ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภา วาระโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะยืนยันเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี
โดย ส.ว. ได้เช็กเสียงกันเป็นการภายใน พบว่าส่วนใหญ่จะลงมติงดออกเสียง เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มีเพียง 5-10 คน ที่ยืนยันจะโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ และมี ส.ว.อีกไม่กี่เสียงที่จะลงมติไม่สนับสนุน พิธา
ส่วนการโหวตนายกฯ รอบสอง ในวันที่ 19 กรกฎาคมนั้น ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มี เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานฯ มีความเห็นว่า ตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อ 41 ที่ระบุว่า ญัตติใดที่เสนอที่ประชุมรัฐสภา หากไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าตกไป และห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักกการเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต เมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น กมธ.จึงมองว่า กรณีที่รอบแรก พิธา ไม่ได้รับเลือกจากรัฐสภา จะไม่สามารถเสนอชื่ออีกในการโหวตครั้งที่สอง
รายงานข่าวระบุอีกว่า แต่หากมีคนเสนอชื่อ พิธา กลับมาอีกในวันที่ 19 กรกฎาคม จะมี ส.ว.ลุกคัดค้านกับที่ประชุมรัฐสภา โดยไม่ยอมให้เสนอชื่อ พิธา เป็นนายกฯ โดยอ้างอิงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หากประธานรัฐสภา ยังยืนยันให้เสนอชื่อ พิธา ได้ ต้องรับผิดชอบในกรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา ใช้ดุลยพินิจของตนเอง หรือลงมติในที่ประชุม เพื่อตัดสินชี้ขาด
รายงานระบุอีกว่า วันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งนัดโหวตนายกฯ รอบที่สองนั้น ขอให้จับตาว่าจะมีผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่น แข่งขันกับ พิธา ด้วย
โดย ส.ว. ได้เช็กเสียงกันเป็นการภายใน พบว่าส่วนใหญ่จะลงมติงดออกเสียง เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มีเพียง 5-10 คน ที่ยืนยันจะโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ และมี ส.ว.อีกไม่กี่เสียงที่จะลงมติไม่สนับสนุน พิธา
ส่วนการโหวตนายกฯ รอบสอง ในวันที่ 19 กรกฎาคมนั้น ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มี เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานฯ มีความเห็นว่า ตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อ 41 ที่ระบุว่า ญัตติใดที่เสนอที่ประชุมรัฐสภา หากไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าตกไป และห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักกการเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต เมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น กมธ.จึงมองว่า กรณีที่รอบแรก พิธา ไม่ได้รับเลือกจากรัฐสภา จะไม่สามารถเสนอชื่ออีกในการโหวตครั้งที่สอง
รายงานข่าวระบุอีกว่า แต่หากมีคนเสนอชื่อ พิธา กลับมาอีกในวันที่ 19 กรกฎาคม จะมี ส.ว.ลุกคัดค้านกับที่ประชุมรัฐสภา โดยไม่ยอมให้เสนอชื่อ พิธา เป็นนายกฯ โดยอ้างอิงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หากประธานรัฐสภา ยังยืนยันให้เสนอชื่อ พิธา ได้ ต้องรับผิดชอบในกรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา ใช้ดุลยพินิจของตนเอง หรือลงมติในที่ประชุม เพื่อตัดสินชี้ขาด
รายงานระบุอีกว่า วันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งนัดโหวตนายกฯ รอบที่สองนั้น ขอให้จับตาว่าจะมีผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่น แข่งขันกับ พิธา ด้วย
