เข้าโค้งสุดท้ายใกล้วันเลือกตั้ง สถานการณ์ยิ่งระอุ พรรคที่มีท่าทีนิ่งมานานอย่าง ‘ภูมิใจไทย’ เหมือนส่งสัญญาณกลายๆ จะได้ ‘รัฐบาลหน้าเดิม’ เปิดศึกฟาดไปยัง ‘เพื่อไทย’ ชนิดไม่เกรงใจกันอีกต่อไป ถึงขั้นจะดำเนินการฟ้อง เพราะทำ ภท. เสียหาย และผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลัง ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หน.ภูมิใจไทย ร่ายความในใจ 7 ข้อ แทงใจ ‘เสี่ยนิด’เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ที่ไปปราศรัยทำนองว่าเลือก ภท. ได้ ‘ประยุทธ์’ เป็น นายกฯ และการวิจารณ์นโยบายกัญชา
โดย ‘อนุทิน’ เรียกเศรษฐาว่า “พี่นิด” โดยพยายามสื่อว่า “พี่นิดเปลี่ยนไปมาก” หลังเดินเข้าสู่สนามการเมือง ซึ่งทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ต่างเป็น ‘นักธุรกิจ’ มาก่อน และเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดย ‘อนุทิน’ เคยเป็น ‘บิ๊กบอส’ บ.ซิโน-ไทย ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ส่วน ‘เศรษฐา’ เป็น ‘บิ๊กบอส’ บ.แสนสิริ ที่เป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมานาน
ใน 7 ข้อที่ ‘อนุทิน’ เปิดใจถึง ‘เศรษฐา’ เรียกว่าเป็นการสอนมวย ‘นักการเมืองหน้าใหม่’ ในฐานะรุ่นพี่ ขออย่าด่าคนไปทั่ว ใส่ร้าย ศึกษาให้ดีก่อนพูด อีกทั้งยังวิจารณ์ ‘เศรษฐา’ ว่า “พี่นิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่กี่วัน ทำให้พรรคเพื่อไทยมี ทางเดินแคบลงทุกวัน สร้างเงื่อนไขไม่จับมือพรรคนั้นพรรคนี้ ดูถูกดูแคลนนักการเมืองทั่วไป ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ทั้งๆ ที่พี่นิด เป็นคนหน้าใหม่ที่สุด ในเวทีการเมือง และเป็นคนไม่มีประสบการณ์ในการเมือง” พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ในฐานะรุ่นพี่ทางการเมือง ขอบอกว่านักธุรกิจบางคนไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง เพราะเอาวิธีคิดแบบธุรกิจมาใช้ในการทำการเมือง“
ต่อมา ‘เศรษฐา’ ได้ทวีตข้อความตอบกลับ ‘อนุทิน’ บางตอนว่า “ผมยังยืนยันว่าผมยังเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน คนเดิม ที่ไม่โจมตีตัวบุคคล (Individual) มาโดยตลอด ตั้งแต่อยู่ในภาคธุรกิจ และผมยืนยันหลักการที่ไม่ว่ายังไง เราต้องพูดเรื่อง ”ความ” หรือ “การกระทำ” (Action) ได้ หาก “การ(กระทำ)” เหล่านั้นส่งผลลบต่อสังคม”
“ผมก็พร้อมที่จะขัดแย้ง ที่อาจทำให้ทางเดินทางการเมือง “แคบลง” เพื่อ “เปิดกว้าง” อนาคตให้กับลูกหลาน มากกว่าที่จะเกรงใจคนนั้นคนนี้เพื่อ “เปิดกว้าง” ทางการเมืองแต่ทำให้ทางออกอนาคตของลูกหลานพวกเราแคบลง” เศรษฐา กล่าว
ทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ต่างตอบโตในประเด็นเรื่อง “ความเปลี่ยนไป” แต่หากย้อนดูภูมิหลังของ ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ไม่ต่างกันมากนัก คือเติบโตมาจาก ‘ตระกูลใหญ่’ ที่มั่งมีจาก ‘ธุรกิจใหญ่’ โดย ‘อนุทิน’ เป็นบุตรชาย ‘ปู่จิ้น’ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้ง บ.ซิโน-ไทย จบชั้นมัธยมจาก ร.ร.อัสสัมชัญ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่ง ‘อนุทิน’ เข้าสู่สนามการเมืองเมื่อ 20 ปีก่อน ในยุครัฐบาลทักษิณ และเป็น กก.บห.พรรคไทยรักไทย ด้วย ซึ่งในขณะนั้น ‘อนุทิน’ เป็น รมช.สาธารณสุข และ รมช.พาณิชย์ ก่อนถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ก่อนมาอยู่พรรคภูมิใจไทย
