‘แหนเป็ด’ ซูเปอร์ฟู้ดแห่งปี 2025 เทรนด์อาหารยอดฮิตยุติโลกเดือด

17 มี.ค. 2568 - 11:49

  • “แหนเป็ด” พืชน้ำจิ๋วแต่แจ๋ว ได้รับการยกย่องให้เป็นเทรนด์อาหารยอดนิยมแห่งปี 2025 ในสหรัฐ และผ่านการรับรองจาก EFSA ให้บริโภคได้ในยุโรป หลังใช้เวลาผลักดันนานนับสิบปี

  • ผ่าเทรนด์ฮิตโปรตีนทางเลือก ปลูกได้ทั้งปี ลดการใช้น้ำและพลังงาน ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ccoeyes-duckweed-superfoods-of-2025-food-trends-to-end-climate-change-SPACEBAR-Hero.jpg

ปัญหาภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ กลายเป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คำถามใหญ่ที่เราต้องตอบให้ได้คือ “แล้วเราจะอยู่อย่างไร จะกินอะไรต่อไป?” เพื่อความอยู่รอดของทั้ง “โลก” และ “เรา”

หลายคนมองไปที่ “โปรตีนทางเลือก” ที่มาจากพืช ซึ่งไม่เพียงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ แต่ยังมีศักยภาพในการสร้างอาหารที่ยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งหนึ่งในแหล่งโปรตีนจากพืชที่กำลังมาแรงจนได้รับการยอมรับว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต และอาจเป็นกุญแจสำคัญในด้านความยั่งยืน (Sustainable) คือ “แหนเป็ด” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Duckweed

จุดเด่นที่ทำให้พืชชนิดนี้พิเศษกว่าใคร คือการได้รับการพิจารณาว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 35% แร่ธาตุ 20% และโปรตีนสูงถึง 40% นอกจากนี้ พวกมันยังไม่ต้องการสารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยจำนวนมาก ไม่แข่งขันกับพืชอื่นๆ สำหรับพื้นที่เกษตรกรรม และสามารถปลูกได้อย่างยั่งยืนในถาดตื้นที่มีน้ำสะอาดในเรือนกระจกหรือฟาร์มแนวตั้ง ซึ่งหมายความว่าพวกมันสามารถปลูกได้แม้ในเมือง

Dr.Ingrid van der Meer นักวิจัยอาวุโสและหัวหน้าภาควิชาชีววิทยาแห่ง Wageningen Plant Research กล่าว

ทำไมแหนเป็ดถึงเป็นอาหารอนาคต?

1.โปรตีนสูงและคุณค่าทางโภชนาการครบ แหนเป็ดมีโปรตีนสูงถึง 45% ซึ่งมากกว่าพืชหลายชนิดที่เราคุ้นเคย เช่น ถั่วเหลือง หรือผักโขม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กมากกว่าผักโขม และสังกะสี โพแทสเซียมในปริมาณสูง ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและตอบโจทย์การเสริมสร้างพลังงานได้อย่างดี แหนเป็ดจึงเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อโลกในเวลาเดียวกัน

2.ปลูกง่าย โตได้เร็ว แหนเป็ดมีคุณสมบัติที่ทำให้มันโดดเด่นในเรื่องการเติบโตอย่างรวดเร็ว มันสามารถเพิ่มปริมาณชีวมวลได้ถึงสองเท่าในเวลาเพียง 24-72 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าเราสามารถปลูกได้อย่างรวดเร็วและสามารถผลิตแหนเป็ดในปริมาณมาก โดยไม่ต้องใช้ดิน และไม่ต้องพึ่งสารเคมี นอกจากนี้ยังสามารถปลูกในแหล่งน้ำที่มีการควบคุม เช่น ฟาร์มแนวตั้งหรือแหล่งน้ำปิด ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

3.ใช้น้ำน้อย ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ
การปลูกแหนเป็ดไม่ต้องการน้ำมากเมื่อเทียบกับพืชอื่นๆ และไม่ต้องใช้พื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่ ทำให้มันเป็นพืชที่ยั่งยืนและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก

4.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปลูกแหนเป็ดช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตร และสามารถปลูกในแหล่งน้ำปิดได้ (แม้จะเติบโตได้ในแหล่งน้ำสาธารณะทั่วไป) นั่นแปลว่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากสารปนเปื้อน ลดปริมาณน้ำ พลังงาน  

