รู้จัก 'GFRP' นวัตกรรมทดแทนโครงสร้างเหล็ก ตัวเลือกที่เบากว่า ดี(กว่า)เพื่อโลก

1 เม.ย. 2568 - 11:51

  • ผลตรวจเหล็กจากตึก สตง. มีทั้ง ‘ผ่าน-ไม่ผ่าน’ มาตรฐาน

  • GFRP ตัวเลือกที่เบากว่า ดี(กว่า)เพื่อโลก แต่อาจไม่ใช่เพื่อชีวิตเรา ถ้าใช้ผิดประเภท

  • หากตั้งสมมติฐานว่า ตึก สตง.ใช้ GFRP การค้นหาผู้รอดชีวิตอาจง่ายกว่านี้ จริงหรือไม่?

ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Hero.jpg

หลายวันมานี้นั่งดูภาพข่าวการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ตึกถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เห็นอุปสรรคใหญ่ (ที่อาจเป็นสาเหตุของการพังถล่มของตึก สตง.แบบที่หลายคนคาดเดาด้วย) นั่นก็คือ เหล็กเส้น หรือเหล็กข้ออ้อยขนาดใหญ่ หนัก และระเกะระกะขัดขวางทีมกู้ภัย ซึ่งผลตรวจเหล็กจากตึก สตง. มีทั้ง ‘ผ่าน-ไม่ผ่าน’ มาตรฐาน

จากที่เคยเห็นจัดแสดงในมหกรรมด้านความยั่งยืนหลายครั้ง แม้สะดุดตาแต่ไม่ค่อยใส่ใจเพราะคิดว่ามันไกลตัว วันนี้กลับมาทบทวนแล้วมัน “ใกล้ตัว” กว่าที่เราคิด นั่นคือเรื่องของนวัตกรรมทดแทนโครงสร้างเหล็กที่ทำจากไฟเบอร์กลาส (GFRP) ซึ่งให้คุณสมบัติเช่นเดียวกับเหล็กโครงสร้าง

ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Photo05.jpg
Photo: GFRP หรือ Glass Fiber Reinforced Polymer นวัตกรรมวัสดุเสริมแรงในโครงสร้างคอนกรีต

GFRP คืออะไร?

Glass Fiber Reinforced Polymer หรือ GFRP คือวัสดุเสริมแรงไฟเบอร์กลาส (GFRP Rebar) ที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยไฟเบอร์กลาสที่ผ่านขบวนการดึงขึ้นรูปแล้วผสมเรซิน มีรูปร่างหน้าตา รวมถึงขนาดที่สามารถแทนที่เหล็กได้อย่างสบาย ด้วยคุณสมบัติรับแรงดึงสูงและมีน้ำหนักที่เบากว่าหลายเท่าตัว ทำให้มีการใช้ในเครื่องบิน เรือ สะพาน และงานก่อสร้างที่ต้องการวัสดุที่แข็งแรง รวมถึงต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน ซึ่งในสหรัฐและแคนาดามีการใช้ GFRP มานานพอสมควร ส่วนในไทยเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบัน

ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: เส้นใยที่นิยมใช้ในการทำวัสดุผสมและบาร์ ได้แก่ เส้นใยคาร์บอน เส้นใยแก้ว และเส้นใยอาราไมด์ ผลิตภัณฑ์สุดท้ายและโพลีเมอร์จะถูกผลิตจากโพลีเมอร์เสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP), โพลีเมอร์เสริมเส้นใยแก้ว (GFRP) และโพลีเมอร์เสริมเส้นใยอาราไมด์ (ARFP) : Feasibility and Utilization of GFRP in Concrete Structures / IJERT

ข้อดีของ GFRP นวัตกรรมทดแทนเหล็ก (ในแง่ของวิศวกรรม)

  • มีความแข็งแรง (Tensile strength) สูงกว่าเหล็กถึงสองเท่า
  • มีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก ขนส่งง่าย ขนย้ายสะดวก ทำให้น้ำหนักโครงสร้างเบาลง
  • มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลหรือสารเคมี ไม่เป็นสนิม จึงไม่ทำให้คอนกรีตเสียหาย และไม่ต้องบำรุงรักษา
  • ไม่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า
  • ใช้งานร่วมกับเหล็กเส้นได้

