ย้อนประวัติ ‘มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์’ เข้าสู่ถนนการเมืองในยุค ‘รัฐบาลทักษิณ’ ผ่านการชักชวนจาก ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ แห่งกลุ่มไทยซัมมิทในยุคนั้น ที่รู้จัก ‘มิ่งขวัญ’ เพราะเคยเป็นนักประชาสัมพันธ์ของโตโยต้า มาเป็นหนึ่งใน ‘ทีมเศรษฐกิจ’ ของ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ รองนายกฯ และรมว.คลัง ในขณะนั้น ในตำแหน่งเป็น ‘ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว’ มีผลงานโดดเด่น เช่น งานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์, พัทยา มิวสิค เฟสติวัล เป็นต้น
ชีวิตของ ‘มิ่งขวัญ’ มาถึงจุดสูงสุด ได้แสดงศักยภาพผ่านการนั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการ อสมท. ทำการรีแบรนด์เป็น ‘โมเดิร์นไนท์ ทีวี’ ที่เข้าสู่ ‘ช่อง 9’ ยุคใหม่ ก่อนเกิดเหตุการณ์ ‘รัฐประหาร 2549’ ขึ้นมา
‘มิ่งขวัญ’ กลับสู่ถนนการเมืองอีกครั้ง ในยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ในเก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.พาณิชย์ ต่อมา ‘สมัคร’ หลุดจากเก้าอี้นายกฯ และพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ทำให้ ‘มิ่งขวัญ’ หลุดจากวงจรอำนาจไป ต่อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ‘มิ่งขวัญ’ ไม่ได้เป็น ‘รัฐมนตรี’ แม้จะอยู่ในบัญชีรายชื่อส.ส. ลำดับต้นๆ ของพรรคเพื่อไทย ก็ตาม ทำให้ ‘มิ่งขวัญ’ ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ก่อนหายไปจากสนามการเมืองหลายปี แล้วมาตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย สู้เลือกตั้งปี 2562 ได้เป็น ส.ส. เข้าสภาฯ ในซีกฝ่ายค้าน ก่อนที่ ส.ส. คนอื่นๆ จะแปรพักตร์มาอยู่ซีกรัฐบาลแทน ส่วน ‘มิ่งขวัญ’ ยังคงอยู่ฝ่ายค้าน
ซึ่ง ‘มิ่งขวัญ’ ประกาศจุดยืนชัดไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ และไม่ร่วมสังฆกรรมกับ พปชร. ในหลายครั้ง พร้อมเปิดศึกอภิปราย ‘บิ๊กตู่’ ในสภาฯ จนถูกมองว่าเป็น ‘ศึกสายเลือด’ เพราะ ‘มิ่งขวัญ’ กับ ‘บิ๊กตู่’ เป็นรุ่นพี่ ร.ร.วัดนวลนรดิศ 1 ปี ซึ่ง ‘มิ่งขวัญ’ เคยเล่าถึงภาพจำ ‘บิ๊กตู่’ สมัยเรียน ร.ร.วัดนวลนรดิศ ว่า เวลาเข้าแถวจะยืนนจากสูงตามลำดับไหล่ พล.อ.ประยุทธ์ จะยืนแถวหน้าๆ ส่วนตนจะยืนกลางๆ