“ผำ” รุ่นพี่....ดีกรีอาหารนาซ่า

ก่อนที่ “แหน” จะโด่งดัง ก่อนหน้านั้นเราอาจเห็น “ผำ” เจ้าของฉายา “คาเวียร์แห่งสายน้ำ” วัชพืชจิ๋วที่คุ้นเคยของคนไทยที่กลายเป็นรุ่นพี่ในแวดวงอาหารแห่งอนาคต ที่ได้รับความสนใจจากนาซาเพื่อนำไปใช้เป็นอาหารสำหรับนักบินอวกาศ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยได้รับความนิยมในหลายประเทศ เช่น อิสราเอล และสหรัฐฯ ทำให้ธุรกิจเพาะปลูกผำเริ่มขยายตัวด้วยศักยภาพในการเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนในอนาคต

ccoeyes-duckweed-superfoods-of-2025-food-trends-to-end-climate-change-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Dr.Ingrid van der Meer กับชุดทดสอบ ภาพ : Wageningen University & Research

แหนเป็ด: โปรตีนทางเลือกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

แหนเป็ดกำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ในอุตสาหกรรมอาหาร ที่จะเปลี่ยนแปลงการบริโภคโปรตีนจากสัตว์มาสู่โปรตีนจากพืชอย่างยั่งยืน การใช้แหนเป็ดเป็นโปรตีนทางเลือกช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในทางธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหาร การเปลี่ยนแปลงโปรตีน (Protein Transition) ที่เรากำลังเผชิญหน้าคือการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของโปรตีนจากสัตว์และพืชในอาหารของเราให้กลายเป็น 40/60 แทนที่การบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง ด้วยการพัฒนาแหล่งโปรตีนจากพืชอย่างแหนเป็ดนี้ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

ccoeyes-duckweed-superfoods-of-2025-food-trends-to-end-climate-change-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: เมนูพาสต้าที่ใช้โปรตีนทางเลือกจากแหนเป็ด ภาพ : Wageningen University & Research

เมนูเปลี่ยนโลก ทั้งอร่อยและดีต่อสิ่งแวดล้อม

“แหนเป็ด” ไม่ใช่แค่โปรตีนทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและโลก แต่ยังสามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์หลากหลาย ในอนาคต เมนูอาหารในร้านอาหารหรือซูเปอร์มาร์เก็ตอาจเต็มไปด้วยเมนูที่ทำจากแหนเป็ดที่ไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน เช่น ซุปแหนเป็ด เพสโต้แหนเป็ด หรือราวิโอลีไส้แหนเป็ด ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อโลก แถมหลายคนที่เคยลิ้มรสยังออกปากด้วยว่าเป็นอาหารแห่งอนาคต รสชาติที่ไม่ธรรมดา

EFSA รับรองให้บริโภค “แหนเป็ด” ได้ในยุโรป

หลังจากการผลักดันมานานนับสิบปี ล่าสุด “แหน” ก็ได้รับการรับรองจากสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหาร (EFSA) ให้สามารถบริโภคได้อย่างถูกกฎหมายในยุโรป และได้รับการยกย่องให้เป็นเทรนด์อาหารยอดนิยมประจำปี 2025 จากเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติของสหรัฐ Whole Foods Market Inc. นั่นแปลว่าต่อจากนี้จะมีการปลูกและซื้อขายกันอย่างถูกกฎหมายรวมถึงเปิดโอกาสให้แหนเป็ดกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต ซึ่งเราอาจได้ชิมสารพันเมนูจากแหนที่มีวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตในยุโรปและอาจได้เห็นในบ้านเรามากขึ้น

เพื่อเร่งทำให้โลกมีความมั่นคงทางอาหารทันกับเหตุการณ์ที่อาจสูญเสียแหล่งอาหาร ต้องบอกว่าสมควรแล้วที่ “แหนเป็ด” จะกลายเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่ช่วยให้โลกเย็นลงและส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งใครจะรู้ว่าเจ้าสีเขียวๆ ที่เราเคยเห็นในหนองน้ำจะกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการช่วยโลกใบนี้ให้เย็นลงได้

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์