เปิดรายชื่อ 40 ประเทศให้ ‘ความเท่าเทียม’ เปลี่ยนผ่านจากสังคม ‘ทนรับ’ สู่ ‘การยอมรับ’

21 ม.ค. 2568 - 09:08

  • เจาะลึกความยั่งยืนผ่าน “สมรสเท่าเทียม“ เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากสังคม “ทนรับ” สู่สังคมแห่งการ “ยอมรับ”

ecoeyes_40_countries_marriage_equality_is_a_basic_human_rights_SPACEBAR_Hero_b53fea7ff9.jpg

ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รับรองให้การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ต่อจากไต้หวัน และเนปาล

“ความเท่าเทียม” ไม่ใช่แค่เรื่องของสิทธิมนุษยชนที่สำคัญในระดับประเทศ แต่ยังเป็นเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs: Sustainable Development Goals) ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) วางกรอบไว้ผ่าน 17 เป้าหมายหลัก ซึ่งไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องของโลกร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังมุ่งส่งเสริมความเสมอภาคในสังคม ผ่านการเชื่อมโยงกันใน 5 มิติ

เพียงไม่กี่เดือนหลังจากการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมในราชกิจจานุเบกษา เมื่อเดือนกันยายน 2567 ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการยอมรับความหลากหลายทางเพศ ที่ไม่เพียงแต่ยกระดับสิทธิของ LGBTQIAN+ แต่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวและจดทะเบียนสมรสในประเทศไทย

June_18_join_in_celebrating_the_marriage_equality_bill_SPACEBAR_3_f2e3b0d6b4.jpg

การเปลี่ยนผ่านจากสังคม “ทนรับ” สู่สังคมแห่งการ “ยอมรับ”

ข้อมูลจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme in Thailand – UNDP Thailand) ระบุว่า นิยามของกฎหมายสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Law) ที่เป็นมากกว่าการสมรสเพศเดียวกัน (Same-Sex Marriage) 

โดยกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากสังคม “ทนรับ” สู่สังคม “ยอมรับ” ใน 3 แนวทางประกอบด้วย 

  • แนวทางแรกคือ กฎหมายสมรสเท่าเทียมกับจุดเร่งของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือกฎหมายคำนำหน้านาม กฎหมายการขจัดการเลือกปฏิบัติ และการทำให้อาชีพพนักงานบริการไม่ผิดกฎหมาย 
  • แนวทางที่สองคือ การเก็บข้อมูลจำแนกเพศ (Sex-Disaggregated Data) และข้อมูลจำแนกเพศอัตลักษณ์ (Gender-Disaggregated Data) เพื่อนโยบายที่สะท้อนความต้องการของคนที่หลากหลาย 
  • แนวทางที่สามคือ การสร้างเศรษฐกิจที่ครอบคลุมผ่านนโยบายองค์กร บริษัทที่มีการจ้างงานและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ครอบคลุมเพศหลากหลาย ที่จะนำไปสู่การพลิกโฉมทางสังคม
ecoeyes_40_countries_marriage_equality_is_a_basic_human_rights_SPACEBAR_Photo01_8e72c27cdb.jpg

ความเท่าเทียม กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 

สมรสเท่าเทียม คือส่วนหนึ่งของสิทธิเท่าเทียมกันในสายตากฎหมายของคู่รักที่ไม่ได้จำกัดเพศสภาพ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของมนุษย์ โดยการยอมรับสมรสเท่าเทียมในหลายประเทศทั่วโลกไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถสร้างครอบครัวและได้รับสิทธิทางกฎหมายที่เท่าเทียมกับคู่รักต่างเพศ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสิทธิที่ไม่มีข้อจำกัดเพราะรสนิยมทางเพศ

การยอมรับสมรสเท่าเทียม สัมพันธ์โดยตรงกับหลายเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรม

ecoeyes_bangkok_countdown_to_historic_marriage_equality_day_SPACEBAR_2_0e53e3c28b.jpg

**เป้าหมายที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ

(Achieve Gender Equality)** การประกาศรับรองสมรสเท่าเทียม ช่วยผลักดันการบรรลุเป้าหมายที่ 5 ของ SDGs ซึ่งมุ่งเน้นในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เพื่อขจัดความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ  พร้อมส่งเสริมการยอมรับและการเคารพสิทธิความเป็นมนุษย์

