ขณะนี้ตัวเลขการรวมเสียงของ ‘ก้าวไกล’ ที่มีอยู่ในกระเป๋า คือ 313 จาก (ว่าที่) พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ขาดอีก 63 เสียง ที่จำเป็นต้องหามาเพื่อ ‘ปิดสวิตซ์ ส.ว.’ ให้เด็ดขาด มิฉะนั้นก็ต้องลุ้นว่าจะมีวุฒิสมาชิกกี่ท่าน ที่จะร่วมโหวตสนับสนุน จนคะแนนเต็มตุ่ม 376 แต้ม ตามรัฐธรรมนูญ 60 กำหนดไว้ กระนั้นใช่ว่าพลพรรคประชาธิปไตยจะสิ้นไร้ไม้ตอก ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกคือ ออดอ้อน - กดดันขอเสียงจากพรรคฟากฝั่งอนุรักษ์นิยมเข้าเติมเต็มแต่หากดูจากเหตุปัจจัยจะเห็นได้ว่า ไม่ใช่ทุกสังกัดจะบรรลุข้อตกลงเข้าร่วมรัฐบาล หรือโหวตสนับสนุบให้ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกฯ
ตัดทิ้งก่อนใครเพื่อนคือ ‘พรรคสองลุง’ ไม่ว่าจะเป็น ‘รวมไทยสร้างชาติ’ และ ‘พลังประชารัฐ’ เพราะพรรคก้าวไกลประกาศชัดตั้งแต่ไก่โห่ถึงเจตนารมณ์ ‘มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา’ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเอาสองพรรคนี้เข้ามาคิดในสมการ ในส่วนของ ‘ภูมิใจไทย’ ก็เป็นไม่ได้ เพราะ ‘เสี่ยหนู’ ลั่นวาจาไว้อย่างชัดเจน ว่าจะไม่ขอสนับสนุน เนื่องด้วยมีการแตะต้องกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ม.112 พร้อมย้ายหิ่งขนอัฐบริขาน ข้ามฟากนั่ง ‘เก้าอี้ฝ่ายค้าน’ ด้วยความเต็มใจ
ดังนั้นพรรคที่ถูกโฟกัสต่อไปจากนี้ จึงไม่พ้น ‘ประชาธิปัตย์’ ที่ได้ ส.ส. มือ 25 คน พอจะทำให้อำนาจต่อรองของ ‘พรรคส้ม’ เข้าใกล้ฝั่งฝันมากขึ้น
อย่างไรตาม หลัง ‘อู๊ดด้า’ - จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ตามธรรมเนียมปฏิบัติดึกดำบรรพ์ ก็มีกระแสข่าวเข้ามาหนาหูถึง ‘คลื่นใต้น้ำ’ ที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในพรรคเก่าแก่
ช่วงค่ำคืนที่แฟนคลับประชาธิปไตยอิ่มเอม จากงานแถลงข่าว 8 พรรคร่วมรัฐบาล ย่านเพลินจิต ก็มีเสียงลอยมาตามลมว่า ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ อดีตเลขาธิการพรรค ได้ส่ง ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ ว่าที่ ส.ส.สงขลา และ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ว่าที่ ส.ส. นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่พลนำสาร ไปเจรจาว่าความกับ 2 ‘ก้าวไกล - เพื่อไทย’ ว่าพร้อมจะร่วมโหวตดัน ‘เดอะทิม’ ขึ้นสู่เบอร์ 1 ไทยคู่ฟ้า
วิเคราะห์ตามข้อมูล ‘ก๊วนเฉลิมชัย’ มีว่าที่ ส.ส.ในมือทั้งหมด 17 คน ซึ่งแตกสาขาเป็น 4 จังหวัด ได้แก่ ‘กลุ่มสงขลา’ 5 คน ‘กลุ่มนครศรีธรรมราช’ 5 คน ‘กลุ่มประจวบคีรีขันธ์’ 3 คน และ ‘กลุ่มตรัง’ 2 คน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่ออีก 2 คน ซึ่งเป็นว่าที่ ส.ส. สกลนคร และ อุบลราชธานี