อย่างไรก็ตามอย่าได้แปลกใจที่ ‘มิ่งขวัญ’ มาซบอก พปชร. เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าว ‘มิ่งขวัญ’ จะมาร่วมรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือผู้ที่ออกมา ‘ฉีกหน้ามิ่งขวัญ’ กลางสภาฯ ย้อนไปเมื่อ 9 ตุลาคม 2563 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวโต้ ‘มิ่งขวัญ’ ตอนหนึ่งว่า “ที่บอกว่าผมบริหารล้มเหลว ผมประคับประคองให้เศรษฐกิจฟื้นฟูได้ ให้ไม่เลิกจ้างพนักงาน ก็ต้องขอบคุณท่านในฐานะอดีตรองนายกฯ มีความรู้ดี ท่านก็คุยกับผมมาหลายรอบ ท่านก็เคยพูดกับผมว่าท่านพร้อมเข้ามาช่วยเป็นรองนายกฯ แต่ผมคงไม่รับเพราะผมมีครบแล้ว มีเต็มแล้ว เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”
ผ่านมา 2 ปี ‘มิ่งขวัญ’ มาเปิดตัวอยู่กับ ‘พลังประชารัฐ’ พรรคของพี่ใหญ่ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ โดยให้เหตุผลว่า ‘บิ๊กตู่’ ไม่ได้อยู่ พปชร. แล้ว จึงเข้ามาอยู่ แต่งานนี้ไม่รู้พูดนอกสคริปต์หรือไม่ เรื่องคุยกับ พล.อ.ประวิตร ที่จะเสนอเข้าที่ประชุมให้เป็นหนึ่งใน ‘แคนดิเดตนายกฯ พปชร.’ ทำเอา ‘บิ๊กป้อม’ กับ ‘แกนนำ พปชร.’ ที่ยืนแผงถึงกับออกอาการ ‘เหวอ’ ไปตามๆ กัน ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องรีบตัดบทโยนให้สมาชิก และ กก.บห. พิจารณา เรียกว่า พปชร. สามัคคีทันควัน ออกมาต้าน ‘มิ่งขวัญ’ ในการขึ้นเป็น ‘แคนดิเดตนายกฯ’ เรียกว่า ‘มิ่งขวัญ’ ม้วนเดียวจบจริงๆ
อีกแง่มีการมองว่า ‘มิ่งขวัญ’ ตกหลุมพราง ‘พยัคฆ์เฒ่า’ หรือไม่ ในการ ‘ตัดกำลัง’ ขั้วต่อต้าน ‘บิ๊กตู่’ ไปเรื่อยๆ ดึง ‘ศัตรู’ มาไว้ใกล้ตัวขั้วอำนาจ 3ป. เพราะกรณี ‘มิ่งขวัญ’ ไม่ใช่คนแรกจากอดีตคน ‘ขั้วทักษิณ’ ที่มาอยู่ พปชร. ใต้เงาพี่ใหญ่ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’
ชีวิตของ ‘มิ่งขวัญ’ มาถึงจุดสูงสุด ได้แสดงศักยภาพผ่านการนั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการ อสมท. ทำการรีแบรนด์เป็น ‘โมเดิร์นไนท์ ทีวี’ ที่เข้าสู่ ‘ช่อง 9’ ยุคใหม่ ก่อนเกิดเหตุการณ์ ‘รัฐประหาร 2549’ ขึ้นมา
‘มิ่งขวัญ’ กลับสู่ถนนการเมืองอีกครั้ง ในยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ในเก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.พาณิชย์ ต่อมา ‘สมัคร’ หลุดจากเก้าอี้นายกฯ และพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ทำให้ ‘มิ่งขวัญ’ หลุดจากวงจรอำนาจไป ต่อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ‘มิ่งขวัญ’ ไม่ได้เป็น ‘รัฐมนตรี’ แม้จะอยู่ในบัญชีรายชื่อส.ส. ลำดับต้นๆ ของพรรคเพื่อไทย ก็ตาม ทำให้ ‘มิ่งขวัญ’ ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ก่อนหายไปจากสนามการเมืองหลายปี แล้วมาตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย สู้เลือกตั้งปี 2562 ได้เป็น ส.ส. เข้าสภาฯ ในซีกฝ่ายค้าน ก่อนที่ ส.ส. คนอื่นๆ จะแปรพักตร์มาอยู่ซีกรัฐบาลแทน ส่วน ‘มิ่งขวัญ’ ยังคงอยู่ฝ่ายค้าน
