รู้หรือไม่ เมืองที่เราอยู่ (ไม่ว่ามันจะ Joyful หรือไม่ก็ตาม) มีอิทธิพลต่อ ตัวตน ที่เราเป็น และ วิถีชีวิต ที่เราใช้
ถ้านึกไม่ออก งานวิจัย กรุงเทพ เมืองร้างรัก ที่เผยแพร่เมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว (จัดทำโดย 101 PUB: ศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง) น่าจะช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้น
“กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่เอื้อต่อการมีความรัก เพราะขาดพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สาธารณะให้พบรักและพัฒนาความสัมพันธ์...”
แม้งานวิจัยชิ้นดังกล่าวจะโฟกัสที่กลุ่มเยาวชน (15-25 ปี) แต่กลับสะท้อนให้เห็น เมือง และ ชีวิต ของใครหลายคนในกรุงเทพฯ (และอาจรวมถึงตัว “คุณ” เอง) ได้เป็นอย่างดี

ชีวิตในเมืองที่เป็นศูนย์กลางของการแข่งขัน ความทะเยอทะยานที่ไร้ขีดจำกัด ผลักให้เราทุกคน ตื่น-ไปทำงาน-แข่งขัน-ทุ่มเท-ดิ้นรน เพื่อไขว่คว้าความสำเร็จ และย้อมใจตัวเองในเวลาว่างด้วยสื่อบันเทิงและการใช้จ่าย ทว่าในใจลึกๆ กลับว้าเหว่และว่างเปล่า
กรุงเทพฯ และหลายเมืองใหญ่ในโลกมีสภาวะบางอย่างที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยเป็นแบบนั้น ชุมชนแหลกสลาย พื้นที่สาธารณะสูญหายเพราะถูกแปรสภาพเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ
มวลความเหงาและความเบื่อหน่ายจึงลอยอวลอัดแน่นเต็มมหานครที่วุ่นวายและไม่เคยหลับ
แต่ทุกสิ่งในโลกมีสองด้าน ในขณะที่เมืองเป็นผู้สร้างเรา ตัวเราเอง ก็เป็นผู้สร้างและกำหนดความเป็นเมืองด้วยเช่นกัน


หากเปรียบเมืองเป็นความรัก รักนั้นอาจสร้างความเจ็บปวด หรือสร้างความพึงใจ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ในห้วงรัก ว่ามีมุมมองและท่าทีของรักนั้นอย่างไร
ไม่มีรักไหนไร้ตำหนิ ไม่มีเมืองไหนที่สมบูรณ์พร้อม มีแต่การรู้จักสิ่งที่เรามีอยู่อย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้มองเห็นความงามและสิ่งดีๆ ที่สิ่งนั้นมีอยู่



Spacebar VIBE อยากชวนคุณออกไปใช้ชีวิตทำความรู้จักเมืองหรือย่านที่คุณอยู่ให้มากขึ้น เพื่อสร้างสีสันความ Joyful ในเมืองของคุณ ด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ (ขอแค่มีสมาร์ทโฟน)
รับประกันว่า ไม่มากก็น้อย คุณจะจอยกับเมืองมากกว่าเดิม
5 ขั้นตอน ตีสนิทกับย่านที่อยู่ สร้างชีวิตในเมืองให้ Joyful มากกว่าเดิม

บ้านคุณอยู่ที่ไหน แถวบ้านหรือย่านที่คุณอยู่มีสถานที่หรือ ‘อะไร’ เจ๋งๆ ซ่อนบ้าง ลองมาทำความรู้จักย่านที่คุณอยู่ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่...

