Climate Risk Index 2025 จัดอันดับผลกระทบโลกร้อน ไทยสัญญาณดีหนีจากอันดับ 9 ขึ้นมาที่ 30

18 ก.พ. 2568 - 04:34

  • ปี 1993-2022 ภัยพิบัติทางธรรมชาติคร่า 7.6 แสนชีวิต เป็นผลโดยตรงจากสภาพอากาศสุดขั้ว 9,400 ครั้ง

  • เปิดรายชื่อประเทศเตรียมรับความเสี่ยงที่สุดในระยะยาวจากผลพวงของภาวะโลกเดือด

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Hero.jpg

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยข้อมูล จากรายงาน Climate Risk Index 2025 โดย Germanwatch จัดอันดับประเทศเสี่ยงสูงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาวในช่วง 30 ปี (1993-2022) โดยประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 30 ลดลงจากอันดับ 9 เทียบกับ 4 ปีที่แล้ว (ช่วงปี 2000-2019) แต่ยังต้องเตรียมพร้อมตั้งรับและปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนภายใต้ภาวะโลกเดือดอย่างต่อเนื่อง

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: เจ้าหน้าที่กู้ภัยพายเรือไปตามถนนฝ่าน้ำท่วมในกรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2024 (Photo by Ted ALJIBE / AFP)

29 ปี โลกเจอเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วกว่า 9,400 ครั้ง

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากรายงาน Climate Risk Index 2025 โดย Germanwatch ซึ่งเผยแพร่ล่าสุดระบุว่า ในช่วงปี 1993-2022 ภัยพิบัติทางธรรมชาติคร่าชีวิตคนกว่า 765,000 คน และสร้างความเสียหายเกือบ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลโดยตรงจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วมากกว่า 9,400 ครั้ง

ซึ่งผลกระทบที่สำคัญที่สุดจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ได้แก่ พายุ (35%) คลื่นความร้อน (30%) และอุทกภัย (27%) ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต โดยอุทกภัยส่งผลกระทบต่อประชากรมากที่สุด คิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ขณะที่พายุก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากที่สุด คิดเป็น 56% ของมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมด หรือประมาณ 2.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือ อุทกภัย คิดเป็น 32% หรือประมาณ 1.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ จัดทำขึ้นโดยใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น ฐานข้อมูลเหตุการณ์ภัยพิบัติระดับสากล (EM-DAT) ธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดหลัก ได้แก่ จำนวนผู้เสียชีวิต จำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ และความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุ น้ำท่วม คลื่นความร้อน ภัยแล้ง ไฟป่า วิธีการนี้จะสามารถเปรียบเทียบผลกระทบของภัยพิบัติในประเทศต่าง ๆ และสะท้อนถึงแนวโน้มของความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี และแนวโน้มระยะยาว 30 ปี

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Photo V01.jpg

เปิดรายชื่อประเทศเตรียมรับความเสี่ยงที่สุดในระยะยาวผลจากโลกร้อน

จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่ยังไม่พัฒนา ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตมนุษย์และเศรษฐกิจ

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: รถยนต์ที่ถูกทำลายโดยน้ำท่วมในอัลฟาร์ บาเลนเซีย สเปน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ พฤศจิกายน 2024

10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง (1993-2022)

  1. โดมินิกา : ประเทศในแถบแคริบเบียนที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน พายุโซนร้อน ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตมนุษย์และความเสียหายทางเศรษฐกิจ
  2. จีน : ประสบกับน้ำท่วม ไต้ฝุ่น และคลื่นความร้อน (Heat wave) ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
  3. ฮอนดูรัส : ประเทศที่เผชิญกับพายุเฮอร์ริเคน และพายุโซนร้อน
  4. เมียนมา : เจอปัญหาพายุไซโคลนและน้ำท่วม
  5. อิตาลี : เผชิญกับเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง ทั้งน้ำท่วมและคลื่นความร้อน
  6. อินเดีย : เกิดภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น คลื่นความร้อน ไซโคลน และน้ำท่วม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 80,000 คน
  7. กรีซ : เผชิญกับไฟป่าและคลื่นความร้อน
  8. สเปน : รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนและน้ำท่วม
  9. วานูอาตู : ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงสูง
  10. ฟิลิปปินส์ : เผชิญกับพายุโซนร้อนหลายครั้งต่อปี ทำให้เกิดความเสียหายและการสูญเสียชีวิตอย่างมาก

10 ประเทศรับผลกระทบหนักสุดเพราะโลกร้อน

จากรายงาน Climate Risk Index 2025 ระบุว่าในปี 2022 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง 10 อันดับ ได้แก่

  1. ปากีสถาน
  2. เบลีซ
  3. อิตาลี
  4. กรีซ
  5. สเปน
  6. เปอร์โตริโก
  7. สหรัฐอเมริกา
  8. ไนจีเรีย
  9. โปรตุเกส
  10. บัลแกเรีย

ทั้งนี้ ทุกประเทศล้วนเผชิญกับพายุ น้ำท่วม และคลื่นความร้อน (Heat wave) ที่รุนแรง

ในกรณีของปากีสถาน เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,700 คน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

ส่วนอิตาลีและกรีซ ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดแม่สาย และชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตุลาคม 2567

สำหรับดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว (1993-2022) ประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุด แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

  1. ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติอย่างรุนแรง เช่น โดมินิกา ฮอนดูรัส เมียนมา และวานูอาตู 

  2. ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่น จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งรายงานเตือนว่า แนวโน้มสภาพอากาศสุดขั้วกำลังกลายเป็น “ความปกติใหม่” โดยเหตุการณ์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ กำลังกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้น

สัญญาณดี...ไทยความเสี่ยงลดลง

ในปี 2022 ประเทศไทยมีค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Risk Index: CRI) อยู่ในอันดับที่ 72 แสดงถึงผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วของไทยลดลง เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่อยู่ในอันดับ 34 ในขณะที่ค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว ที่ประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงระยะเวลา 30 ปี (1993-2022) พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 30 

ค่าดัชนีข้างต้นแสดงถึงผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วของไทยในระยะยาว ลดลงเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว ที่อยู่ในอันดับ 9 โดยขณะนั้นเป็นการประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงระยะเวลา 20 ปี (2000-2019) 

สาเหตุที่อันดับของประเทศไทยลดลงอย่างมากมาจากหลายปัจจัย เช่น ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ประเทศอื่นๆ เผชิญกับความสูญเสียและความเสียหายจากภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่รุนแรงกว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยลดลงเนื่องจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงวิธีการประเมินดัชนีความเสี่ยง ซึ่งเพิ่มตัวชี้วัดจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ และปรับเปลี่ยนช่วงระยะเวลาที่นำมาใช้ในการประเมินดัชนีความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศระยะยาว จากเดิม 20 ปี เป็น 30 ปี

ecoeyes-climate-risk-index-2025-thailand-is-less-affected-by-global-warming-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความเสี่ยงสูงแล้ว แต่ประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับผลกระทบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงฤดูร้อน ภัยแล้ง ปริมาณฝนที่ตกหนักผิดปกติ จนส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่ม เป็นต้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมรับมือและการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบเตือนภัยล่วงหน้า ให้มีความแม่นยำ การสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนอย่างทันท่วงที การพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยลดอุณหภูมิโลก เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยและคนไทยมีภูมิคุ้มกันต่อภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์