ส่วน ‘เศรษฐา’ เป็นบุตรชาย ‘ชดช้อย จูตระกูล’ กับ ‘อำนวย ทวีสิน’ โดย ‘เศรษฐา’ มีศักดิ์เป็นหลานชายของ ‘โชติ จูตระกูล’ สามีของ ‘ชนาทิพย์ ล่ำซำ’ ผู้เป็นลูกสาวของ ‘โชติ ล่ำซำ’ ผู้ก่อตั้งธนาคารกสิกรไทย อีกทั้ง ‘ชนาทิพย์’ ยังเป็นน้องสาวของ ‘บัญชา ล่ำซำ’
โดย ‘ชนาทิพย์ ล่ำซำ’ ได้สมรสกับ ‘โชติ จูตระกูล’ มีบุตรชาย 2 คนคือ อภิรักษ์ จูตระกูล และ อภิชาติ จูตระกูล แม่ทัพหลักของ บ.แสนสิริ ซึ่งในขณะนี้ 'อภิชาติ จูตระกูล' นั่งตำแหน่งรักษาการ ปธ.อำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ หลัง ‘เศรษฐา’ เดินเข้าสู่สนามการเมืองเต็มตัว ในฐานะ ปธ.ที่ปรึกษาครัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และลงเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย
แม้ว่า ‘อนุทิน’ จะมีพรรษาทางการเมืองมากกว่า ‘เศรษฐา’ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ‘ภูมิหลัง’ ของทั้งคู่ ที่เติบโตมาใน ‘ตระกูลธุรกิจใหญ่’ ที่เป็น ‘ต้นทุนชีวิต’ มาตั้งแต่เกิด ดังนั้น ‘บุคลิก’ ของทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ จึงมีความเป็น ‘ตัวของตัวเองสูง’ และมีความเป็น ‘ผู้นำ’ เพราะผ่านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่มา การเปิดศึกของ ‘อนุทิน-เศรษฐา’ จึงไม่มีใครยอมใคร เป็น ‘ศึกลูกคุณหนู’ ซึ่งทั้งคู่ต่างเติบโตมาจาก ‘สังคมยอมพีระมิด’ ที่ลงมาสู่สนามการเมือง เพื่อครองใจ ‘ประชาชนทุกระดับ’ โดยเฉพาะ ‘ฐานมวลชนรากหญ้า’ ทั่วไป ที่เป็น ‘ฐานเสียงสำคัญ’ ของทั้งพรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ในการเข้าสู่การมี ‘อำนาจ’ ผ่านการเลือกตั้ง
โดย ‘อนุทิน’ เรียกเศรษฐาว่า “พี่นิด” โดยพยายามสื่อว่า “พี่นิดเปลี่ยนไปมาก” หลังเดินเข้าสู่สนามการเมือง ซึ่งทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ต่างเป็น ‘นักธุรกิจ’ มาก่อน และเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดย ‘อนุทิน’ เคยเป็น ‘บิ๊กบอส’ บ.ซิโน-ไทย ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ส่วน ‘เศรษฐา’ เป็น ‘บิ๊กบอส’ บ.แสนสิริ ที่เป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมานาน
ใน 7 ข้อที่ ‘อนุทิน’ เปิดใจถึง ‘เศรษฐา’ เรียกว่าเป็นการสอนมวย ‘นักการเมืองหน้าใหม่’ ในฐานะรุ่นพี่ ขออย่าด่าคนไปทั่ว ใส่ร้าย ศึกษาให้ดีก่อนพูด อีกทั้งยังวิจารณ์ ‘เศรษฐา’ ว่า “พี่นิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่กี่วัน ทำให้พรรคเพื่อไทยมี ทางเดินแคบลงทุกวัน สร้างเงื่อนไขไม่จับมือพรรคนั้นพรรคนี้ ดูถูกดูแคลนนักการเมืองทั่วไป ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ทั้งๆ ที่พี่นิด เป็นคนหน้าใหม่ที่สุด ในเวทีการเมือง และเป็นคนไม่มีประสบการณ์ในการเมือง” พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ในฐานะรุ่นพี่ทางการเมือง ขอบอกว่านักธุรกิจบางคนไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง เพราะเอาวิธีคิดแบบธุรกิจมาใช้ในการทำการเมือง“
