แรงฮึด! ‘ก้าวไกล’ เข็น รธน.ถึงฝั่งฝัน?

18 ส.ค. 2566 - 03:20

  • แม้การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ จะเป็นเรื่องยากและถูกตีตกไปหลายครั้ง แต่ ‘ก้าวไกล’ ยังมีแรงฮึด! ชงญัตติด่วน ขอให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ ครม.ดำเนินการให้ออกเสียงประชามติ ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คู่ขนานกับ ‘ภาคประชาชน’ที่ออกล่า 50,000 รายชื่อทำประชามติ แต่‘ความฝัน’นี้ จะไปถึงฝั่งได้จริงหรือไม่?

Moveforword-Party-Fighting-walk-on-draft-new-constituional-SPACEBAR-Thumbnail
‘รัฐธรรมนูญ 2560’ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่กลับแก้ไขได้ยาก ด้วยบทบัญญัติที่ ‘มีชัย ฤชุพันธุ์’ วางล็อกไว้หลายชั้น แม้รัฐสภาจะช่วยกันขับเคลื่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายต่อหลายฉบับ แต่ก็ถูกตีตกเกือบทั้งหมด มีเพียงฉบับเดียวที่แก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้งเท่านั้นที่สามารถผ่านด่านมาได้  

แม้จะยุ่งยากซับซ้อน แต่ไม่มีใครท้อ ‘พรรคเพื่อไทย’ ว่าที่ ครม.ในอนาคต ประกาศชัด พร้อมร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ทันทีในการประชุม ครม.นัดแรก ขณะที่กลุ่ม ‘ประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ’ เปิดแคมเปญล่า 50,000 รายชื่อเสนอทำประชามติเพื่อทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชน คู่ขนานไปกับ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่เสนอญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ ครม.ดำเนินการให้ออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 

‘ไอติม’ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ย้ำขั้นตอนการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ประชาชนต้องเข้าคูหาทั้งหมด 4 ครั้ง ประกอบด้วย 
  • ครั้งที่ 1 ทำประชามติว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนจะเสนอร่างใดๆ เข้ารัฐสภา แม้ไม่จำเป็นในแง่กฎหมาย แต่จะขัดเจตนารมณ์ของประชาชนไม่ได้  
  • ครั้งที่ 2 ทำประชามติว่า เห็นด้วยหรือไม่กับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การมี สสร. มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยจัดทำหลังผ่านการเห็นชอบ 3 วาระของรัฐสภา  
  • ครั้งที่ 3 การเลือกตั้ง สสร. เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 
  • ครั้งที่ 4 ทำประชามติว่า เห็นด้วยหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดย สสร. 
‘พริษฐ์’ ย้ำว่า สสร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อวางหลักประกันว่า ทุกการตัดสินใจมาจากตัวแทนของประชาชน ส่วนจำนวนของ สสร. ระบบเลือกตั้งและกรอบระยะเวลาการทำงานของ สสร. ต้องพิจารณาหลังผ่านการทำประชามติครั้งแรกไปแล้ว  

แม้ว่า แนวทางของเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในอนาคต ดูเหมือนจะสอดคล้องกับพรรคก้าวไกลที่ต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดย สสร. แต่สิ่งที่แตกต่างคือ พรรคการเมืองอื่นจะไม่แตะต้อง หมวด 1-2  

เช่นนี้แล้ว การเดินหน้าของก้าวไกล จะผ่านด่านได้หรือไม่? 

‘พริษฐ์’ มองข้อกังวลนี้ว่า เกิดจากความเข้าใจว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ หากจะแก้ไขหมวดที่ 1 และ 2 อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ แต่ยืนยันว่า ‘ไม่เป็นเช่นนั้น’ เพราะมาตรา 255 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เขียนไว้ชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบรัฐ เป็นรัฐเดี่ยวได้  

“เพื่อเพิ่มความสบายใจ ขอชี้แจงว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แต่ละครั้งที่ผ่านมา มีการแก้ไขบางถ้อยคำในหมวด 1-2 ตลอด แต่ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง แม้รัฐธรรมนูญ 2560 ก็เปิดให้สามารถแก้ไขหมวด 1-2 ได้ หากไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองและรูปแบบรัฐ เพียงแต่กำหนดว่า รัฐสภาพิจารณา 3 วาระ ถ้าแก้ไขหมวด 1-2 แล้ว ต้องจัดทำประชามติเพื่อถามความเห็นชอบจากประชาชนอีกรอบหนึ่ง”  

นอกจากนี้ เมื่อปี 2565 มีญัตติด่วนเกี่ยวกับการจัดทำประชามติที่ได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎร เพียงแค่ไม่ผ่านด่าน ‘วุฒิสภา’ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นญัตติที่ขอให้จัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง จึงกังวลเรื่องกรอบเวลาที่กระชั้นชิด แต่ขณะนี้ ล่วงเลยการเลือกตั้งมาแล้ว จึงเชื่อว่า ญัตตินี้ จะ ‘ผ่านด่าน’ ทั้ง 2 สภาฯ จนนำไปสู่ ครม. โดยที่ไม่ใช่การส่งเพื่อผ่านอีกหนึ่งด่าน แต่เป็นการแจ้งต่อ ครม.เท่านั้น 

“หากยึดตาม กม.ประชามติ จะเขียนไว้ว่า รัฐสภาพิจารณาแล้วมีมติแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการออกเสียงและได้แจ้งเรื่องให้ ครม.ดำเนินการ จะเห็นว่า ไม่ได้เขียนว่า เป็นการไปขอความเห็นชอบจาก ครม. ดังนั้น ในมุมมองของผม ถ้าสภาโหวตเห็นชอบ ก็เป็นการแจ้งให้ ครม.ดำเนินการ ไม่ได้ขอให้พิจารณาว่าเห็นชอบหรือไม่”  

เมื่อถนน 2 สาย ทั้งพรรคก้าวไกลและกลุ่มประชาชนเดินหน้ากระบวนการจัดทำประชามติแบบเต็มสูบ ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า นี่เป็นการกดดัน ครม.ในอนาคตแบบสองทางหรือไม่ แต่พริษฐ์ ย้ำว่า เดินหน้าตามนโยบาย เพราะก้าวไกลเห็นถึงความจำเป็นในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกลที่พูด พรรคการเมืองอื่นก็สื่อสารออกมาเช่นกัน 

แต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับก้าวไกลนี้ จะกลายเป็น ‘รัฐธรรมนูญฉบับพิมพ์ส้ม’ หรือไม่? 

พริษฐ์ ยืนยันว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่สะท้อนฉันทามติของสังคมไทย เป็นฉันทามติที่โอบรัดความฝัน และชุดความคิดที่แตกต่างหลากหลายของสังคม ดังนั้น จึงไม่ควรเป็น ‘รัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง’  

แต่สุดท้าย ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใต้การผลักดันของ ‘ก้าวไกล’ จะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่? คงต้องลุ้นกันอีกสักตั้ง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์