คนส่วนใหญ่น่าจะโตมากับคำแนะนำว่าควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน แต่ปัจจุบันมีหลายงานวิจัยที่ชี้ว่าอาจใช้ไม่ได้กับทุกคน ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมนั้นยังขึ้นอยู่กับช่วงวัย น้ำหนัก ส่วนสูง และการใช้พลังงานด้วย
การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นคำแนะนำตามมาตรฐานสากลที่ระบุไว้ใน Eatwell Guide ของระบบสาธารณสุขแห่งชาติประจำสหราชอาณาจักร (NHS) ที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นคำแนะนำตั้งแต่ปี 1945 จริงอยู่ที่ร่างกายของคนเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่า 60% (สำหรับคนที่โตเต็มวัย) แต่การบริโภค ‘น้ำ’ นั้นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็น ‘น้ำเปล่า’ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงน้ำที่อยู่ในอาหาร
สถาบันด้านการแพทย์ Medicine of the National Academies ในสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าชายและหญิงที่มีสุขภาพแข็งแรงควรดื่มน้ำประมาณ 13 แก้ว และ 9 แก้วต่อวัน โดย 20% ของน้ำที่เราบริโภคเข้าไปมาจากอาหาร ผัก และผลไม้ เช่น ผักขึ้นฉ่าย แตงกวา สตรอว์เบอร์รี ส้ม และแตงโม รวมไปถึงเมนูอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ อย่างชา กาแฟ นม ก็นับเหมือนกัน
ปริมาณน้ำที่ควรบริโภคในแต่ละช่วงอายุ
การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นคำแนะนำตามมาตรฐานสากลที่ระบุไว้ใน Eatwell Guide ของระบบสาธารณสุขแห่งชาติประจำสหราชอาณาจักร (NHS) ที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นคำแนะนำตั้งแต่ปี 1945 จริงอยู่ที่ร่างกายของคนเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่า 60% (สำหรับคนที่โตเต็มวัย) แต่การบริโภค ‘น้ำ’ นั้นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็น ‘น้ำเปล่า’ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงน้ำที่อยู่ในอาหาร
สถาบันด้านการแพทย์ Medicine of the National Academies ในสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าชายและหญิงที่มีสุขภาพแข็งแรงควรดื่มน้ำประมาณ 13 แก้ว และ 9 แก้วต่อวัน โดย 20% ของน้ำที่เราบริโภคเข้าไปมาจากอาหาร ผัก และผลไม้ เช่น ผักขึ้นฉ่าย แตงกวา สตรอว์เบอร์รี ส้ม และแตงโม รวมไปถึงเมนูอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ อย่างชา กาแฟ นม ก็นับเหมือนกัน
ปริมาณน้ำที่ควรบริโภคในแต่ละช่วงอายุ
- 1-3 ปี: 4 แก้ว/วัน
- 4-8 ปี ควรดื่มน้ำ 5 แก้ว/วัน
- 9-13 ปี ควรดื่มน้ำ 8-11 แก้ว/วัน
- 14-18 ปี ควรดื่มน้ำ 8 และ 11 แก้ว/วัน
- ชาย 19 ปีขึ้นไป: 13 แก้ว/วัน
- หญิง 19 ปีขึ้นไป: 9 แก้ว/วัน
- ตั้งครรภ์: 10 แก้ว/วัน (ให้นมบุตร 13 แก้ว/วัน)
