8 พ.ค. 66 ณ ที่ทำการพรรคเพื่อชาติ มีจัดแถลงข่าวเพื่อแสดงจุดยืนพรรคเกี่ยวกับกระแสข่าวแผนการรวมเสียงข้างน้อยจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายผู้ถือดุลอำนาจ โดยมี ‘เรวัติ วิศรุตเวช’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค และ ‘วรัญชัย โชคชนะ’ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 กทม. เป็นผู้แถลงข่าวในครั้งนี้
โดย เรวัติ กล่าวถึง กรณีผู้ถือดุลอำนาจกับความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า ความพยายามนี้หมายถึงความอยากจะอยู่ต่อทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่าถ้าให้อยู่ต่อก็จะก่อปัญหาใหม่ และที่สำคัญคือคุณไม่ใช่กัปตันเครื่องบินอีกต่อไป แต่ยังมีความพยายามที่อยากจะขับเครื่องบินต่อ ซึ่งจะทำให้พากันตายทั้งลำ
ส่วนตัวต้องการจัดส่งสารข้อความนี้ไปยังคนที่พยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะพรรคเพื่อชาติเห็นว่าการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยไม่ฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นการข่มขืนมติของมหาชน ซึ่งก็เป็นกังวลว่าอาจจะทำให้เกิดวิกฤตครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะว่าที่ผ่านมาประชาชนต้องอดทน อดกลั้นมาอย่างยาวนานและตอนนี้ประชาชนก็ต้องการความเปลี่ยนแปลงแล้ว เนื่องจากประชาชนทนไม่ไหว ที่ผ่านมาลำบากยากจน กลุ่มที่ควบคุมอำนาจอยู่ตอนนี้ไม่เคยได้ยินเสียงเรียกร้องของประชาชนเลย ดังนั้นพรรคในฐานะที่มีจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตยจึงต้องการแสดงจุดยืนและต้องการส่งเสียงดัง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงของพี่น้องประชาชน
การลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ทุกท่านคงทราบดีว่ามี 2 ฝ่ายก็คือฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการ ในกรณีที่มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีการเรียกพรรคเล็กพรรคน้อยไปต่อรองแบบเดิม ๆ แล้วข่มขู่หวังใช้กกต.เป็นเครื่องมือ จึงเหมือนเป็นการยิ่งสุมไฟให้แรงขึ้นและก็จะเป็นปัญหาความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในอนาคต สำหรับพรรคเพื่อชาติต้องการชี้แจงว่าเรามีประสบการณ์กับเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้กลไกอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งพรรคเพื่อชาติจะต่อสู้กับการข่มขืนใจประชาชนในทุกรูปแบบเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพี่น้องประชาชนสามารถมารวมตัวกันที่ life policy center ในวันประกาศผลเลือกตั้งด้วยกัน
“ในที่นี้หมายถึงกรณีที่เราได้ประมาณการว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นกลุ่มอำนาจเดิม ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าเป็นการรวมตัวของผู้ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ ส่วนตัวมองว่าที่มีข่าวนี้ออกมาเพราะเห็นกระแสแล้วว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะและจะชนะแบบขาดลอยด้วยเพราะฉะนั้นจึงมีความพยายามที่จะอยู่ต่อ แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาจะทำให้พี่น้องลำบากยากจน ค่าครองชีพก็ปรับตัวสูงขึ้น แรงงานก็ต่ำ รายได้ก็ไม่มี”
