



9 ก.ค.2566 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กทม. พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ โดยมี ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ รักษาการหัวหน้าพรรคฯ และ ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ รักษาการเลขาธิการพรรคฯ ดำเนินการประชุม ขณะที่องค์ประชุมในวันนี้มีจำนวน 299 คน ครบตามกฎหมายและข้อบังคับพรรค
ทั้งนี้มีแกนนำพรรคคนสำคัญได้เดินทางมาด้วยมา อาทิ ‘ชวน หลีกภัย’, ‘นิพนธ์ บุญญามณี’, ‘มัลลิกา บุญมีตระกูล’ และ ‘สาธิต ปิตุเตชะ’ พร้อมกับศิษย์เก่าของพรรคคนสำคัญอย่าง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี และสมาชิกระดับอาวุโสหลายคนเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ อาทิ ‘โพธิพงษ์ ล่ำซำ’ เข้าร่วมด้วย
โดยจุรินทร์ กล่าวก่อนสู่วาระว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะไม่มากนัก แต่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีก เหมือนหลายครั้งที่ปรากฎตลอดมา ขอบคุณหลายคนที่ร่วมหัวจมท้ายฟันฝ่าอุปสรรคมาถึงขณะนี้ หลังการเลือกตั้ง ตนได้มีโอกาสพบกับหลายๆ คน ซึ่งมีหลายคนมาขอโทษที่ไม่สามารถนำชัยชนะมาสู่พรรคได้ และมาให้กำลังใจตน ซึ่งตนบอกว่าทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตน และขอให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าท้อถอย ท่ามกลางวิกฤติย่อมมีโอกาสอีกเสมอ และขอให้ช่วยกันเป็นกำลังสำคัญให้กับพรรคต่อไป
“สำหรับผม ผมไม่เคยท้อ ยังระลึกถึงพระคุณพรรคเสมอ ที่เติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้ และพร้อมสนับสนุนพรรค ไม่ว่าจะอยู่สถานภาพใด ดังที่ได้ปฏิบัติมาตลอดชีวิตการทำงานของผม ขอฝาก กก.บห.ชุดใหม่ ให้สามารถนำพรรคไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และเปิดโอกาสให้คนทุกรุ่นได้มีโอกาสนำพาพรรคเดินหน้าไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป” จุรินทร์ กล่าว
จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมและก่อนที่จะเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ ได้ลุกขึ้นหารือว่า ระหว่างที่พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคฯ เพื่อตรวจนับคะแนนนั้น ตนจะขอเสนอญัตติ ยกเลิกข้อบังคับพรรคที่ 87 ก่อน หรือรอให้มี กกต.พรรคก่อน แต่ ธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. เสนอว่า กการประชุมครั้งนี้ตนเชื่อว่าจะมีสมาชิกแสดงความคิดเห็น ตามความเชื่อและความคิดของแต่ละคน ดังนั้นการแสดงออกในฐานะพี่น้องของพรรคในที่ประชุมนี้ ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องภายในที่เราจะได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ จึงขอเสนอว่า ควรให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อจะได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ว่าประชาธิปัตย์ควรเดินไปอย่างไร เพราะสิ่งที่สื่อมวลชนรับทราบระหว่างที่เราพูดคุยกัน อาจจะมีหารือสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะการพูดของเรามีเวลาที่จำกัด อาจจะทำให้การสื่อสารไปยังบุคคลภายนอกผิดพลาดได้ ดังนั้นเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอให้เชิญสื่อมวลชนออไป
ซึ่ง สาธิต ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ธนา ทำให้ จุรินทร์ ได้ขอให้เชิญสื่อมวลชน และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่ประชุมไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเชิญสื่อออกจากห้องประชุม ไม่เคยเชิญออก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ไม่อนุญาติให้สื่อเข้าร่วมทำข่าว
ทั้งนี้มีแกนนำพรรคคนสำคัญได้เดินทางมาด้วยมา อาทิ ‘ชวน หลีกภัย’, ‘นิพนธ์ บุญญามณี’, ‘มัลลิกา บุญมีตระกูล’ และ ‘สาธิต ปิตุเตชะ’ พร้อมกับศิษย์เก่าของพรรคคนสำคัญอย่าง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี และสมาชิกระดับอาวุโสหลายคนเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ อาทิ ‘โพธิพงษ์ ล่ำซำ’ เข้าร่วมด้วย
โดยจุรินทร์ กล่าวก่อนสู่วาระว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะไม่มากนัก แต่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีก เหมือนหลายครั้งที่ปรากฎตลอดมา ขอบคุณหลายคนที่ร่วมหัวจมท้ายฟันฝ่าอุปสรรคมาถึงขณะนี้ หลังการเลือกตั้ง ตนได้มีโอกาสพบกับหลายๆ คน ซึ่งมีหลายคนมาขอโทษที่ไม่สามารถนำชัยชนะมาสู่พรรคได้ และมาให้กำลังใจตน ซึ่งตนบอกว่าทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของตน และขอให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าท้อถอย ท่ามกลางวิกฤติย่อมมีโอกาสอีกเสมอ และขอให้ช่วยกันเป็นกำลังสำคัญให้กับพรรคต่อไป
“สำหรับผม ผมไม่เคยท้อ ยังระลึกถึงพระคุณพรรคเสมอ ที่เติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้ และพร้อมสนับสนุนพรรค ไม่ว่าจะอยู่สถานภาพใด ดังที่ได้ปฏิบัติมาตลอดชีวิตการทำงานของผม ขอฝาก กก.บห.ชุดใหม่ ให้สามารถนำพรรคไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และเปิดโอกาสให้คนทุกรุ่นได้มีโอกาสนำพาพรรคเดินหน้าไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป” จุรินทร์ กล่าว
จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมและก่อนที่จะเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ ได้ลุกขึ้นหารือว่า ระหว่างที่พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคฯ เพื่อตรวจนับคะแนนนั้น ตนจะขอเสนอญัตติ ยกเลิกข้อบังคับพรรคที่ 87 ก่อน หรือรอให้มี กกต.พรรคก่อน แต่ ธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. เสนอว่า กการประชุมครั้งนี้ตนเชื่อว่าจะมีสมาชิกแสดงความคิดเห็น ตามความเชื่อและความคิดของแต่ละคน ดังนั้นการแสดงออกในฐานะพี่น้องของพรรคในที่ประชุมนี้ ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องภายในที่เราจะได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ จึงขอเสนอว่า ควรให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อจะได้พูดคุยกันอย่างเต็มที่ว่าประชาธิปัตย์ควรเดินไปอย่างไร เพราะสิ่งที่สื่อมวลชนรับทราบระหว่างที่เราพูดคุยกัน อาจจะมีหารือสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะการพูดของเรามีเวลาที่จำกัด อาจจะทำให้การสื่อสารไปยังบุคคลภายนอกผิดพลาดได้ ดังนั้นเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอให้เชิญสื่อมวลชนออไป
ซึ่ง สาธิต ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ธนา ทำให้ จุรินทร์ ได้ขอให้เชิญสื่อมวลชน และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่ประชุมไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเชิญสื่อออกจากห้องประชุม ไม่เคยเชิญออก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ไม่อนุญาติให้สื่อเข้าร่วมทำข่าว