เป้าหมายที่ 10: ลดความไม่เท่าเทียม
(Reduced Inequality) สมรสเท่าเทียมช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เศรษฐกิจ การให้เข้าถึงสิทธิและประโยชน์ทางกฎหมายที่เท่าเทียมกับคู่รักต่างเพศ เช่น สิทธิในการสืบทอดมรดก การรับบุตรบุญธรรม  สิทธิทางภาษี ดังนั้น สิทธิและหน้าที่เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมใช้บังคับ จึงเป็นการขจัดอุปสรรคและการเลือกปฏิบัติที่เกิดขึ้นในสังคม 

เป้าหมายที่ 16: สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace Justice and Strong Institution) การรับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียมสะท้อนถึงการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเคารพในสิทธิเสมอภาค อันเป็นการเสริมสร้างสถาบันทางสังคมที่ยั่งยืน 

ด้วยการสนับสนุนเป้าหมาย SDGs ที่เน้นความเท่าเทียมทางเพศ กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล แต่จะช่วยยกระดับมาตรฐานทางสังคมและเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลกด้วย

ecoeyes_40_countries_marriage_equality_is_a_basic_human_rights_9ef455f451.jpg
เปิดรายชื่อ 40 ประเทศที่เพศเดียวกันแต่งงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย

เปิดรายชื่อ 40 ประเทศที่เพศเดียวกันแต่งงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย  

  1. เนเธอร์แลนด์ (ปี 2001)
  2. เบลเยียม (ปี 2003)
  3. สเปน (ปี 2005)
  4. แคนาดา (ปี 2005)
  5. แอฟริกาใต้ (ปี 2006)
  6. สวีเดน (ปี 2009)
  7. นอร์เวย์ (ปี 2009)
  8. อาร์เจนตินา (ปี 2010)
  9. โปรตุเกส (ปี 2010)
  10. ไอซ์แลนด์ (ปี 2010)
  11. เดนมาร์ก (ปี 2012)
  12. บราซิล (ปี 2013)
  13. ฝรั่งเศส (ปี 2013)
  14. นิวซีแลนด์ (ปี 2013)
  15. อุรุกวัย (ปี 2013)
  16. สหราชอาณาจักร (ปี 2014)
  17. สหรัฐอเมริกา (ปี 2015)
  18. ไอร์แลนด์ (ปี 2015)
  19. ลักเซมเบิร์ก (ปี 2015)
  20. โคลอมเบีย (ปี 2016)
  21. กรีนแลนด์ (ปี 2016)
  22. เยอรมนี (ปี 2017)
  23. ออสเตรเลีย (ปี 2017)
  24. ฟินแลนด์ (ปี 2017)
  25. มอลตา (ปี 2017)
  26. ไต้หวัน (ปี 2019)
  27. เอกวาดอร์ (ปี 2019)
  28. ออสเตรีย (ปี 2019)
  29. คอสตาริกา (ปี 2020)
  30. เม็กซิโก (ปี 2022)
  31. ชิลี (ปี 2022)
  32. คิวบา (ปี 2022)
  33. สวิตเซอร์แลนด์ (ปี 2022)
  34. สโลวีเนีย (ปี 2022)
  35. เนปาล (ปี 2023)
  36. อันดอร์รา (ปี 2023)
  37. กรีซ (ปี 2024)
  38. เอสโตเนีย (ปี 2024)
  39. ลิกเตนสไตน์ (ปี 2025)
  40. ประเทศไทย (ปี 2025)

ประเทศไทยพร้อมทุบสถิติโลก รับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

หลังจากที่ประเทศไทยผ่านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 โดยยินยอมให้บุคคลทุกเพศสามารถแต่งงานกันได้ถูกต้องตามกฎหมาย และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2025

ecoeyes_bangkok_countdown_to_historic_marriage_equality_day_SPACEBAR_5e7b6e7773.jpg

ในวันสำคัญนี้คู่รัก LGBTQIAN+ กว่า 1,000 คู่ (ยอดที่คาดการณ์) จะจดทะเบียนสมรสพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเจ้าของสถิติโลกใหม่ในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมมากที่สุดในโลก แซงหน้าสถิติเดิมของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ที่ทำไว้ 160 คู่ ในปี 2014 และล่าสุด 165 คู่ ในปี 2022

การสร้างสถิติครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการก้าวหน้าในด้านสิทธิของ LGBTQIAN+ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขทางเพศและเพศสภาพ ซึ่งจะช่วยทลายข้อจำกัดทางสังคมที่เคยขวางกั้นการแสดงออกของความรักในรูปแบบต่างๆ

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์