- เปิด Google Maps แล้วสิ่งที่น่าสนใจรอบบ้านคุณในรัศมี 5 กิโลเมตร
- ค่อยๆ สังเกตด้วยการ Zoom in จุดเล็กๆ ตามซอกซอย อาจพบสิ่งน่าสนใจที่เคยมองข้าม
- ของดีในย่านอาจเป็นได้ตั้งแต่ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของวินเทจ คาเฟ่ลับ ห้องสมุดประชาชน สวนสาธารณะ ฯลฯ อีกมากมาย
TIP: ไม่ต้องรีบร้อนที่จะให้เวลาทำความรู้จักย่านของคุณ แล้วคุณจะพบ ของดี ที่ตัวคุณอาจไม่เคยนึกถึง ซึ่งจะช่วยให้จอยกับเมืองยิ่งกว่าเดิม

หลังจากคุณได้รู้จักย่านที่อยู่มากขึ้นแล้ว จงค่อยๆ คัดแยกสถานที่หรือสิ่งที่คุณสนใจ ซึ่งอาจมีนับสิบหรือนับร้อยแห่ง เก็บไว้ (save) ในรายการต่างๆ ใน Google Maps

- อาจเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการคัดแยกไว้ตามหมวดหมู่ความสนใจ ซึ่ง Google Maps สร้างไว้อยู่แล้ว เช่น สถานที่โปรด, อยากไป, สถานที่ติดดาว
- ถ้าต้องการคัดแยกละเอียดขึ้นตามความคิดของคุณ สามารถเพิ่มหมวดได้เอง เช่นอาจเพิ่มหมวด ร้านหนังสือ, คาเฟ่, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านขายต้นไม้ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของคุณ
- หรืออาจเก็บจุดลับๆ ที่คุณรักไว้ในลิสต์ลับเฉพาะก็ได้ เช่น คุณอาจตั้งรายการชื่อ ‘ที่ที่ฉันรัก’ เอาไว้เก็บมุมที่คุณรักในย่าน เช่น พุ่มเฟื่องฟ้าแสนสวย, ตู้ไปรษณีย์รุ่นคุณพ่อ
TIP: ถ้ายังไม่แน่ใจว่า สถานที่ที่พบ จะเป็นที่ที่รักหรือชอบหรือไม่ แนะนำให้บันทึกไว้ในรายการ ‘อยากไป’ เพื่อรอไปออกสำรวจใช้ชีวิตในเมืองให้เห็นกับตา

แม้จะรู้ว่าย่านของคุณมีอะไรมากมายผ่าน Google Maps แล้ว แต่วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณรู้จัก รู้ลึก และ Joyful คือ การออกเดินสำรวจและทำความรู้จักผู้คนในย่านของคุณ
- ตอนนี้คุณมีทุกอย่างพร้อมแล้วใน Google Maps จงเริ่มต้นวางแผนออกเดินทางด้วยสายตาของนักสำรวจ
- การสำรวจไม่ใช่การออกเดินทางทั่วไป แต่คือการสังเกตในรายละเอียด พินิจพิเคราะห์ และตั้งคำถามถึงสิ่งต่างๆ รอบตัว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นรายละเอียดและรู้จักย่านของคุณได้ดีกว่าสิ่งที่มีใน Google Maps

อย่าลืมที่จะพูดคุยหรือจอยกับ ผู้คน ที่คุณพบเจอ อาจเป็นคุณป้าร้านขายของชำ คุณน้าขายน้ำปั่น คุณลุงที่ไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์และก่อร่างสายสัมพันธ์ตัวคุณกับชุมชนให้แนบแน่นและ Joyful ยิ่งขึ้น
TIP: การเดินเท้าคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำความรู้จักย่านและชุมชนที่คุณอยู่ อย่าลืมพกสายตาของนักเดินทาง (และรอยยิ้ม) ไปด้วยล่ะ!

การออกเดินสำรวจช่วยให้คุณรู้จักย่านที่อยู่อาศัยมากกว่าเดิม ได้รู้ ได้เห็น ได้พบสิ่งต่างๆ ที่เคยมองข้าม คุณได้สายตาใหม่ ซึ่งจะช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไป และจอยกับย่านที่อยู่อาศัยมากกว่าเดิม
- หลังเดินสำรวจ คุณจะได้รู้จักสถานที่ใหม่ๆ และพบจุดที่หลงรักมากขึ้น ย่านเก่าของคุณไม่ใช่ย่านที่คุณเคยรู้จักอีกต่อไป
- อย่าให้สถานที่ใหม่ๆ ที่รักอยู่แค่ในลิสต์ในสมาร์ทโฟน แต่เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเชื้อไฟในการออกแบบวิถีชีวิตใหม่ที่จะเพิ่มสีสันให้ชีวิตเบิกบานด้วยความ Joyful
- สิ่งที่ควรรู้คือ การออกแบบ ไม่ใช่เรื่องที่ทำแล้วจบ แต่คุณสามารถออกแบบได้เรื่อยๆ ตามจังหวะชีวิตในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงหน้าเทศกาลก็แบบหนึ่ง ช่วงฤดูฝนก็อีกแบบ หรือในช่วงที่คุณอยากหาที่นั่งทำงานในวัน WFH ก็เป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้เหมือนกัน