ตามรายงานยังระบุว่า ‘เสี่ยต่อ’ - เฉลิมชัย ยังแสดงออกชัดเจนว่า จะไม่สนับสนุนให้ ‘เดอะมาร์ค’ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรครูปหล่อ กลับมากุมบังเหียนอีกครั้ง เนื่องด้วยเป็นอุปสรรคต่อการร่วมรัฐบาล พร้อมเตรียมดัน ‘พี่เอ้’ - สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน ‘จุรินทร์’ แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสฐไป จึงเบนเข็มไปอวยยศให้ 2 มือประสาน มอบหมาย ‘นายกชาย’ - เดชอิศม์ เป็นหัวหน้าพรรค และให้ ‘พี่บ่าวแทน’ - ชัยชนะ เป็นเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ ตามข้อบังคับพรรค หลัง ‘จุรินทร์’ ประกาศลาออกผ่านไลน์กรุ๊ป จะต้องมีการเลือกหัวหน้าคนใหม่ภายใน 60 วัน ซึ่งจะเป็นกรอบเดียวกับที่ กกต.ต้องประกาศรับรอง ส.ส. โดยตามข้อบังคับ คะแนนเสียงของ ส.ส.จะมีน้ำหนักมาก จากสภาพการณ์ตอนนี้จึงเท่ากับว่า ‘เสี่ยต่อ’ กุมสภาพได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งหากเป็นจริงขึ้นมาดูแล้ว ‘รัฐบาลพิธา’ อาจต้องคั่วโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่อีกรอบ หลังมีรายงานออกมาว่า ก้าวไกลกับเพื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เรื่องการแบ่งกระทรวงทั้งเกรดเอ เกรดบี
หลังกระแสสะพัดไปไม่ทันข้ามวัน แท่นพระแม่ธรณีก็ร้อนรุ่ม ‘อลงกรณ์ พลบุตร’ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรค์ก็ออกมารับบท ‘นายแบก ปชป.’ ส่งข่าวเข้ากลุ่มไลน์สื่อมวลชนของพรรค ระบุโต้ว่าเป็นเพียงข่าวลือไม่ใช่ข่าวจริง และเป็นการปล่อยกระแสเพื่อดิสเครดิตพรรค พร้อมยืนยันข้อเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์โหวตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อสนับสนุนหลักการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรต้องได้เป็นรัฐบาล แม้จะต้องข้ามห้วยเป็นฝ่ายค้านก็ตาม
ลองยกหูโทรเช็กกับเสี่ยต่อ จำเลยพรรคก็ปิดเครื่อง แต่ยังดีที่ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ รับสายอยู่ ปลายสายระบุชัดเจนว่า ไม่ใช่ข่าวจริง เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ใครเป็นคนปล่อยข่าว ว่าที่ ส.ส. แชมป์เก่าเมืองคอน กล่าวว่า “ผมไม่ทราบ และแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง” เมื่อถามต่อว่าในส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่เป็นไงบ้าง ชัยชนะระบุว่า ต้องรอ กกต. แถลงรับรองผลการเลือกตั้ง และทางพรรคจะมีการจัดประชุมวิสามัญเพื่อคัดสรรต่อไป
อย่างไรก็ดี พรรคเก่าแก่ถูกพูดถึงกระแสคลื่นใต้น้ำภายในอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 ก็เคยมีข่าว ปฏิบัติการของคนในี่ทยอยล่ารายชื่อ ‘เลื่อยเก้าอี้’ โค้นหัวหน้า ‘จุรินทร์’ ซึ่งวันนั้น ‘เสี่ยต่อ’ ก็เคยเป็นตำบลกระสุนตก ถูกสื่อรุมจี้ถามที่หน้าโรงอาหารทำเนียบรัฐบาล เจ้าตัวก็ปฏิเสธสั้นๆ กับนักข่าวว่า “ไม่รู้นะ แต่ไม่มีอะไร”
