บนโลกที่เต็มไปด้วยกรอบระเบียบ กฏเกณฑ์ และความคาดหวัง เราต่างกำลังแสวงหาลู่ทางในการหลุดพ้นและสลัดหล่นตัวตนที่สวมครอบไว้เหนือผิวหนัง บ้างพยายามแกะเกาและละเลงเนื้อแท้ลงบนพื้นผ้า บ้างพยายามเสาะหาเศษเสี้ยวที่กระจัดกระจายและสูญหายผ่านเสียงดนตรี บ้างสบถระบายความในใจผ่านตัวอักษร และบ้างเก็บเกี่ยวทักถอความคิด สิ่งที่พบเจอออกมาเป็นชิ้นงาน
เฌอแตม-มลลินิน ศรีสว่าง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแฮนด์คราฟต์ Jetaim_Kantan เริ่มไอเดียการทำเสื้อผ้ามาจากสาเหตุเดียวกัน ทุกผลงานคือการบอกเล่าและตอบสนองความต้องการของตัวเธอในวันที่สังคมไม่อนุญาตให้เป็นตัวเอง เมื่อความเชื่อของผู้คนในสังคมดีงามทำให้ความชื่นชอบทางร่างกาย สรีระ และเพศของเธอกลายเป็นเรื่องผิดบาป ทุกการตั้งคำถามและความสงสัยจึงถูกถ่ายทอดและท้าทายอุดมคติความเชื่อผ่านเข็มร้อย เส้นด้าย และลวดลายของเรือนร่างหญิงสาว
เฌอแตม-มลลินิน ศรีสว่าง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแฮนด์คราฟต์ Jetaim_Kantan เริ่มไอเดียการทำเสื้อผ้ามาจากสาเหตุเดียวกัน ทุกผลงานคือการบอกเล่าและตอบสนองความต้องการของตัวเธอในวันที่สังคมไม่อนุญาตให้เป็นตัวเอง เมื่อความเชื่อของผู้คนในสังคมดีงามทำให้ความชื่นชอบทางร่างกาย สรีระ และเพศของเธอกลายเป็นเรื่องผิดบาป ทุกการตั้งคำถามและความสงสัยจึงถูกถ่ายทอดและท้าทายอุดมคติความเชื่อผ่านเข็มร้อย เส้นด้าย และลวดลายของเรือนร่างหญิงสาว

การประกอบสร้างของเฌอแตม
ความผูกพันธ์ของแฟชั่นและเฌอแตมเริ่มขึ้นตั้งแต่จำความได้ เธอมักจะเล่นสนุกด้วยการนำเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ มา Mix & Match กันเสมอ แม้ใครจะมองว่านั่นเป็นเรื่องปกติทั่วไปของเด็กผู้หญิงในวัยเธอ แต่เฌอแตมรับรู้ได้ตั้งแต่ตอนนั้นว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองต้องการ“เราเป็นคนชอบศิลปะ ชอบแฟชั่น แล้วก็ชอบทำงานแฮนด์คราฟต์ตั้งแต่เด็กๆๆ เวลามีวันเกิดใครหรือมีโอกาสสำคัญอะไร เรามักจะชอบทำของขวัญให้คนอื่นเสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขเวลากับที่ได้ทำ เราก็เลยรู้สึกชอบ” เธอเล่าไปยิ้มไปพลางนึกถึงวันวาน

ทุกครั้งที่ได้ลงมือสร้างอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการห่อของขวัญ การทำการ์ดอวยพร หรือการทำคอลลาจสมุดโน๊ตไดอารี่ เฌอแตมมักจะมีความสุขเสมอที่ได้เห็นความตั้งใจของตัวเองค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นรูปเป็นร่างสวยงามดั่งภาพที่จินตนาการไว้ เธอจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แสดงความอิ่มเอมใจกับฝีมือของตัวเองอย่างนั้นสักพัก ช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับเธอ และด้วยก้อนความรู้สึกที่เธอจดจำได้ทำให้เฌอแตมตัดสินใจเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยบูรพา
“ตั้งแต่เด็กๆ เรามักจะโดนบอกว่า ‘สวยใสไร้สมอง’ มาโดยตลอด คนจะชอบพูดว่าเราแค่หน้าตาดีแต่เรียนไม่เก่ง ทั้งๆ ที่จริงๆ เราแค่เรียนหนังสือ ‘บาง’ วิชาไม่เก่ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีความสามารถด้านอื่นเลย เราชอบศิลปะและทำมันได้ดีมาตลอด ซึ่งแม้ตอนนั้นมันจะสร้างปมให้เรารู้สึกว่าเราโง่ เราไม่เก่ง แต่เราก็คิดว่าหรือเราแค่ไปอยู่ผิดที่หรือเปล่า ก็เลยโฟกัสกับตัวเองและมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ”
“ข้อดีคือเราโชคดีมากที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตเสมอ ย้อนกลับไปในสมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน การที่พ่อแม่จะสนับสนุนให้ลูกเรียนศิลปะเป็นเรื่องยากมาก แล้วเราโตมากับพ่อแม่บุญธรรมที่เป็นข้าราชการทั้งคู่ พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นครู แต่ไม่เคยมีใครมาตัดสินเลยว่าเราต้องทำอะไร ซึ่งตอนแรกเราสอบติดนิติศาสตร์ด้วยนะ แต่ที่บ้านไม่ยอมให้เราไปเรียน เพราะมองว่าเราชอบศิลปะมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับพ่อแม่ในยุคนู้นที่ทำแบบนี้”
“ตั้งแต่เด็กๆ เรามักจะโดนบอกว่า ‘สวยใสไร้สมอง’ มาโดยตลอด คนจะชอบพูดว่าเราแค่หน้าตาดีแต่เรียนไม่เก่ง ทั้งๆ ที่จริงๆ เราแค่เรียนหนังสือ ‘บาง’ วิชาไม่เก่ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีความสามารถด้านอื่นเลย เราชอบศิลปะและทำมันได้ดีมาตลอด ซึ่งแม้ตอนนั้นมันจะสร้างปมให้เรารู้สึกว่าเราโง่ เราไม่เก่ง แต่เราก็คิดว่าหรือเราแค่ไปอยู่ผิดที่หรือเปล่า ก็เลยโฟกัสกับตัวเองและมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ”
“ข้อดีคือเราโชคดีมากที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่คอยซัพพอร์ตเสมอ ย้อนกลับไปในสมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน การที่พ่อแม่จะสนับสนุนให้ลูกเรียนศิลปะเป็นเรื่องยากมาก แล้วเราโตมากับพ่อแม่บุญธรรมที่เป็นข้าราชการทั้งคู่ พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นครู แต่ไม่เคยมีใครมาตัดสินเลยว่าเราต้องทำอะไร ซึ่งตอนแรกเราสอบติดนิติศาสตร์ด้วยนะ แต่ที่บ้านไม่ยอมให้เราไปเรียน เพราะมองว่าเราชอบศิลปะมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับพ่อแม่ในยุคนู้นที่ทำแบบนี้”

แม้จะได้เดินทางอยู่ในวงรอบของความชื่นชอบ แต่อย่างที่เราต่างทราบกันดีว่าการเติบโตไม่ได้ใจดีขนาดนั้น บ่อยครั้งออกจะโหดร้ายด้วยซ้ำ ความสนุกและความสุขที่เฌอแตมเคยได้พบเจอในวัยเด็กเริ่มค่อยๆ จางหายลับไปกลายเป็นความจำ ความยากลำบากและความเหนื่อยหน่ายเริ่มเข้ามาแทนที่หลังจากการเรียนจบและได้เข้าทำงานประจำในบริษัทส่งออกจิวเวลรี
“ตอนนั้นเราอายุประมาณ 22 ปี ทำงานประจำมาได้ประมาณปีหนึ่งแต่ไม่มีความสุขเลย มันรู้สึกเหนื่อยใจมากแล้วก็ไม่ถูกจริตกับเราเลย เราก็เลยตัดสินใจลาออก”
