จากกรณีการจัดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดกระแสดรามาการใช้ถ้อยคำและการแสดงท่าทางของ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่กล่าวในลักษณะดูหมิ่นมหาวิทยาลัยทักษิณ และ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รองหัวหน้าพรรค ที่ได้มีการทำท่าทางล้อเลียนหัวหน้าการเมืองพรรคบางพรรค ซึ่ง้หลายฝ่ายตีความว่าเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมของ ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ จนเกิดการตำหนิจากอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปัจจุบันสังกัดอยู่พรรคพลังประชารัฐ อย่าง ‘นิภิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ แกนนำพรรค และ ‘อันวา สาและ’ อดีต ส.ส.ปัตตานี ที่ออกมาแสดงความเห็นให้รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขอโทษพลเอกประวิตรที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าว SPACEBAR ได้พูดคุยกับนิพนธ์ บุญญามณี โดยเจ้าตัวให้ความเห็น ว่ามีบางคนพยายามนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ในส่วนกรณี ชัยชนะ เดชเดโช ที่เดิมทีไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่เมื่อมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก็ได้มีการออกมาขอโทษผู้บริหารของสถาบันที่กล่าวพาดพิงแล้ว แต่มีคนไม่ยอมจบ เป็นบุคี่สังกัดพรรคการเมือง ที่พยายามจัดทำป้ายี่อันมีเนื้อหาด้อยค่าผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขี้ขาด เพราะเมื่อคิดจะต่อว่า ‘เพื่อน’ ก็ไปขึ้นป้ายแต่ไม่ยอมระบุชื่อไม่ระบุพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการล้อเลียนท่าทางของพลเอกประวิตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปราศัยบนเวทีที่จังหวัดพัทลุงเป็นเวทีหาเสียง ไม่ใช่ ‘เวทียอวาที’ ซึ่งแตกต่างกัน ส่วนตัวอยู่พรรคประชาธิปัตย์จะให้ไปปราศัยสนับสนุนพรรคอื่นก็ไม่ถูกต้อง พร้อมกล่าวถึงอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ ว่าเป็นคนไม่มีประสบการณ์ ไม่เข้าใจวิธีการหาเสียง
“ผมไม่อยากตอบโต้อะไรเพราะเป็นเรื่องไร้สาระ และสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าตอนอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยกมือให้ร่วมรัฐบาลบอกว่าต่อต้านเผด็จการ แต่วันนี้ไปอยู่กับคนที่ตัวเองเคยบอกว่ายึดอำนาจมา ผมไม่ให้ราคากับคนกลุ่มนี้ ผมทำการเมืองมา 35 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นรู้ว่าอะไรเป็นประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นิพนธ์ กล่าวย้ำว่า ในการปราศัยที่จังหวัดพัทลุง ส่วนตัวพยายามเปรียบเทียบ 3 ข้อแตกต่างระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองอื่นๆ คือ ความแตกต่างด้านพรรคต่อพรรค นโยบายต่อนโยบาย และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ
ฉะนั้นการยกข้อเปรียบเทียบดังกล่าวก็เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจตอนเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามใคร และส่วนตัวก็เคารพพลเอกประวิตรอยู่แล้ว เพราะเคยร่วมรัฐบาลเดียวกันในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และสิ่งที่พูดที่แสดงเป็นการเปรียบเทียบ ว่าใครพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเท่านั้น ไม่ได้บูลลี่แต่มีบางคนพยายามเชื่อมโยงเพื่อเป็นการเอาใจ ‘ผู้ใหญ่’ พร้อมย้ำจะเดินไปข้างหน้า ไม่ข้อโต้แย้งต่อในเรื่องนี้
ความคืบหน้าล่าสุด ทีมข่าว SPACEBAR ได้พูดคุยกับนิพนธ์ บุญญามณี โดยเจ้าตัวให้ความเห็น ว่ามีบางคนพยายามนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ในส่วนกรณี ชัยชนะ เดชเดโช ที่เดิมทีไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่เมื่อมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก็ได้มีการออกมาขอโทษผู้บริหารของสถาบันที่กล่าวพาดพิงแล้ว แต่มีคนไม่ยอมจบ เป็นบุคี่สังกัดพรรคการเมือง ที่พยายามจัดทำป้ายี่อันมีเนื้อหาด้อยค่าผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขี้ขาด เพราะเมื่อคิดจะต่อว่า ‘เพื่อน’ ก็ไปขึ้นป้ายแต่ไม่ยอมระบุชื่อไม่ระบุพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการล้อเลียนท่าทางของพลเอกประวิตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปราศัยบนเวทีที่จังหวัดพัทลุงเป็นเวทีหาเสียง ไม่ใช่ ‘เวทียอวาที’ ซึ่งแตกต่างกัน ส่วนตัวอยู่พรรคประชาธิปัตย์จะให้ไปปราศัยสนับสนุนพรรคอื่นก็ไม่ถูกต้อง พร้อมกล่าวถึงอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ ว่าเป็นคนไม่มีประสบการณ์ ไม่เข้าใจวิธีการหาเสียง
“ผมไม่อยากตอบโต้อะไรเพราะเป็นเรื่องไร้สาระ และสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าตอนอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยกมือให้ร่วมรัฐบาลบอกว่าต่อต้านเผด็จการ แต่วันนี้ไปอยู่กับคนที่ตัวเองเคยบอกว่ายึดอำนาจมา ผมไม่ให้ราคากับคนกลุ่มนี้ ผมทำการเมืองมา 35 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นรู้ว่าอะไรเป็นประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นิพนธ์ กล่าวย้ำว่า ในการปราศัยที่จังหวัดพัทลุง ส่วนตัวพยายามเปรียบเทียบ 3 ข้อแตกต่างระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองอื่นๆ คือ ความแตกต่างด้านพรรคต่อพรรค นโยบายต่อนโยบาย และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ
ฉะนั้นการยกข้อเปรียบเทียบดังกล่าวก็เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจตอนเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามใคร และส่วนตัวก็เคารพพลเอกประวิตรอยู่แล้ว เพราะเคยร่วมรัฐบาลเดียวกันในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และสิ่งที่พูดที่แสดงเป็นการเปรียบเทียบ ว่าใครพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเท่านั้น ไม่ได้บูลลี่แต่มีบางคนพยายามเชื่อมโยงเพื่อเป็นการเอาใจ ‘ผู้ใหญ่’ พร้อมย้ำจะเดินไปข้างหน้า ไม่ข้อโต้แย้งต่อในเรื่องนี้