ในยุคสมัยนี้โลกร้อนขึ้นทุกปีๆ น้ำแข็งขั้วโลกเริ่มละลาย ส่วนบรรดานายทุนใหญ่ก็ยังไม่เหลียวแล อุตสาหกรรมผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ไหนจะมีฝุ่นระดับ PM2.5 กระจายไปทั่วเมือง ทำเอาคนเมืองถึงกับหายใจไม่ออก หายใจลำบาก เกิดผลกระทบต่อสุขภาพไปตามๆ กัน ไม่ต้องพูดถึงโควิด-19 ที่ต้องหันมาใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค แต่หารู้ไม่ว่าในขณะที่เราป้องกันโรคร้าย เราก็ยังให้ร้ายกับร่างกายเราเองด้วย เพราะร่างกายรับออกซิเจนไม่เพียงพอ บวกกับหน้าร้อนที่สร้างความลำบากในการหายใจเข้าไปอีก
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมพอเจออากาศร้อนทีไร รู้สึกหายใจลำบากทุกที ได้เข้าห้องแอร์ถึงจะหายใจโล่งปอด สดชื่นขึ้นมาทันตา
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมพอเจออากาศร้อนทีไร รู้สึกหายใจลำบากทุกที ได้เข้าห้องแอร์ถึงจะหายใจโล่งปอด สดชื่นขึ้นมาทันตา

เรื่องนี้ไม่ยากเลย เพราะอากาศร้อนนั้นมีความชื้นมากกว่าอากาศเย็นนั่นเอง และด้วยความชื้นนี้ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดน้อยลง ความชื้นในอากาศแม้ว่าจะดีกับพืชนานาพันธุ์ แต่สำหรับมนุษย์แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะเท่ากับเราต้องหายใจถี่ขึ้นเพื่อรับปริมาณออกซิเจนที่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ
เคยมีคนออกมาแสดงความกังวลว่า แล้วแบบนี้จะเสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน หรือไฮโปซีเมีย (Hypoxemia) หรือเปล่า? คงไม่ขนาดนั้น เพราะภาวะพร่องออกซิเจนเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย นั่นคือการนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรงกว่ามาก
แต่ถึงกระนั้นการหายใจรับออกซิเจนไม่เพียงพอก็สามารถทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และปวดหัวได้ เช่นกัน อาจไม่ร้ายแรงเท่าภาวะพร่องออกซิเจน แต่ทางที่ดีเราก็ควรหายใจให้ได้ออกซิเจน เยอะๆ เพื่อสุขภาพที่ดี
เคยมีคนออกมาแสดงความกังวลว่า แล้วแบบนี้จะเสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน หรือไฮโปซีเมีย (Hypoxemia) หรือเปล่า? คงไม่ขนาดนั้น เพราะภาวะพร่องออกซิเจนเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย นั่นคือการนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรงกว่ามาก
แต่ถึงกระนั้นการหายใจรับออกซิเจนไม่เพียงพอก็สามารถทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และปวดหัวได้ เช่นกัน อาจไม่ร้ายแรงเท่าภาวะพร่องออกซิเจน แต่ทางที่ดีเราก็ควรหายใจให้ได้ออกซิเจน เยอะๆ เพื่อสุขภาพที่ดี

อย่าเผลอหายใจทางปากจนชิน
ปัญหาอยู่ที่อากาศร้อนออกซิเจนน้อยไม่พอ เรายังต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกด้วย โรคก็กลัว หายใจก็ลำบาก ทำอย่างไรดี? สำหรับการสวมหน้ากากหน้าอนามัย เชื่อว่าหลายคนจะชอบหายใจทางปากมากกว่าทางจมูก เพราะรู้สึกไปเองว่าหายใจทางจมูกคงรับออกซิเจนไม่พอ ซึ่งจริงๆ แล้ว การหายใจทางจมูกนั้นสำคัญมากจมูกของเราทำหน้าที่เป็นตัวกรองอากาศเหมือนกันกับหน้ากากอนามัย จากนั้นก็ลำเลียงอากาศเข้าสู่ปอด การหายใจทางจมูกจะสร้างไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) เข้าสู่ปอด โดยทำให้ปอดขยาย ขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกเพื่อรับออกซิเจนมากขึ้น การหายใจแบบนี้จะช่วยให้หายเหนื่อยน้อยลง และหายปวดหัวอีกด้วย
อีกอย่างที่ช่วยได้ คือควรหมั่นดื่มน้ำให้เยอะๆ ออกกำลังกาย และกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เหมาะสมกับปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน เพื่อร่างกายที่แข็งพร้อมลุยในวันต่อๆ ไป