“ช่วงลาออกมา 2-3 เดือนแรกเราก็นอนดูอะไรไปเรื่อย พยายามหาอะไรทำในแกลลอรี่ที่แฟนเราทำงานอยู่ แล้วมันก็เลยเหมือนได้กลับเข้ามาในแวดวงศิลปะอีกครั้ง ตอนนั้นเราติดตามศิลปินต่างชาติคนหนึ่งอยู่ เขาทำงานปักเหมือนกันแต่เข็มที่เค้าใช้เป็นเหมือนเข็มญี่ปุ่น ซึ่งพอเราเห็นแล้วเราก็รู้สึกว่าการปักผ้าก็เป็นศิลปะอีกหนึ่งแขนงที่น่าสนใจดี เราก็เลยลองตามหาเข็มที่เขาใช้ แต่ในไทยมันไม่มี ก็เลยลองปรับมาเป็นเข็มปักลูกปัดแต่นำมาใช้กับด้ายแทน”
“ตอนนั้นเราอายุประมาณ 22 ปี ทำงานประจำมาได้ประมาณปีหนึ่งแต่ไม่มีความสุขเลย มันรู้สึกเหนื่อยใจมากแล้วก็ไม่ถูกจริตกับเราเลย เราก็เลยตัดสินใจลาออก”
“ช่วงลาออกมา 2-3 เดือนแรกเราก็นอนดูอะไรไปเรื่อย พยายามหาอะไรทำในแกลลอรี่ที่แฟนเราทำงานอยู่ แล้วมันก็เลยเหมือนได้กลับเข้ามาในแวดวงศิลปะอีกครั้ง ตอนนั้นเราติดตามศิลปินต่างชาติคนหนึ่งอยู่ เขาทำงานปักเหมือนกันแต่เข็มที่เค้าใช้เป็นเหมือนเข็มญี่ปุ่น ซึ่งพอเราเห็นแล้วเราก็รู้สึกว่าการปักผ้าก็เป็นศิลปะอีกหนึ่งแขนงที่น่าสนใจดี เราก็เลยลองตามหาเข็มที่เขาใช้ แต่ในไทยมันไม่มี ก็เลยลองปรับมาเป็นเข็มปักลูกปัดแต่นำมาใช้กับด้ายแทน”

Jetaim_Kantan ลายปักรูปเต้านมกับความอิสระของหญิงสาว
หลังจากเดินทางตามหาอุปกรณ์และเส้นทางในการกลับสู่สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบอยู่นาน เฌอแตมไม่รีรอที่จะละเลงตัวตนลงบนเนื้อผ้าและปลดปล่อยความคิดผ่านฝีเข็ม เธอลงมือปักลาย ‘เต้านม’ ลงบนเสื้อตัวแรก ลวดลายของนม 3 เต้าที่ถูกออกแบบและปักแบบฟรีแฮนด์ ดีไซน์สุดชิกที่เป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาวยุคใหม่และกลายเป็นลายซิกเนเจอร์ของแบรนด์“เราไม่เคยคิดว่าทุกคนจะชื่นชอบลายเต้านม หรือทำไมเราถึงปักลายนี้ มันแอบเป็นคำถามที่ตอบยากอยู่เหมือนกัน เพราะมันเป็นแค่ความรู้สึกว่าอยากทำ ทำเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวมากกว่า ซึ่งจริงๆ เราเป็นคนชอบ Free Nipples ก่อนที่จะมีแคมเปญต่างๆ ออกมาอยู่แล้วด้วยนะ แค่แอบรู้สึกว่าอิสระดี” เธอตอบพลางนิ่งครุ่นคิดอีกครู่
“แต่เอาจริงๆ เราเป็นคนชอบมองคน ชอบสรีระ ชอบเรื่องเซ็กซ์อยู่แล้วด้วยแหละ อย่างแฟนเราชอบวาดรูปเหมือนคน เราก็จะชอบไปถามว่าทำไมไม่ลองบิดให้เป็นรูปเหมือนดอกไม้แต่จริง ๆ คือมีเพศสัมพันธ์กันอยู่ 3 คนอะไรอย่างงี้ คือมันเป็นเรื่องปกติที่อยู่ในชีวิตของคนอยู่แล้ว เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เราเกิดมาก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แล้วมองว่าเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง เราชอบส่วนเว้าส่วนโค้ง และทุกคนก็มีสัดส่วนที่ดีในแบบของตัวเอง”


