พรรคก้าวไกลได้ชื่อว่าเป็นพรรค ‘เชิงอุดมการณ์’ เป็นพรรคที่ทุกก้าวย่างการ ‘เคลื่อนไหวการเมือง’ ย้อมมี ‘นัยยะแฝง’ อยู่ทั้งหมด เพื่อสื่อความหมายลึกซึ้งภายใน เช่น การใช้สถานที่ต่างๆ ที่ล่าสุดพรรคก้าวไกลได้นัด 5 พรรค ที่จะมาจับมือตั้งรัฐบาล ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่าน ถ.สุโขทัย เป็นบ้านสไตล์ยุโรป ที่อดีตเป็นบ้านเจ้าพระยา ในสมัยรัชกาลที่ 6 ย้อนไปประมาณ 25 ปีก่อน เมื่อปี 2531 บ้านหลังนี้ถูกใช้เป็น ‘เซฟเฮาส์’ จัดตั้งรัฐบาล ‘น้าชาติ’พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่เป็นรัฐบาลยุคหลัง ‘ป๋าเปรม’ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็น นายกฯ หลัง ‘ป๋าเปรม’ เป็นนายกฯ มายาวนาน 8 ปี จนสุดท้ายได้กล่าวว่า “ผมพอแล้ว”
ซึ่งเหตุการณ์ ‘ป๋าเปรม’ ในยุคนั้น ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในยุคนี้ ที่ในยุค ‘ป๋าเปรม’ ถูกมองว่าเป็น ‘ประชาธิปไตยครึ่งใบ’ เป็น นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และครองอำนาจมายาวนานคล้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในอำนาจยุค คสช. มา 5 ปี และตั้ง ‘พรรคทหาร’ ขึ้นมา เพื่อเสนอชื่อตนเองขึ้นเป็น นายกฯ แต่ก็ไม่ได้เป็น ‘สมาชิกพรรค-ไม่ได้เป็น ส.ส.’ ดังนั้นการเลือกบ้านหลังดังกล่าว ในแง่หนึ่งก็เพื่อ ‘ส่งสัญญาณ’ ทางการเมืองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และฉายภาพ ‘เกมอำนาจ’ ครั้งใหม่
ทั้งนี้ได้รับการ ‘คอนเฟิร์ม’ จากทีมพรรคก้าวไกลว่าเป็น ‘ความตั้งใจ’ ไม่ใช่ ‘ความบังเอิญ’ แต่อย่างใด อีกทั้งน่าสนใจเรื่อง ‘ทำเล’ ที่ตั้งบ้านหลังนี้ ที่อยู่ใกล้ ‘พื้นที่สำคัญเชิงอำนาจ’ ต่างๆ โดยรอบ เช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล เป็นต้น
ทว่าชะตากรรมของ พล.อ.ชาติชาย สุดท้ายถูก ‘ยึดอำนาจ’ โดย รสช. ที่ทำรัฐประหาร ในปี 2534 ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่คณะ รปห. ทำการยึดอำนาจคือ รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการทุจริต อันนำมาสู่ฉายารัฐบาลที่ว่า ‘บุปเฟ่ต์คาบิเนต’ นั่นเอง อีกทั้งรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ยังถูกโจมตีว่าเป็น ‘เผด็จการรัฐสภา’ ด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่งยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ก็มีผลงานสำคัญคือ ‘เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า’ กับ 4 ประเทศคาบสมุทรอินโดจีน และมีตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก จนมีเป้าหมายว่าไทยจะเป็น ‘เสือตัวที่ 5’ ของเอเชีย
ซึ่งเหตุการณ์ ‘ป๋าเปรม’ ในยุคนั้น ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในยุคนี้ ที่ในยุค ‘ป๋าเปรม’ ถูกมองว่าเป็น ‘ประชาธิปไตยครึ่งใบ’ เป็น นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และครองอำนาจมายาวนานคล้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในอำนาจยุค คสช. มา 5 ปี และตั้ง ‘พรรคทหาร’ ขึ้นมา เพื่อเสนอชื่อตนเองขึ้นเป็น นายกฯ แต่ก็ไม่ได้เป็น ‘สมาชิกพรรค-ไม่ได้เป็น ส.ส.’ ดังนั้นการเลือกบ้านหลังดังกล่าว ในแง่หนึ่งก็เพื่อ ‘ส่งสัญญาณ’ ทางการเมืองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และฉายภาพ ‘เกมอำนาจ’ ครั้งใหม่
ทั้งนี้ได้รับการ ‘คอนเฟิร์ม’ จากทีมพรรคก้าวไกลว่าเป็น ‘ความตั้งใจ’ ไม่ใช่ ‘ความบังเอิญ’ แต่อย่างใด อีกทั้งน่าสนใจเรื่อง ‘ทำเล’ ที่ตั้งบ้านหลังนี้ ที่อยู่ใกล้ ‘พื้นที่สำคัญเชิงอำนาจ’ ต่างๆ โดยรอบ เช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล เป็นต้น
ทว่าชะตากรรมของ พล.อ.ชาติชาย สุดท้ายถูก ‘ยึดอำนาจ’ โดย รสช. ที่ทำรัฐประหาร ในปี 2534 ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่คณะ รปห. ทำการยึดอำนาจคือ รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการทุจริต อันนำมาสู่ฉายารัฐบาลที่ว่า ‘บุปเฟ่ต์คาบิเนต’ นั่นเอง อีกทั้งรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ยังถูกโจมตีว่าเป็น ‘เผด็จการรัฐสภา’ ด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่งยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ก็มีผลงานสำคัญคือ ‘เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า’ กับ 4 ประเทศคาบสมุทรอินโดจีน และมีตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก จนมีเป้าหมายว่าไทยจะเป็น ‘เสือตัวที่ 5’ ของเอเชีย