ส่วนเรื่องที่มีคำถามว่า มีฝ่ายใดติดต่อเข้ามาทางพรรค เพื่อขอให้เข้าร่วมกับฝั่งไหนหรือไม่นั้น เรวัติ ยืนยันว่าไม่มีการติดต่อทาบทามหรือดีลรับอะไรทั้งนั้น และส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย เพราะว่ากลุ่มที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีว่าอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย ฉะนั้นจุดยืนของพรรคเพื่อชาติในเรื่องประชาธิปไตยชัดเจน จึงไม่คิดว่าจะมีฝ่ายไหนติดต่อเข้ามา เพราะไม่ว่าอย่างไรพรรคเพื่อชาติเพื่อจะไม่เปลี่ยนจุดยืน พร้อมกับยืนยันด้วยว่าแม้ว่าจะผ่านการเลือกตั้งไปแล้วพรรคเพื่อชาติก็จะไม่มีทางเข้าไปร่วมกับขั้วฝ่ายอำนาจเดิมหรือที่เรียกกันว่าพรรคของสองลุงอย่างแน่นอน
“สุดท้ายของการเลือกตั้งนี้ที่ผ่านมาทุกคนในพรรคเพื่อชาติทำงานหนักมาก ถึงแม้ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กและมีสมาชิกน้อย แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาของเราคือหัวใจของการหาเสียงเลือกตั้งเราไม่สามารถจะออกจากคลองที่ถูกปิดกั้นโดยพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ เพราะวันนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องระเบิดให้เรือของพรรคเพื่อชาติออกไปชี้แจงนโยบายกับพี่น้องประชาชนให้ได้” เรวัต กล่าว
ส่วนประเด็น กกต.นั้น เรวัติ บอกว่า กกต.ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประชาธิปไตย แต่ กกต.ไม่เคยได้แสดงให้เห็นถึงเป้าประสงค์ของการจัดตั้งที่ชัดเจนเลย ฉะนั้นสิ่งที่อยากฝากไปก็คือ จะไม่ว่าหรือมีกกต.แต่อยากให้กำลังใจเพราะกกต.เป็นที่หวังของประชาชนจึงควรจะทำงานให้ดีกว่านี้เพราะเป็นองค์กรที่สำคัญ่ในการดำรงไว้ซึ่งการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมซึ่งกกต. ยังมีโอกาสที่จะทำงานให้ดีเพื่อให้เป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชนได้ในวันที่ 14 พฤษภาคม ดังนั้นจึงอยากร้องขอและให้กำลังใจไปพร้อมกัน ให้กกต.ตั้งใจทำหน้าที่ และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาดีที่สุด
โดย เรวัติ กล่าวถึง กรณีผู้ถือดุลอำนาจกับความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า ความพยายามนี้หมายถึงความอยากจะอยู่ต่อทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่าถ้าให้อยู่ต่อก็จะก่อปัญหาใหม่ และที่สำคัญคือคุณไม่ใช่กัปตันเครื่องบินอีกต่อไป แต่ยังมีความพยายามที่อยากจะขับเครื่องบินต่อ ซึ่งจะทำให้พากันตายทั้งลำ
ส่วนตัวต้องการจัดส่งสารข้อความนี้ไปยังคนที่พยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะพรรคเพื่อชาติเห็นว่าการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยไม่ฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นการข่มขืนมติของมหาชน ซึ่งก็เป็นกังวลว่าอาจจะทำให้เกิดวิกฤตครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะว่าที่ผ่านมาประชาชนต้องอดทน อดกลั้นมาอย่างยาวนานและตอนนี้ประชาชนก็ต้องการความเปลี่ยนแปลงแล้ว เนื่องจากประชาชนทนไม่ไหว ที่ผ่านมาลำบากยากจน กลุ่มที่ควบคุมอำนาจอยู่ตอนนี้ไม่เคยได้ยินเสียงเรียกร้องของประชาชนเลย ดังนั้นพรรคในฐานะที่มีจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตยจึงต้องการแสดงจุดยืนและต้องการส่งเสียงดัง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงของพี่น้องประชาชน
การลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ทุกท่านคงทราบดีว่ามี 2 ฝ่ายก็คือฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการ ในกรณีที่มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีการเรียกพรรคเล็กพรรคน้อยไปต่อรองแบบเดิม ๆ แล้วข่มขู่หวังใช้กกต.เป็นเครื่องมือ จึงเหมือนเป็นการยิ่งสุมไฟให้แรงขึ้นและก็จะเป็นปัญหาความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในอนาคต สำหรับพรรคเพื่อชาติต้องการชี้แจงว่าเรามีประสบการณ์กับเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้กลไกอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งพรรคเพื่อชาติจะต่อสู้กับการข่มขืนใจประชาชนในทุกรูปแบบเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพี่น้องประชาชนสามารถมารวมตัวกันที่ life policy center ในวันประกาศผลเลือกตั้งด้วยกัน
“ในที่นี้หมายถึงกรณีที่เราได้ประมาณการว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นกลุ่มอำนาจเดิม ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าเป็นการรวมตัวของผู้ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ ส่วนตัวมองว่าที่มีข่าวนี้ออกมาเพราะเห็นกระแสแล้วว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะและจะชนะแบบขาดลอยด้วยเพราะฉะนั้นจึงมีความพยายามที่จะอยู่ต่อ แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาจะทำให้พี่น้องลำบากยากจน ค่าครองชีพก็ปรับตัวสูงขึ้น แรงงานก็ต่ำ รายได้ก็ไม่มี”
ส่วนเรื่องที่มีคำถามว่า มีฝ่ายใดติดต่อเข้ามาทางพรรค เพื่อขอให้เข้าร่วมกับฝั่งไหนหรือไม่นั้น เรวัติ ยืนยันว่าไม่มีการติดต่อทาบทามหรือดีลรับอะไรทั้งนั้น และส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย เพราะว่ากลุ่มที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีว่าอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย ฉะนั้นจุดยืนของพรรคเพื่อชาติในเรื่องประชาธิปไตยชัดเจน จึงไม่คิดว่าจะมีฝ่ายไหนติดต่อเข้ามา เพราะไม่ว่าอย่างไรพรรคเพื่อชาติเพื่อจะไม่เปลี่ยนจุดยืน พร้อมกับยืนยันด้วยว่าแม้ว่าจะผ่านการเลือกตั้งไปแล้วพรรคเพื่อชาติก็จะไม่มีทางเข้าไปร่วมกับขั้วฝ่ายอำนาจเดิมหรือที่เรียกกันว่าพรรคของสองลุงอย่างแน่นอน
“สุดท้ายของการเลือกตั้งนี้ที่ผ่านมาทุกคนในพรรคเพื่อชาติทำงานหนักมาก ถึงแม้ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กและมีสมาชิกน้อย แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาของเราคือหัวใจของการหาเสียงเลือกตั้งเราไม่สามารถจะออกจากคลองที่ถูกปิดกั้นโดยพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ เพราะวันนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องระเบิดให้เรือของพรรคเพื่อชาติออกไปชี้แจงนโยบายกับพี่น้องประชาชนให้ได้” เรวัต กล่าว
ส่วนประเด็น กกต.นั้น เรวัติ บอกว่า กกต.ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประชาธิปไตย แต่ กกต.ไม่เคยได้แสดงให้เห็นถึงเป้าประสงค์ของการจัดตั้งที่ชัดเจนเลย ฉะนั้นสิ่งที่อยากฝากไปก็คือ จะไม่ว่าหรือมีกกต.แต่อยากให้กำลังใจเพราะกกต.เป็นที่หวังของประชาชนจึงควรจะทำงานให้ดีกว่านี้เพราะเป็นองค์กรที่สำคัญ่ในการดำรงไว้ซึ่งการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมซึ่งกกต. ยังมีโอกาสที่จะทำงานให้ดีเพื่อให้เป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชนได้ในวันที่ 14 พฤษภาคม ดังนั้นจึงอยากร้องขอและให้กำลังใจไปพร้อมกัน ให้กกต.ตั้งใจทำหน้าที่ และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาดีที่สุด