ซึ่งหลังจากการได้กลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรักกว่า 4 ปี และได้รับความรักจากบรรดาลูกค้ามากมายจนกลายเป็นอีก 1 แบรนด์เสื้อผ้าที่น่าจับตามองของวงการแฟชัน ล่าสุดเฌอแตมได้ขยับขยายพื้นที่จากการเปิดร้านออนไลน์สู่การมีโฮมสตูดิโอ พื้นที่ของอาคารสีขาว 2 ชั้นที่ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาและอบอวลไปด้วยศิลปะหลากแขนงของเธอกับครอบครัว
“จริงๆ เราไม่ได้อยากให้มันเป็นร้าน เราอยากให้มันเป็น Art Space เราอยากมีบ้านที่อยู่ในที่เดียวกับที่ทำงาน เพราะก่อนหน้านี้เราอยู่คอนโดแล้วรู้สึกว่าพื้นที่มันไม่เหมาะกับการทำงานสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่สำหรับเราคนเดียวแต่สำหรับแฟนเราที่ต้องวาดรูปด้วย เราก็เลยอยากได้ที่ทำงานที่สบายใจ สบายตา ไม่ปวดหลัง ก็เลยปรึกษากันว่าจะหาที่อยู่ใหม่ แล้วก็มาเจอบ้านหลังนี้แหละ ซึ่งพอเจอแล้วทุกอย่างมันเร็วมากแบบ 2 วันหลังจากมาดูบ้านก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากันแล้วเริ่มรีโนเวทบ้านจนเป็นแบบนี้เลย”
“จริงๆ เราไม่ได้อยากให้มันเป็นร้าน เราอยากให้มันเป็น Art Space เราอยากมีบ้านที่อยู่ในที่เดียวกับที่ทำงาน เพราะก่อนหน้านี้เราอยู่คอนโดแล้วรู้สึกว่าพื้นที่มันไม่เหมาะกับการทำงานสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่สำหรับเราคนเดียวแต่สำหรับแฟนเราที่ต้องวาดรูปด้วย เราก็เลยอยากได้ที่ทำงานที่สบายใจ สบายตา ไม่ปวดหลัง ก็เลยปรึกษากันว่าจะหาที่อยู่ใหม่ แล้วก็มาเจอบ้านหลังนี้แหละ ซึ่งพอเจอแล้วทุกอย่างมันเร็วมากแบบ 2 วันหลังจากมาดูบ้านก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากันแล้วเริ่มรีโนเวทบ้านจนเป็นแบบนี้เลย”

หลังจากการมีโฮมสตูดิโอ เฌอแตมเล่าว่าเธอสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะยังคงมีช่วงติดขัดของไอเดียบ้าง แต่ก็สามารถทำให้เธอจัดการทุกอย่างได้เป็นระบบระเบียบกว่าเดิม โดยในช่วงนี้เธอเปิดการขายเป็นแบบ Pre-Order เพื่อให้ลูกค้าสามารถ Custom สินค้าในแบบที่ตัวเองชื่นชอบได้มากขึ้น อีกทั้งไอเดียในการสร้างสรรค์ดีไซน์ก็เพิ่มมากขึ้นด้วย เพิ่มมากขึ้นขนาดที่แบรนด์ของเธอกลายเป็นที่ต้องการจนมีคนเลียนแบบเสื้อผ้าของเธอไป
“เราโดน 2 รอบ รอบแรกตอนนั้นเราโกรธมาก หาเบอร์ หาชื่อร้านทันทีเลย แต่สรุปผิดร้าน (หัวเราะ) คือชื่อเหมือนกันแต่คนละร้าน จากที่เราดูมาเขาน่าจะเอาแบบเราไปทำในไทยก่อน ดัดแปลงจากของเราตามคุณภาพที่เขาทำได้ ตอนนั้นคนก็เลยยังพอแยกออก แต่รอบสองคือเหมือนเป๊ะ! ซึ่งน่าจะมาจากโรงงานที่จีน ที่เจ็บปวดเลยคือเราไปเห็นอยู่เต็มประตูน้ำ เต็มแพลตตินั่มที่เขารับมาขาย แบบมีลูกข่ายเยอะมาก ๆ เราเลยหายไปซักพัก เดือนนั้นที่เกิดเรื่องเรานอนทั้งเดือนเลยนะ ไม่อยากทำอะไรแล้ว”