ท้ายที่สุดคงต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องหวนคืนบัลลังก์เป็นฝ่ายค้านในรัฐสภา และอ่านท่าทีของคนในแบบห้ามกระพริบตา ว่าจะมี ‘สึนามิ’ ลูกใหญ่หรือไม่
เพราะคำว่า ‘ไม่มีอะไร’ เนี่ยแหล่ะที่ทำให้คนอยากรู้ว่าในกอไผ่ ‘มีอะไร’
ตัดทิ้งก่อนใครเพื่อนคือ ‘พรรคสองลุง’ ไม่ว่าจะเป็น ‘รวมไทยสร้างชาติ’ และ ‘พลังประชารัฐ’ เพราะพรรคก้าวไกลประกาศชัดตั้งแต่ไก่โห่ถึงเจตนารมณ์ ‘มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา’ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเอาสองพรรคนี้เข้ามาคิดในสมการ ในส่วนของ ‘ภูมิใจไทย’ ก็เป็นไม่ได้ เพราะ ‘เสี่ยหนู’ ลั่นวาจาไว้อย่างชัดเจน ว่าจะไม่ขอสนับสนุน เนื่องด้วยมีการแตะต้องกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ม.112 พร้อมย้ายหิ่งขนอัฐบริขาน ข้ามฟากนั่ง ‘เก้าอี้ฝ่ายค้าน’ ด้วยความเต็มใจ
ดังนั้นพรรคที่ถูกโฟกัสต่อไปจากนี้ จึงไม่พ้น ‘ประชาธิปัตย์’ ที่ได้ ส.ส. มือ 25 คน พอจะทำให้อำนาจต่อรองของ ‘พรรคส้ม’ เข้าใกล้ฝั่งฝันมากขึ้น
อย่างไรตาม หลัง ‘อู๊ดด้า’ - จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ตามธรรมเนียมปฏิบัติดึกดำบรรพ์ ก็มีกระแสข่าวเข้ามาหนาหูถึง ‘คลื่นใต้น้ำ’ ที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในพรรคเก่าแก่
ช่วงค่ำคืนที่แฟนคลับประชาธิปไตยอิ่มเอม จากงานแถลงข่าว 8 พรรคร่วมรัฐบาล ย่านเพลินจิต ก็มีเสียงลอยมาตามลมว่า ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ อดีตเลขาธิการพรรค ได้ส่ง ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ ว่าที่ ส.ส.สงขลา และ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ว่าที่ ส.ส. นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่พลนำสาร ไปเจรจาว่าความกับ 2 ‘ก้าวไกล - เพื่อไทย’ ว่าพร้อมจะร่วมโหวตดัน ‘เดอะทิม’ ขึ้นสู่เบอร์ 1 ไทยคู่ฟ้า
วิเคราะห์ตามข้อมูล ‘ก๊วนเฉลิมชัย’ มีว่าที่ ส.ส.ในมือทั้งหมด 17 คน ซึ่งแตกสาขาเป็น 4 จังหวัด ได้แก่ ‘กลุ่มสงขลา’ 5 คน ‘กลุ่มนครศรีธรรมราช’ 5 คน ‘กลุ่มประจวบคีรีขันธ์’ 3 คน และ ‘กลุ่มตรัง’ 2 คน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่ออีก 2 คน ซึ่งเป็นว่าที่ ส.ส. สกลนคร และ อุบลราชธานี
ตามรายงานยังระบุว่า ‘เสี่ยต่อ’ - เฉลิมชัย ยังแสดงออกชัดเจนว่า จะไม่สนับสนุนให้ ‘เดอะมาร์ค’ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรครูปหล่อ กลับมากุมบังเหียนอีกครั้ง เนื่องด้วยเป็นอุปสรรคต่อการร่วมรัฐบาล พร้อมเตรียมดัน ‘พี่เอ้’ - สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน ‘จุรินทร์’ แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสฐไป จึงเบนเข็มไปอวยยศให้ 2 มือประสาน มอบหมาย ‘นายกชาย’ - เดชอิศม์ เป็นหัวหน้าพรรค และให้ ‘พี่บ่าวแทน’ - ชัยชนะ เป็นเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ ตามข้อบังคับพรรค หลัง ‘จุรินทร์’ ประกาศลาออกผ่านไลน์กรุ๊ป จะต้องมีการเลือกหัวหน้าคนใหม่ภายใน 60 วัน ซึ่งจะเป็นกรอบเดียวกับที่ กกต.