เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันข้าวโพด ซึ่งน้ำมันดูแลเส้นผมเหล่านี้ จะเต็มไปด้วยวิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะเติมความชุ่มชื้นให้กับชั้นเกล็ดผมด้านนอก
ใช้น้ำมันนวดลงบนเส้นผมเบา ๆ และคลุมด้วยผ้าขนหนูทิ้งไว้ 30-40 นาที แล้วล้างด้วยแชมพูหรือยาสระผม จะช่วยให้เส้นผมดูหนานุ่ม และทำให้ดูเงางามได้
งานนี้ไม่ว่าจะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ตามแฟชั่นแบบจี๊ดจ๊าด คงไม่ยอมน้อยหน้ากันแน่นอน หยิบคว้าเอาเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ มาใช้ในการกัดสีผม หรือฟอกสีผมในมีสีที่สว่างมาประชันกันถ้วนหน้า และอย่างที่ทราบกันดีว่าการทำแบบนั้น จะทำให้เกล็ดผมชั้นนอกเสื่อมและทำให้ผมแห้งเสีย กรอบ รวมทั้งเป็นวุ้นง่ายมาก ๆ เลยทีเดียว
ใครที่ผมแห้งเสียก็จะทราบดีถึงความทรมานในการหวีผมที่ทำเอาหนังศีรษะระบมจนน้ำตานอง วันนี้ Spacebar ก็ได้คว้าเอาเคล็ดลับดี ๆ กับ 9 ทิปส์ดูแลผมเสีย ฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน มีอะไรบ้างมาดูกันเลย!
1. เลือกใช้เซรั่มปกป้องเส้นผม จากการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน ควบคุมการชี้ฟู และเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม ควรใช้เซรั่มทุกครั้งตั้งแต่โคนผมจรดปลายผม แต่ระวังการใช้เซรั่มมากเกินไปบนหนังศีรษะ จะทำให้เส้นผมดูมันเยิ้มได้นะจ๊ะ
2. ใช้น้ำมันในการดูแลเส้นผม เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันข้าวโพด ซึ่งน้ำมันดูแลเส้นผมเหล่านี้ จะเต็มไปด้วยวิตามิน E และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะเติมความชุ่มชื้นให้กับชั้นเกล็ดผมด้านนอก
ใช้น้ำมันนวดลงบนเส้นผมเบา ๆ และคลุมด้วยผ้าขนหนูทิ้งไว้ 30-40 นาที แล้วล้างด้วยแชมพูหรือยาสระผม จะช่วยให้เส้นผมดูหนานุ่ม และทำให้ดูเงางามได้

3. การให้ความชุ่มชื่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม หนังศีรษะแห้ง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่สร้างความเสียหาย และสร้างความเปราะบางให้กับเส้นผม ถ้าหากเส้นผมไม่มีความชุ่มชื้นที่มากพอ
วิธีการคือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมโดยการใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของความชุ่มชื้น การใช้ครีมนวดผม การมาส์กเส้นผม และการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอื่น ๆ เสมอ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการฟื้นฟูผมแห้งเสียอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์มาส์กเส้นผมที่มีความเข้มข้นกว่าตัวครีมนวดผม และใช้เวลาไม่นานที่จะไปบำรุงเกล็ดผมชั้นนอก และเติมเต็มส่วนที่สึกหรอเพื่อฟื้นฟูเส้นผม เพราะว่าตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะมีส่วนผสมที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นสูง เช่นวิตามิน น้ำมัน และอื่น ๆ ที่มาจากธรรมชาติ
4. ดูแลเส้นผมด้วยความอ่อนโยนเป็นกิจวัตรประจำวัน การสระผมและปรับสภาพเส้นผมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะทำ เป็นกฎพื้นฐานในการดูแลเส้นผม
ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ปราศจาก ซัลเฟต พาราเบน แอลกอฮอล์ สีย้อมผม และน้ำมันหอยระเหย และมั่นสระผมเป็นประจำ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวหนังศีรษะที่ตายแล้ว
วิธีการคือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมโดยการใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของความชุ่มชื้น การใช้ครีมนวดผม การมาส์กเส้นผม และการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอื่น ๆ เสมอ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการฟื้นฟูผมแห้งเสียอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์มาส์กเส้นผมที่มีความเข้มข้นกว่าตัวครีมนวดผม และใช้เวลาไม่นานที่จะไปบำรุงเกล็ดผมชั้นนอก และเติมเต็มส่วนที่สึกหรอเพื่อฟื้นฟูเส้นผม เพราะว่าตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะมีส่วนผสมที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นสูง เช่นวิตามิน น้ำมัน และอื่น ๆ ที่มาจากธรรมชาติ
4. ดูแลเส้นผมด้วยความอ่อนโยนเป็นกิจวัตรประจำวัน การสระผมและปรับสภาพเส้นผมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะทำ เป็นกฎพื้นฐานในการดูแลเส้นผม
ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ปราศจาก ซัลเฟต พาราเบน แอลกอฮอล์ สีย้อมผม และน้ำมันหอยระเหย และมั่นสระผมเป็นประจำ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวหนังศีรษะที่ตายแล้ว

