



สำหรับความเคลื่อนไหว หน้าอาคารรัฐสภาวันนี้ (13 ก.ค. 66) ล่าสุดมีประชาชนสวมเสื้อสีส้มจำนวนหนึ่งเดินทางมาติดตามสถานการณ์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้
‘นภัสสร บุญรีย์’ อายุ 61 ปี หนึ่งในกลุ่มมวลชนอิสระ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินทางมาปักหลักบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ช่วงถนนทหาร ตั้งแต่ค่ำวานนี้ (12 ก.ค. 66) โดยมีจุดประสงค์หลัก ให้กำลังใจ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ในการประชุมรัฐสภา โหวตนายกรัฐมนตรีวันนี้ และเพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อ ส.ส. - ส.ว. ทั้ง 750 คน ให้เห็นว่า ประชาชนต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตนายกฯ เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย โดยยึดหลักพรรคที่ได้เสียงเป็นอันดับที่หนึ่ง
ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนอิสระได้นำแผ่นป้ายที่เขียนข้อความแสดงจุดยืนของการเรียกร้อก อาทิ ‘วันนี้จะมีคนวิ่งราวตำแหน่งนายก’ , ‘ส.ว. อย่าโหวต สวนมติประชาชน’ และ ‘พิธา คือนายกฯ คนที่ 30 ที่ 14 ล้านเสียงเลือกมาอย่างชอบธรรม ใครคิดจะล้ม อย่าหาทำกูไม่ยอม’ พร้อมสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำพรรคก้าวไกลด้วย
นภัสสร เล่าต่อว่า กลุ่มของเธอเดินทางมาจากหลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยบางส่วนได้เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืน จำนวนประมาณ 30 คน ส่วนตัวเคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาคมทมิฬ 2535 และเคยออกมาชุมนุมคัดค้านการรัฐประหาร ในปี 2549 ในฐานะแนวร่วมกลุ่ม นปช. ก่อนจะร่วมกับเครือข่ายคนหนุ่มสาว ในการคัดค้านการบริหารของรัฐบาลคสช. ที่นำโดย ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’
เมื่อถามว่า จะมีแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างไร นภัสสร บอกว่า หลัก ๆ จะปักหลักอยู่ ณ บริเวณนี้
วันนี้ จนกว่าจะทราบผลการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำเนินกิจกรรมต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติของ 'อานนท์ นำภา' แกนนำคณะราษฎร และมวลชลกลุ่มต่าง ๆ ที่นัดหมายจะเดินทางมายังหน้าอาคารรัฐสภา ในช่วงบ่ายวันนี้
โดยช่วงเวลาประมาณ 09:15 น. 'ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาลำดับที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบริเวณถนนทหาร ว่า ได้มาทำตามนโยบายของของประธานรัฐสภา ที่ให้ศูนย์เยาวชนเกียกกาย หรือศูนย์ราชการเกียกกายแห่งนี้ เป็นพื้นที่ชุมนุมอย่างปลอดภัย และประชาชนได้รับความสะดวก ซึ่งได้ประสานกรุงเทพมหานครมาไว้ก่อนแล้ว
จากการเข้าไปตรวจดูสถานที่ยังไม่ได้มีอะไรติดขัด สำหรับผู้ชุมนุม แค่ห้องน้ำไม่เพียงพอ ต้องขอให้ กทม.มาช่วยเหลือเพิ่มเติม และคิดว่าตอนนี้ ถนนสามเสนไม่เหมาะกับการชุมนุม เพราะมีไซต์ก่อสร้างจำนวนมาก จะเป็นอันตราย และเรามีหน้าที่อำนวยความสะดวก ส่วนผู้ชุมนุมจะใช้พื้นที่ตรงไหน เป็นสิทธิของเขา ทั้งนี้ถ้าคนมาเยอะแล้วล้นออกไปก็ค่อยว่ากันหน้างาน ตอนนี้สภาก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
พร้อมมองว่าการประชุมวันนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลถ้าเปิดประชุมผ่านไปได้ด้วยดี ก็น่าจะลงมติได้ในเวลา 17.00 น. ส่วนการที่ตำรวจมาตั้งตู้คอนเทรนอนเนอร์นั้น มองว่า ตำรวจคงจัดตั้งตามผู้มีอำนาจและคงไม่มาล่วงล้ำมายังสภาได้ แต่ก็อยากให้รักษาความปลอดภัย และรักษาสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน
ช่วงจังหวะหนึ่งที่ ‘หมออ๋อง’ เดินผ่านกลุ่มประชาชน มีมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้โผลเข้าสวมกอด และพูดให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งปดิพัทธ์ได้สวมกอดยิ้มรับ แต่ไม่ได้กล่าวอะไรกับมวลชน ก่อนเดินเข้าไปอาคารรัฐสภาทันที