ต้องประกาศรับรอง ส.ส. โดยตามข้อบังคับ คะแนนเสียงของ ส.ส.จะมีน้ำหนักมาก จากสภาพการณ์ตอนนี้จึงเท่ากับว่า ‘เสี่ยต่อ’ กุมสภาพได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งหากเป็นจริงขึ้นมาดูแล้ว ‘รัฐบาลพิธา’ อาจต้องคั่วโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่อีกรอบ หลังมีรายงานออกมาว่า ก้าวไกลกับเพื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เรื่องการแบ่งกระทรวงทั้งเกรดเอ เกรดบี
หลังกระแสสะพัดไปไม่ทันข้ามวัน แท่นพระแม่ธรณีก็ร้อนรุ่ม ‘อลงกรณ์ พลบุตร’ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรค์ก็ออกมารับบท ‘นายแบก ปชป.’ ส่งข่าวเข้ากลุ่มไลน์สื่อมวลชนของพรรค ระบุโต้ว่าเป็นเพียงข่าวลือไม่ใช่ข่าวจริง และเป็นการปล่อยกระแสเพื่อดิสเครดิตพรรค พร้อมยืนยันข้อเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์โหวตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อสนับสนุนหลักการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรต้องได้เป็นรัฐบาล แม้จะต้องข้ามห้วยเป็นฝ่ายค้านก็ตาม
ลองยกหูโทรเช็กกับเสี่ยต่อ จำเลยพรรคก็ปิดเครื่อง แต่ยังดีที่ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ รับสายอยู่ ปลายสายระบุชัดเจนว่า ไม่ใช่ข่าวจริง เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ใครเป็นคนปล่อยข่าว ว่าที่ ส.ส. แชมป์เก่าเมืองคอน กล่าวว่า “ผมไม่ทราบ และแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง” เมื่อถามต่อว่าในส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่เป็นไงบ้าง ชัยชนะระบุว่า ต้องรอ กกต. แถลงรับรองผลการเลือกตั้ง และทางพรรคจะมีการจัดประชุมวิสามัญเพื่อคัดสรรต่อไป
อย่างไรก็ดี พรรคเก่าแก่ถูกพูดถึงกระแสคลื่นใต้น้ำภายในอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 ก็เคยมีข่าว ปฏิบัติการของคนในี่ทยอยล่ารายชื่อ ‘เลื่อยเก้าอี้’ โค้นหัวหน้า ‘จุรินทร์’ ซึ่งวันนั้น ‘เสี่ยต่อ’ ก็เคยเป็นตำบลกระสุนตก ถูกสื่อรุมจี้ถามที่หน้าโรงอาหารทำเนียบรัฐบาล เจ้าตัวก็ปฏิเสธสั้นๆ กับนักข่าวว่า “ไม่รู้นะ แต่ไม่มีอะไร”
ท้ายที่สุดคงต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องหวนคืนบัลลังก์เป็นฝ่ายค้านในรัฐสภา และอ่านท่าทีของคนในแบบห้ามกระพริบตา ว่าจะมี ‘สึนามิ’ ลูกใหญ่หรือไม่
เพราะคำว่า ‘ไม่มีอะไร’ เนี่ยแหล่ะที่ทำให้คนอยากรู้ว่าในกอไผ่ ‘มีอะไร’