5. การเพิ่มโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระในอาหาร รู้หรือไม่ โปรตีนจากสัตว์ทะเลช่วยทำให้ผมหนาและเงางามด้วย การกินปลาแซลมอน ซาร์ดีน ทูน่า และหอยนางรม ที่มีโอเมก้า 3 ค่อนข้างสูง และการเพิ่มสารออกซิแดนซ์ จะช่วยในเรื่องผมแห้งเสีย กรอบ ที่โดนทำร้ายอย่างรุนแรงได้
6. การเล็มผมแตกปลาย เมื่อผมแห้งเสียแน่นอนว่าสิ่งที่มาพร้อมกับผมแห้งเสียก็คือ ผมแตกปลาย สำหรับการป้องกันผมแตกปลายนั้น ควรเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ช่วยให้ผมมีความนุ่มลื่น เสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม แต่ถ้าไม่ทันแล้ว วิธีที่จะฟื้นฟูและยับยั้งปลายผมแตกปลายลุกลามก็คือการเล็มเส้นผมแตกปลายออกนั่นเอง
6. การเล็มผมแตกปลาย เมื่อผมแห้งเสียแน่นอนว่าสิ่งที่มาพร้อมกับผมแห้งเสียก็คือ ผมแตกปลาย สำหรับการป้องกันผมแตกปลายนั้น ควรเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ช่วยให้ผมมีความนุ่มลื่น เสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม แต่ถ้าไม่ทันแล้ว วิธีที่จะฟื้นฟูและยับยั้งปลายผมแตกปลายลุกลามก็คือการเล็มเส้นผมแตกปลายออกนั่นเอง

7. วิตามิน และสารอาหารที่ได้รับ มีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ในอาหารที่ไม่มีวิตามิน แร่ธาตุ ไขมันที่จำเป็น และโปรตีน จะนำไปสู่ความผิดปกติของโครงสร้างเส้นผม ทำให้ผมหลุดร่วง และแห้งเสีย วิธีแก้ไขที่ดีคือการทานอาการที่ประกอบไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ ไขมันที่จำเป็น และโปรตีน รวมทั้งผลไม้ ผัก ธัญพืชด้วย
8. ดูแลเส้นผมเปียกชื้นด้วยความระมัดระวัง จำไว้ว่าเส้นผมจะเปราะบางที่สุดตอนเปียก ผมจะเสียหายหนักกว่าเดิมถ้าในตอนที่ผมเปียกนั้น ขาดการระมัดระวัง ในช่วงเวลาที่ผมเปียกห้ามนำหวีมาแปรงเด็กขาด ควรใช้หวีซี่กว้างในการจำกัดสิ่งสกปรกแทน และไม่ควรรวบหรือรัดผมในขณะที่ผมเปียกเด็ดขาด เพราะจะทำให้เส้นผมนั้นหักและขาดได้