‘นภัสสร บุญรีย์’ อายุ 61 ปี หนึ่งในกลุ่มมวลชนอิสระ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินทางมาปักหลักบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ช่วงถนนทหาร ตั้งแต่ค่ำวานนี้ (12 ก.ค. 66) โดยมีจุดประสงค์หลัก ให้กำลังใจ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ในการประชุมรัฐสภา โหวตนายกรัฐมนตรีวันนี้ และเพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อ ส.ส. - ส.ว. ทั้ง 750 คน ให้เห็นว่า ประชาชนต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตนายกฯ เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย โดยยึดหลักพรรคที่ได้เสียงเป็นอันดับที่หนึ่ง
ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนอิสระได้นำแผ่นป้ายที่เขียนข้อความแสดงจุดยืนของการเรียกร้อก อาทิ ‘วันนี้จะมีคนวิ่งราวตำแหน่งนายก’ , ‘ส.ว. อย่าโหวต สวนมติประชาชน’ และ ‘พิธา คือนายกฯ คนที่ 30 ที่ 14 ล้านเสียงเลือกมาอย่างชอบธรรม ใครคิดจะล้ม อย่าหาทำกูไม่ยอม’ พร้อมสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำพรรคก้าวไกลด้วย
นภัสสร เล่าต่อว่า กลุ่มของเธอเดินทางมาจากหลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยบางส่วนได้เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืน จำนวนประมาณ 30 คน ส่วนตัวเคยร่วมกิจกรรมทางการเมืองแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาคมทมิฬ 2535 และเคยออกมาชุมนุมคัดค้านการรัฐประหาร ในปี 2549 ในฐานะแนวร่วมกลุ่ม นปช. ก่อนจะร่วมกับเครือข่ายคนหนุ่มสาว ในการคัดค้านการบริหารของรัฐบาลคสช. ที่นำโดย ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’
เมื่อถามว่า จะมีแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างไร นภัสสร บอกว่า หลัก ๆ จะปักหลักอยู่ ณ บริเวณนี้
วันนี้ จนกว่าจะทราบผลการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำเนินกิจกรรมต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติของ 'อานนท์ นำภา' แกนนำคณะราษฎร และมวลชลกลุ่มต่าง ๆ ที่นัดหมายจะเดินทางมายังหน้าอาคารรัฐสภา ในช่วงบ่ายวันนี้
“ส.ส. กับ ส.ว. ควรโหวตให้แคนดิเดต จากพรรคการเมือง ที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีใครควรสวมมติของประชาชนเสียงส่วนมาก แต่หากถึงวาระที่พักเก้าไกลจำเป็นต้องลดเพดาน ส่วนตัวเชื่อว่ามวลชนส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา เพราะเป็นการถอยเพื่อเดินหน้า ในการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน”
นภัสสร กล่าว
โดยช่วงเวลาประมาณ 09:15 น. 'ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาลำดับที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบริเวณถนนทหาร ว่า ได้มาทำตามนโยบายของของประธานรัฐสภา ที่ให้ศูนย์เยาวชนเกียกกาย หรือศูนย์ราชการเกียกกายแห่งนี้ เป็นพื้นที่ชุมนุมอย่างปลอดภัย และประชาชนได้รับความสะดวก ซึ่งได้ประสานกรุงเทพมหานครมาไว้ก่อนแล้ว
จากการเข้าไปตรวจดูสถานที่ยังไม่ได้มีอะไรติดขัด สำหรับผู้ชุมนุม แค่ห้องน้ำไม่เพียงพอ ต้องขอให้ กทม.มาช่วยเหลือเพิ่มเติม และคิดว่าตอนนี้ ถนนสามเสนไม่เหมาะกับการชุมนุม เพราะมีไซต์ก่อสร้างจำนวนมาก จะเป็นอันตราย และเรามีหน้าที่อำนวยความสะดวก ส่วนผู้ชุมนุมจะใช้พื้นที่ตรงไหน เป็นสิทธิของเขา ทั้งนี้ถ้าคนมาเยอะแล้วล้นออกไปก็ค่อยว่ากันหน้างาน ตอนนี้สภาก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
พร้อมมองว่าการประชุมวันนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลถ้าเปิดประชุมผ่านไปได้ด้วยดี ก็น่าจะลงมติได้ในเวลา 17.00 น. ส่วนการที่ตำรวจมาตั้งตู้คอนเทรนอนเนอร์นั้น มองว่า ตำรวจคงจัดตั้งตามผู้มีอำนาจและคงไม่มาล่วงล้ำมายังสภาได้ แต่ก็อยากให้รักษาความปลอดภัย และรักษาสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน
ช่วงจังหวะหนึ่งที่ ‘หมออ๋อง’ เดินผ่านกลุ่มประชาชน มีมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้โผลเข้าสวมกอด และพูดให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งปดิพัทธ์ได้สวมกอดยิ้มรับ แต่ไม่ได้กล่าวอะไรกับมวลชน ก่อนเดินเข้าไปอาคารรัฐสภาทันที