ต่อมา ‘เศรษฐา’ ได้ทวีตข้อความตอบกลับ ‘อนุทิน’ บางตอนว่า “ผมยังยืนยันว่าผมยังเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน คนเดิม ที่ไม่โจมตีตัวบุคคล (Individual) มาโดยตลอด ตั้งแต่อยู่ในภาคธุรกิจ และผมยืนยันหลักการที่ไม่ว่ายังไง เราต้องพูดเรื่อง ”ความ” หรือ “การกระทำ” (Action) ได้ หาก “การ(กระทำ)” เหล่านั้นส่งผลลบต่อสังคม”
“ผมก็พร้อมที่จะขัดแย้ง ที่อาจทำให้ทางเดินทางการเมือง “แคบลง” เพื่อ “เปิดกว้าง” อนาคตให้กับลูกหลาน มากกว่าที่จะเกรงใจคนนั้นคนนี้เพื่อ “เปิดกว้าง” ทางการเมืองแต่ทำให้ทางออกอนาคตของลูกหลานพวกเราแคบลง” เศรษฐา กล่าว
ทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ต่างตอบโตในประเด็นเรื่อง “ความเปลี่ยนไป” แต่หากย้อนดูภูมิหลังของ ‘อนุทิน-เศรษฐา’ ไม่ต่างกันมากนัก คือเติบโตมาจาก ‘ตระกูลใหญ่’ ที่มั่งมีจาก ‘ธุรกิจใหญ่’ โดย ‘อนุทิน’ เป็นบุตรชาย ‘ปู่จิ้น’ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้ง บ.ซิโน-ไทย จบชั้นมัธยมจาก ร.ร.อัสสัมชัญ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่ง ‘อนุทิน’ เข้าสู่สนามการเมืองเมื่อ 20 ปีก่อน ในยุครัฐบาลทักษิณ และเป็น กก.บห.พรรคไทยรักไทย ด้วย ซึ่งในขณะนั้น ‘อนุทิน’ เป็น รมช.สาธารณสุข และ รมช.พาณิชย์ ก่อนถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ก่อนมาอยู่พรรคภูมิใจไทย
ส่วน ‘เศรษฐา’ เป็นบุตรชาย ‘ชดช้อย จูตระกูล’ กับ ‘อำนวย ทวีสิน’ โดย ‘เศรษฐา’ มีศักดิ์เป็นหลานชายของ ‘โชติ จูตระกูล’ สามีของ ‘ชนาทิพย์ ล่ำซำ’ ผู้เป็นลูกสาวของ ‘โชติ ล่ำซำ’ ผู้ก่อตั้งธนาคารกสิกรไทย อีกทั้ง ‘ชนาทิพย์’ ยังเป็นน้องสาวของ ‘บัญชา ล่ำซำ’
โดย ‘ชนาทิพย์ ล่ำซำ’ ได้สมรสกับ ‘โชติ จูตระกูล’ มีบุตรชาย 2 คนคือ อภิรักษ์ จูตระกูล และ อภิชาติ จูตระกูล แม่ทัพหลักของ บ.แสนสิริ ซึ่งในขณะนี้ 'อภิชาติ จูตระกูล' นั่งตำแหน่งรักษาการ ปธ.อำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ หลัง ‘เศรษฐา’ เดินเข้าสู่สนามการเมืองเต็มตัว ในฐานะ ปธ.ที่ปรึกษาครัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และลงเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย
แม้ว่า ‘อนุทิน’ จะมีพรรษาทางการเมืองมากกว่า ‘เศรษฐา’ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ‘ภูมิหลัง’ ของทั้งคู่ ที่เติบโตมาใน ‘ตระกูลธุรกิจใหญ่’ ที่เป็น ‘ต้นทุนชีวิต’ มาตั้งแต่เกิด ดังนั้น ‘บุคลิก’ ของทั้ง ‘อนุทิน-เศรษฐา’ จึงมีความเป็น ‘ตัวของตัวเองสูง’ และมีความเป็น ‘ผู้นำ’ เพราะผ่านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่มา การเปิดศึกของ ‘อนุทิน-เศรษฐา’ จึงไม่มีใครยอมใคร เป็น ‘ศึกลูกคุณหนู’ ซึ่งทั้งคู่ต่างเติบโตมาจาก ‘สังคมยอมพีระมิด’ ที่ลงมาสู่สนามการเมือง เพื่อครองใจ ‘ประชาชนทุกระดับ’ โดยเฉพาะ ‘ฐานมวลชนรากหญ้า’ ทั่วไป ที่เป็น ‘ฐานเสียงสำคัญ’ ของทั้งพรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ในการเข้าสู่การมี ‘อำนาจ’ ผ่านการเลือกตั้ง