“ตอนนั้นทุกคนก็พยายามมาปลอบใจนะว่าเพราะเราสำเร็จ เราถึงโดนก๊อป เราก็เข้าใจแหละ แต่ความเสียใจมันยังอยู่ เราก็เลยไปปรึกษาเรื่องจดทะเบียนสินค้า ตอนนั้นก็ไปถามว่าต้องทำอะไร อย่างไร จดมากแค่ไหน คำตอบที่ได้คือถ้าจะจดเราต้องจดทุกลายของเราเลย มันไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมดขนาดนั้น แล้วเราไม่ไหวอ่ะ ก็เลยรู้สึกว่าปล่อยมันไป แล้วกลับมาทำงานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ยังพูดติดตลกกับเพื่อนเลยว่ามันก๊อปงานเราไม่ทันหรอก เพราะเรายังไม่รู้เลยว่างานต่อไปเราจะทำอะไร เรานึกอะไรออกเราก็ทำ ใครก๊อปทันก็ก๊อป เราเลยช่างมัน ปล่อยว่าง หันมาทำงานตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ”
“เราโดน 2 รอบ รอบแรกตอนนั้นเราโกรธมาก หาเบอร์ หาชื่อร้านทันทีเลย แต่สรุปผิดร้าน (หัวเราะ) คือชื่อเหมือนกันแต่คนละร้าน จากที่เราดูมาเขาน่าจะเอาแบบเราไปทำในไทยก่อน ดัดแปลงจากของเราตามคุณภาพที่เขาทำได้ ตอนนั้นคนก็เลยยังพอแยกออก แต่รอบสองคือเหมือนเป๊ะ! ซึ่งน่าจะมาจากโรงงานที่จีน ที่เจ็บปวดเลยคือเราไปเห็นอยู่เต็มประตูน้ำ เต็มแพลตตินั่มที่เขารับมาขาย แบบมีลูกข่ายเยอะมาก ๆ เราเลยหายไปซักพัก เดือนนั้นที่เกิดเรื่องเรานอนทั้งเดือนเลยนะ ไม่อยากทำอะไรแล้ว”
“ตอนนั้นทุกคนก็พยายามมาปลอบใจนะว่าเพราะเราสำเร็จ เราถึงโดนก๊อป เราก็เข้าใจแหละ แต่ความเสียใจมันยังอยู่ เราก็เลยไปปรึกษาเรื่องจดทะเบียนสินค้า ตอนนั้นก็ไปถามว่าต้องทำอะไร อย่างไร จดมากแค่ไหน คำตอบที่ได้คือถ้าจะจดเราต้องจดทุกลายของเราเลย มันไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมดขนาดนั้น แล้วเราไม่ไหวอ่ะ ก็เลยรู้สึกว่าปล่อยมันไป แล้วกลับมาทำงานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ยังพูดติดตลกกับเพื่อนเลยว่ามันก๊อปงานเราไม่ทันหรอก เพราะเรายังไม่รู้เลยว่างานต่อไปเราจะทำอะไร เรานึกอะไรออกเราก็ทำ ใครก๊อปทันก็ก๊อป เราเลยช่างมัน ปล่อยว่าง หันมาทำงานตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ”

เพราะแฮนด์คราฟต์คือการส่งต่อความสุข
สำหรับเฌอแตม ตลอดระยะเวลาการทำงานแฮนด์คราฟต์ ‘ความสุข’ กลายเป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่เธอยึดถือ แม้อาจดูขัดกับสังคมระบบทุนนิยมในปัจจุบันอยู่มาก แต่เธอมองว่าชีวิตของคนเราสั้นเกินกว่าจะยึดติดกับชุดความเชื่อที่ทำให้เรามีแต่ความทุกข์“เรามองว่านี้เป็นแค่การเริ่มต้น เรายังมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะมากๆ อยากทำงานลงแคนวาส อยากทำงานลงผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าปูโต๊ะ หรืออะไรก็แล้วแต่ เรื่องของรายได้ไม่ใช่สิ่งที่เรากังวล เรารู้สึกว่าถ้าเราอยากทำในสิ่งที่ชอบจริงๆ เราจะหาทางให้ได้อยู่กับมันจนได้”
“เอาจริงๆ ตัวเราเองก็ยังทำงานอีกหลายอย่างนอกเหนือจากการทำแบรนด์นะ ยังคงวิ่งงานหัวหมุนอยู่ทุกเดือน แต่เราแค่โฟกัสตรงจุดนี้เพราะนี่คือสิ่งที่เราชอบ เราเลยไม่คิดอะไรมาก แค่มีเงินหมุนคล่องๆ ทุกเดือนพร้อมกับได้ทำสิ่งที่รักก็โอเคแล้ว”