TIP: แนะนำให้ออกแบบไลฟ์สไตล์แบบเป็นเพลย์ลิสต์ เช่น WFH, Party, Friday Night ฯลฯ (หรือวิธีอื่นๆ ตามที่ถนัด) เพื่อเวลาที่นึกอยากจะใช้ชีวิตแบบไหนจะประหยัดเวลา ไม่ต้องนั่งทำการบ้านใหม่ตั้งแต่ต้น แล้วออกไปใช้ชีวิตจอยกับเมืองได้เลย

ถ้ามีของดีแล้ว อย่าลืมแบ่งปันสิ่งที่คุณรู้จักและจอยสุดๆ ในย่านของคุณให้คนอื่นได้รู้ แล้วมาร่วมสร้างความ Joyful ในย่านที่คุณอยู่ไปด้วยกัน
- การสร้างเมืองหรือย่านให้ดี ไม่มีใครสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว แต่เกิดจากการที่ทุกคนร่วมกันสร้างบรรยากาศนั้นให้เกิดขึ้น
TIP: แชร์สิ่งที่คุณรักในย่านของคุณไปในโลกออนไลน์ อาจเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบไหนก็ได้ ของแค่คุณรักและจอยที่จะทำ รับรองคนอื่นจะสัมผัสถึงความ Joyful นั้นได้
นอกจากวิธีที่เราจะมาสร้างชีวิตตัวเองให้ Joyful แล้ว บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ในมหานครอย่างกรุงเทพฯ ยังลงมาร่วมสร้างชีวิตเมืองให้ดีขึ้นผ่านแคมเปญ ANANDA JOYFUL LIVING ด้วยแนวคิด เพราะ #ชีวิตเมือง Joy ได้ทุกวัน เพื่อทำให้ชีวิตของเราและเมืองมีสีสันผ่านความตั้งใจในการสร้างพื้นที่อาศัยที่ดีด้วยองค์ประกอบ 4 ด้าน ได้แก่
- 𝗟𝗼𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 ที่อยู่อาศัยที่ดี จะต้องเดินทางได้สะดวก
- 𝗙𝗮𝗰𝗶𝗹𝗶𝘁𝗶𝗲𝘀 พื้นที่ส่วนกลางที่ดี จะต้องยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยได้
- 𝗦𝗲𝗿𝘃𝗶𝗰𝗲𝗱 คุณภาพงานก่อสร้างและบริการหลังการขายที่ดีภายใต้มาตรฐานจากอนันดา
- 𝗗𝗲𝘀𝗶𝗴𝗻 ไม่ใช่แค่สวยงามแต่ยังเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยและเมืองได้
กลับไปที่บรรทัดแรกของบทความนี้ เมืองที่เราอยู่ มีอิทธิพลต่อ ตัวตน ที่เราเป็น และ วิถีชีวิต ที่เราใช้
ขณะเดียวกัน เมืองก็สร้างเรา และเราก็สร้างเมืองเช่นเดียวกัน
สิ่งที่แคมเปญ ANANDA JOYFUL LIVING คิดอยู่บนแนวคิดนี้ และสิ่งที่ Spacebar VIBE ทำคือเราสามารถสร้างความ Joyful นั้นได้ เพียงแค่เริ่มต้นที่ตัวเรา
ด้วยการรู้จักย่านที่เราอยู่อย่างลึกซึ้ง สัมผัสความงามและสิ่งดีๆ ที่ย่านนั้นมีอยู่ แล้วบอกเล่าให้คนอื่นได้รู้ เพื่อจะได้ Joyful ไปด้วยกัน