ซึ่ง ‘มิ่งขวัญ’ ประกาศจุดยืนชัดไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ และไม่ร่วมสังฆกรรมกับ พปชร. ในหลายครั้ง พร้อมเปิดศึกอภิปราย ‘บิ๊กตู่’ ในสภาฯ จนถูกมองว่าเป็น ‘ศึกสายเลือด’ เพราะ ‘มิ่งขวัญ’ กับ ‘บิ๊กตู่’ เป็นรุ่นพี่ ร.ร.วัดนวลนรดิศ 1 ปี ซึ่ง ‘มิ่งขวัญ’ เคยเล่าถึงภาพจำ ‘บิ๊กตู่’ สมัยเรียน ร.ร.วัดนวลนรดิศ ว่า เวลาเข้าแถวจะยืนนจากสูงตามลำดับไหล่ พล.อ.ประยุทธ์ จะยืนแถวหน้าๆ ส่วนตนจะยืนกลางๆ
อย่างไรก็ตามอย่าได้แปลกใจที่ ‘มิ่งขวัญ’ มาซบอก พปชร. เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าว ‘มิ่งขวัญ’ จะมาร่วมรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือผู้ที่ออกมา ‘ฉีกหน้ามิ่งขวัญ’ กลางสภาฯ ย้อนไปเมื่อ 9 ตุลาคม 2563 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวโต้ ‘มิ่งขวัญ’ ตอนหนึ่งว่า “ที่บอกว่าผมบริหารล้มเหลว ผมประคับประคองให้เศรษฐกิจฟื้นฟูได้ ให้ไม่เลิกจ้างพนักงาน ก็ต้องขอบคุณท่านในฐานะอดีตรองนายกฯ มีความรู้ดี ท่านก็คุยกับผมมาหลายรอบ ท่านก็เคยพูดกับผมว่าท่านพร้อมเข้ามาช่วยเป็นรองนายกฯ แต่ผมคงไม่รับเพราะผมมีครบแล้ว มีเต็มแล้ว เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”
ผ่านมา 2 ปี ‘มิ่งขวัญ’ มาเปิดตัวอยู่กับ ‘พลังประชารัฐ’ พรรคของพี่ใหญ่ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ โดยให้เหตุผลว่า ‘บิ๊กตู่’ ไม่ได้อยู่ พปชร. แล้ว จึงเข้ามาอยู่ แต่งานนี้ไม่รู้พูดนอกสคริปต์หรือไม่ เรื่องคุยกับ พล.อ.ประวิตร ที่จะเสนอเข้าที่ประชุมให้เป็นหนึ่งใน ‘แคนดิเดตนายกฯ พปชร.’ ทำเอา ‘บิ๊กป้อม’ กับ ‘แกนนำ พปชร.’ ที่ยืนแผงถึงกับออกอาการ ‘เหวอ’ ไปตามๆ กัน ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องรีบตัดบทโยนให้สมาชิก และ กก.บห. พิจารณา เรียกว่า พปชร. สามัคคีทันควัน ออกมาต้าน ‘มิ่งขวัญ’ ในการขึ้นเป็น ‘แคนดิเดตนายกฯ’ เรียกว่า ‘มิ่งขวัญ’ ม้วนเดียวจบจริงๆ
อีกแง่มีการมองว่า ‘มิ่งขวัญ’ ตกหลุมพราง ‘พยัคฆ์เฒ่า’ หรือไม่ ในการ ‘ตัดกำลัง’ ขั้วต่อต้าน ‘บิ๊กตู่’ ไปเรื่อยๆ ดึง ‘ศัตรู’ มาไว้ใกล้ตัวขั้วอำนาจ 3ป. เพราะกรณี ‘มิ่งขวัญ’ ไม่ใช่คนแรกจากอดีตคน ‘ขั้วทักษิณ’ ที่มาอยู่ พปชร. ใต้เงาพี่ใหญ่ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’