แม้ผลตอบแทนของความรักและความทุ่มเทในบางครั้งอาจเป็นความเจ็บปวดระหว่างทางไปบ้าง ความเหนื่อยล้าจากการทำงานอื่นเพื่อประคองความฝัน ความทุ่มเทในการออกแบบงาน และความท้อแท้จากการโดนลอกเลียนผลงานจนทำให้หยุดทำงานไปชั่วขณะหนึ่ง แต่สุดท้ายผลจากความมุ่งมั่นของเธอก็ทำให้วันนี้เธอได้รับความรักคืนมาเช่นกัน
“เราขอบคุณทุกคนมากจริงๆ เพราะเรานั่งทำงานคนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมมาตลอด เลยไม่คิดว่าใครจะมารักแบรนด์เรา แต่วันนี้ที่ได้รับความรักและความสนใจจากทุกคน มันทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องเดินไปข้างหน้าและตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนสิ่งที่ได้รับกลับมา”
“เราอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นว่างานของตัวเองมันดีพอและมันตอบสนองต่อความสุขของเราได้ งานคราฟต์ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความเป็นตัวตนของผู้ทำอยู่ภายในงานสูง อย่ากลัวในการที่จะลองทำมัน เชื่อเถอะว่านอกจากการที่เราจะได้ทำในสิ่งที่รักแล้ว สิ่งนั้นมันยังสามารถส่งต่อความสุขให้กับผู้คนที่ผ่านมาเห็นได้ด้วยเหมือนกัน”
“เราขอบคุณทุกคนมากจริงๆ เพราะเรานั่งทำงานคนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมมาตลอด เลยไม่คิดว่าใครจะมารักแบรนด์เรา แต่วันนี้ที่ได้รับความรักและความสนใจจากทุกคน มันทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องเดินไปข้างหน้าและตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนสิ่งที่ได้รับกลับมา”
“เราอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นว่างานของตัวเองมันดีพอและมันตอบสนองต่อความสุขของเราได้ งานคราฟต์ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความเป็นตัวตนของผู้ทำอยู่ภายในงานสูง อย่ากลัวในการที่จะลองทำมัน เชื่อเถอะว่านอกจากการที่เราจะได้ทำในสิ่งที่รักแล้ว สิ่งนั้นมันยังสามารถส่งต่อความสุขให้กับผู้คนที่ผ่านมาเห็นได้ด้วยเหมือนกัน”

สำหรับใครที่สนใจแบรนด์ Jetaim_Kantan ก็สามารถติดตามดูผลงานของเธอได้ที่:
Facebook: jetaime_kantan
Instagram: jetaim_kantan
นอกจากนี้ เธอยังมีผลงาน collab กับ IWANNABANGKOK, WHAT THE FRUNKK!, Mellow Everyday และ Denise Chong แบรนด์จากประเทศสิงคโปร์อีกด้วย ใครที่อยากปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากกรอบเกณฑ์เหมือนกันกับเธอก็อย่าลืมไปติดตามกัน
Facebook: jetaime_kantan
Instagram: jetaim_kantan
นอกจากนี้ เธอยังมีผลงาน collab กับ IWANNABANGKOK, WHAT THE FRUNKK!, Mellow Everyday และ Denise Chong แบรนด์จากประเทศสิงคโปร์อีกด้วย ใครที่อยากปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากกรอบเกณฑ์เหมือนกันกับเธอก็อย่าลืมไปติดตามกัน