ข้อดีของ GFRP นวัตกรรมทดแทนเหล็ก (ในแง่ของสิ่งแวดล้อม)

  • ลดการใช้เหล็ก ด้วยคุณสมบัติที่ทดแทนเหล็กได้ แต่มีน้ำหนักเบากว่า จึงช่วยลดการใช้เหล็กในการก่อสร้าง ลดการขุดแร่เหล็กที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติมาใช้
  • ลดการปล่อย CO2 การผลิต GFRP ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าการผลิตเหล็ก ซึ่งเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสภาพอากาศโลก
  • ลดขยะ เพราะทนทานต่อการกัดกร่อน GFRP จึงแทบจะไม่ต้องมีการบำรุงรักษา หรือทาสีกันสนิม การใช้ GFRP จึงช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรในการซ่อมแซมบำรุงรักษา ช่วยลดการต้องเปลี่ยนวัสดุใหม่ และลดขยะจากการทิ้งวัสดุที่เสื่อมสภาพ
  • ลดการใช้พลังงานในการขนส่ง ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าเหล็ก ทำให้ลดการใช้พลังงานในกระบวนการขนส่งและการติดตั้ง ซึ่งเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases)
  • เป็นวัสดุตัวเลือกด้านเทคโนโลยีเพื่อโลก เพราะมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน GFRP จึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงานทดแทน โครงสร้างอาคาร และระบบขนส่ง ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: การทดสอบคุณสมบัติของ GFRP ที่เผยแพร่ในวารสารวิจัยทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีระดับนานาชาติ IJERT

การทดสอบคุณสมบัติของ GFRP

ข้อมูลการศึกษาความเป็นไปได้และการใช้ GFRP ในโครงสร้างคอนกรีต Feasibility and Utilization of GFRP in Concrete Structures ที่เผยแพร่ในวารสารวิจัยทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีระดับนานาชาติInternational Journal of Engineering Research & Technology (IJERT) อธิบายการทดสอบคุณสมบัติของ GFRP ดังนี้

ความแข็งแรงดึง (Tensile strength) GFRP มีความแข็งแรงกว่าเหล็กสองเท่า หากวัดกันที่ Tensile strength GFRP มีความแข็งแรงดึงสูง 500-1200 MPa เมื่อเทียบกับเหล็กเส้นที่มีความแข็งแรงดึงประมาณ 250-550 MPa ความแข็งแรงของ GFRP ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลาง และมีความสัมพันธ์แบบตรงข้ามกับขนาดนี้ คือยิ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก ความแข็งแรงก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ GFRP จะค่อนข้างไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 200°C ความแข็งแรงของ GFRP จะลดลง

ความแข็งแรงอัด (Compressive strength) GFRP เปราะมากกว่าเหล็ก จึงค่อนข้างเปราะบางและไม่เหมาะกับการใช้ในส่วนที่ต้องรับแรงอัด เช่น เสาที่รับน้ำหนักมากๆ เนื่องจากเส้นใยมีคุณสมบัติที่ไม่ทนทานต่อแรงอัด Compressive strength มากเท่าไร แต่สำหรับการใช้งานทางแนวราบส่วนใหญ่  GFRP ยังถือว่ามีประโยชน์มาก

โดยความแข็งแรงอัดของ GFRP จะอยู่ที่ประมาณ 40-60% ของความแข็งแรงดึง ซึ่งหมายความว่าเมื่อเทียบกับความแข็งแรงในการดึง (ที่ใช้ทดสอบการยืดของวัสดุ)  GFRP จะรับแรงอัดได้น้อยกว่าเหล็ก ในขณะเดียวกันความยืดหยุ่นของ GFRP ในการรับแรงอัด (คือความสามารถในการยืดหยุ่นตัวเมื่อมีแรงอัด) ก็ต่ำกว่าความยืดหยุ่นในการรับแรงดึง ซึ่งค่าความยืดหยุ่นของ GFRP อยู่ที่ประมาณ 40-55 GPa ในขณะที่เหล็กมีค่าความยืดหยุ่นสูงถึง 210 GPa

ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: การทดสอบคุณสมบัติของ GFRP ที่เผยแพร่ในวารสารวิจัยทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีระดับนานาชาติ IJERT

การยืดตัวและความล้า (Creep and Fatigue) ความเครียดสุดท้ายที่เกิดจากการยืดตัว (Creep) ประมาณ 3% ของความเครียดยืดหยุ่นเริ่มต้น ความล้าของบาร์ GFRP โดยทั่วไปจึงน้อยกว่าเหล็ก (อธิบายง่ายๆ ว่าเหล็กมีความเหนียวมากกว่าเมื่อถูกแรงดึงจะไม่ขาด ขณะที่ GFRP มีความเหนียวน้อยกว่าเมื่อถึงจุดที่ถึงจุดหนึ่งจึงขาดได้ง่ายกว่า)

น้ำหนัก (Weight) เพราะเป็นเส้นใย GFRP จึงมีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก ทำให้สามารถบำรุงรักษา จัดเก็บ และขนส่งได้ง่าย

ข้อจำกัดของ GFRP

แม้ว่าจะเป็นวัสดุที่น่าทึ่ง แต่ GFRP ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นจากกฎธรรมชาติ เพราะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่เหมาะกับงานที่ต้องรับแรงกระแทกหนักๆ หรือพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เพราะมีความแข็งแรงอัด (Compressive strength) ที่ต่ำกว่าเหล็ก จึงเหมาะสมที่สุดกับงานในแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นสะพาน ถนน หรือคอนกรีตวางบนดิน

ecoeyes-gfrp-innovation-instead-of-steel-better-choice-for-the-world-SPACEBAR-Photo06.jpg
Photo: ข้อจำกัดของ GFRP

การเลือกนำ GFRP มาใช้

สำหรับเหล็กเส้นไฟเบอร์กลาส GFRP เหมาะกับการใช้งานในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด เพราะขนย้ายสะดวก ใช้ได้ในโครงสร้างที่ต้องการฉนวนกันไฟฟ้าเพื่อเสริมความปลอดภัย และใช้ในงานโครงสร้างที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อนสูง เนื่องจาก GFRP มีคุณสมบัติเด่นตรงที่ไม่เป็นสนิม สุดท้ายคือ GFRP เหมาะกับการใช้งานโครงสร้างแนวราบ ด้วยคุณสมบัติความแข็งแรงดึง (Tensile strength) ที่มากกว่าเหล็กถึงสองเท่า

นวัตกรรม GFRP จึงนับเป็นวัสดุแห่งอนาคตที่รักษ์โลกมากกว่า และมาพร้อมกับความยั่งยืน ปลอดภัย หากเลือกใช้ให้ถูกประเภท ในวันที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลก GFRP จึงไม่ใช่แค่ตัวเลือกในการพัฒนาโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้ต้นทุนในการสร้างจะสูงกว่า แต่เพื่อโลกและผลดีในระยะยาว นวัตกรรมนี้นับว่าตอบโจทย์มากกว่าการใช้เหล็กแบบเดิมๆ และคุ้มค่าต่อการลงทุนเพื่ออนาคตอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้วต้องย้อนกลับที่คำถามตอนเริ่มต้น หากตั้งสมมติฐานว่า ตึก สตง.ใช้ GFRP การค้นหาผู้รอดชีวิตอาจง่ายกว่านี้ จริงหรือไม่?

คำตอบที่ได้คือ หากวัดด้วยน้ำหนักที่เบากว่าเหล็ก และความเปราะที่มากกว่า ถ้าตึก สตง.เป็นโครงสร้างพื้นคอนกรีตเสริม GFRP น้ำหนักก็น่าจะเบากว่า และเปราะแตกมากกว่าเมื่อได้รับแรงกระแทกตอนตกลงมาที่พื้น จึงน่าจะทำให้เหล็กเส้นที่ระเกะระกะลดลง และง่ายต่อการค้นหาผู้รอดชีวิตมากขึ้น 

...นาทีนี้จึงได้แต่ภาวนาให้ปาฏิหาริย์มีจริง และเราพบ “ผู้สูญหาย” มากกว่า “ร่างที่ไร้วิญญาณ”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์